grandprixactual (1)
Search
Close this search box.

Category: ตำนาน

ตำนานอาถรรพ์เจ้าหญิง อาเมน – รา 

       อาถรรพ์เจ้าหญิง เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องราวความน่ากลัวของอาถรรพ์ของโลงศพเจ้าหญิง   อาเมน – รา  กันมาบ้างแล้ว  ซึ่งตอนที่มีการค้นพบโลงศพของเจ้าหญิงนั้นก็ว่าน่ากลัวแล้วเพราะเศรษฐีหนุ่มทั้ง 4 คนที่เป็นเพื่อนกันที่เป็นคนนำโรงศพของเจ้าหญิงออกมาจากสงสารต่างก็ได้รับผลกรรมที่ทำมาจนเสียชีวิตตายทั้งหมดแต่เรื่องราวอาถรรพ์นั้นไม่ได้จบเพียงแค่เท่านั้น

       เนื่องจากว่าโลงศพนั้นถูกนำออกมาจากสุสานและถูกส่งมาประเทศอังกฤษเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยก่อนที่เศรษฐีทั้ง 4 คนจะเสียชีวิตเขาได้มีการประกาศขายโลงศพของเจ้าหญิง   อาเมน – รา และได้มีคนรับซื้อซึ่งคนที่รับซื้อโลงศพของเจ้าหญิง   อาเมน – รา นั้น เป็นนักธุรกิจคนหนึ่งที่ทำธุรกิจอยู่ในเมืองลอนดอนประเทศอังกฤษนั่นเอง

           และหลังจากที่เขาได้รับโลงศพมาไว้ในบ้านของเขาก็ทำให้ตัวเขาเองและสมาชิกในครอบครัวของเขานั้นต่างก็ต้องเจอกับเรื่องราวอาถรรพ์ที่น่ากลัวมากมายจนท้ายที่สุดเขาจำเป็นที่จะต้องนำโรงศพนั้นไปมอบให้แก่พิพิธภัณฑ์เพื่อที่อาถรรพ์ที่เขาได้เจอนั้นจะได้สิ้นสุดลง

          โดยเหตุการณ์ที่เราและคนในครอบครัวเธอนั้นก็คือหลังจากที่โลงศพเดินทางมาถึงประเทศอังกฤษและเขาได้นำโรงศพมาเก็บไว้ที่บ้านปรากฏว่าคนในครอบครัวของนักธุรกิจหนุ่มนั้นต่างก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตกันไปทีละคนสองคนจนไม่เหลือแม้แต่คนเดียวและที่สำคัญบ้านของนักธุรกิจหนุ่มนั้นก็ประสบกับปัญหาไฟไหม้โดยที่ไม่ทราบสาเหตุ

           ซึ่งแน่นอนว่าเขาเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นน่าจะเป็นอาหารที่มาจากโรงศพของเจ้าหญิง   อาเมน – รา ทำให้เขาตัดสินใจที่จะบริจาคโลงศพนี้ให้กับพิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งของประเทศอังกฤษ  แต่เรื่องอาถรรพ์ก็ไม่ได้จบลงเพียงแค่เท่านั้นเพราะเมื่อทางพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์แล้วปรากฏว่าพิพิธภัณฑ์เองก็โดนเรื่องราวอาถรรพ์ของโรงศพนี้เช่นเดียวกันเพราะหลังจากที่ได้รับโลงศพไปไว้แสดงในพิพิธภัณฑ์ก็มีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง

                โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดเหตุการณ์คนร้ายบุกเข้าไปในพิพิธภัณฑ์และทำร้ายนักท่องเที่ยวที่เข้าไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์รวมถึงยังมีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมาก  จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพิพิธภัณฑ์  ก็จำเป็นที่จะต้องนำโลงศพของ เจ้าหญิง   อาเมน – รา ออกจากพิพิธภัณฑ์เพื่อหลีกเลี่ยงอาถรรพ์ซึ่งได้มีนักโบราณคดีคนหนึ่งเขาไม่เคยเชื่อเกี่ยวกับเรื่องราวอาถรรพ์เลยจึงได้รับเอาโรงศพของเจ้าหญิง   อาเมน – รา มาไว้เองไว้เอง

             โดยมีการย้ายไปไว้ที่เมืองนิวยอร์ก  โดยการขนส่งทางเรือซึ่งอาถรรพ์เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งเมื่อนำดังกล่าวนั้นได้จมลงในมหาสมุทรผู้โดยสารที่อยู่บนเรือดังกล่าวตายไปทั้งหมด 1500 คน เหลือคนรอดชีวิตไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น และโลงศพของ เจ้าหญิง   อาเมน – รา ก็หายสาปสูญจากเหตุการณ์เรือล่ม ในครั้งนั้น เช่นเดียวกัน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    ufabet ฝาก-ถอน ออโต้

ตำนานแม่นากพระขโนงคือผีเฮี้ยนเป็นเรื่องจริงหรือไม่?

ตำนานแม่นากพระขโนง ซึ่งตามข้อมูลนี้เขาก็ได้ลงข้อมูลเอาไว้ว่าในความโชคร้ายตรงนี้มันได้มาเกิดกับแม่นาคเสียด้วยโดยความโชคร้ายตรงนี้นั่นก็คือลูกในท้องของแม่นาคไม่ได้คลอดออกมาและเสียชีวิตในท้องของแม่นาคและแม่นาคก็ได้เสียชีวิตไปพร้อมกับลูกของเขาด้วยเนื่องจากลูกของเขานั้นไม่ได้กลับหัวออกมา

เพื่อที่จะคลอดแต่หัวกับอยู่ตรงข้ามกับส่วนเท้ามันเลยทำให้เกิดเหตุการณ์คลอดยากและสุดท้ายร่างกายของแม่นาคก็ไม่สามารถที่จะทนแรงเจ็บปวดนั้นได้ทำให้เสียชีวิตไปทั้งแม่และลูกหรือจะเรียกสั้นๆว่าตายทั้งกลมนั่นเอง

โดยหลังจากที่แม่นาคได้เสียชีวิตไปหมอตำแยก็ได้ลงมาแจ้งข่าวกับชาวบ้านว่าแม่นาคเขาได้เสียชีวิตลงไปแล้วและได้เป็นการเสียชีวิตตายทั้งกลมหรือว่าลูกเสียชีวิตในท้องแบะแม่ก็เสียชีวิตไปด้วย

ดังนั้นหลังจากที่ได้แจ้งชาวบ้านไปนั้นชาวบ้านก็ตกใจแล้วก็มีความหวาดกลัวอยู่พอสมควรเลยเนื่องจากว่าคนสมัยก่อนได้มีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของการตายทั้งกลมค่อนข้างที่จะน่ากลัวมานั่นก็คือถ้าหากว่าตายทั้งกลมและวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตนั้นไม่ได้สงบลงวิญญาณของผู้เสียชีวิตก็อาจจะวนเวียนและตามมาหลอกหลอนคนที่อยู่บริเวณก็ได้

เนื่องจากว่าตามความเชื่อก็คือวิญญาณที่ตายทั้งกลมเขาจะมีพลังมากว่าวิญญาณทั่วไปหลายเท่ามากแน่นอนแล้วว่าหลังจากที่ชาวบ้านได้ยินแบบนั้นเขาก็รีบนำเอาศพของแม่นาคไปที่ วัดมหาบุศย์ และได้นำเอาศพของแม่นาคนั้นไปฝังเอาไว้ที่วัดนั่นพร้อมกับให้พระอาจารย์ที่อยู่วัดนั้นพรมน้ำมนต์และอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้วิญญาณสงบสุกข์นั่นเอง

ซึ่งหลังจากที่ได้จบพิธีนี้ไปเหตุการณ์ต่างๆหรือทุกสิ่งทุกอย่างมันก็ดูเหมือนว่ามันจะกลับมาดูเหมือนเป็นปกติแต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้นสิเนื่องจากว่าได้มีใครหลายๆคนขับเรือผ่านบ้านของแม่นาคและได้เห็นแม่นาคยืนอยู่บนสะพานริมน้ำพร้อมกับส่งเสียงร้องโหยหวนเบาๆว่าพี่มากจ๋าพี่มากอยู่ไหนมีใครเห็นพี่มากไหมช่วยตามพี่มากกลับมาให้ฉันที

นอกจากนี้ชาวบ้านที่ได้ขับเรือผ่านไปผ่านมาและได้เห็นแม่นาคในตอนนั้นปรากฏว่าในสภาพที่ได้เห็นในตอนนั้นก็คือเนื้อตัวของแม่นาคเหี่ยวเฉาเนื้อติดกระดูกและน่าตายังเน่าเหมือนกับศพเลยและหลังจากที่หลายๆคนได้เห็นสภาพนั้นของแม่นาคบางคนก็กระโดนลงเรือหนีไปเลยบางคนก็รีบพ่ายเรือหนีไปบางคนไม่กลัวและได้ท่าทายแม่นาคก็มีเช่นกัน

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    ทดลองเล่นสล็อต gclub

ประวัติองคุลีมาลเถระ 

      หากใครได้มีการศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของพระพุทธเจ้าจะเห็นได้ว่ามีช่วงหนึ่งที่พระพุทธเจ้านั้นได้มีการส่งสอนพระธรรมเทศนาให้กับโจรใจบาปคนหนึ่งที่มีชื่อว่าองค์คุลีมาล ประวัติองคุลีมาลเถระ  ซึ่งสนใจบาปคนนี้นั้นเป็นโจรที่ฆ่าชีวิตผู้คนมานับไม่ถ้วนโดยมีการตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าเขาจะต้องมีการฆ่าคนให้ได้ครบ 1000 คน

อย่างไรก็ตามวันนี้เราจะมาพูดถึงประวัติขององคุลิมาลกันว่าทำไมเขาถึงกลายเป็นโจรที่คิดฆ่าคนได้ถึง 1000 คนและทุกคนที่เขาฆ่านั้นเขาจะมีการตัดนิ้วเอามาแขวนคอเอาไว้ด้วย 

      ตาม ประวัติองคุลีมาลเถระ ก่อนที่จะกลายมาเป็นสาวกของพระพุทธเจ้านั้นองคุลีมาลนั้นแท้ที่จริงแล้วเขาคือลูกปุโรหิตคนหนึ่งในราชสำนักซึ่งองคุลีมาลนั้นเกิดมาในยุคตอนต้นของการเริ่มต้นการเผยแพร่พระพุทธศาสนาซึ่งยุคนั้นเป็นยุคของพระเจ้าปเสนทิโกศลปกครองบ้านเมืองอยู่   องคุลีมาลนั้นเป็นคนที่เรียนวิชาอาคมเก่งกล้าเข้าได้เรียนกับอาจารย์ท่านหนึ่ง

        ซึ่งอาจารย์ท่านนี้อยู่ที่เมืองตักกสิลาในขณะที่ตัวคุลิมาลเองนั้นเป็นลูกของปุโรหิตที่อยู่เมืองสาวิถี  เนื่องจากว่าองคุลิมาลนั้นเป็นเด็กที่เรียนใฝ่ดีและเรียนเก่งมากจึงเป็นที่รักใคร่ของอาจารย์ทุกคนแน่นอนว่าเมื่อมีคนรักย่อมมีคนเกลียดบรรดาลูกศิษย์ลูกหาคนอื่นๆนั้นมีความอิจฉาริษยาในตัวองคุลีมาลมากเพราะอาจารย์ทุกคนก็มีแต่คนรัก

           ดังนั้นจึงมีลูกศิษย์คนหนึ่งได้ไปยุยงอาจารย์โดยบอกว่าองคุลิมาลนั้นจะเป็นศิษย์คิดล้างครูจะทำร้ายอาจารย์  ซึ่งอาจารย์คนดังกล่าวก็หลงเชื่อจึงคิดจะกำจัดองคุลิมาลก่อนและได้บอกตรงคิมานถึงเคล็ดลับวิชาว่าจะมีวิชาสุดยอดวิชาหนึ่งก่อนที่จะเรียนวิชานี้องคุลิมาลจะต้องมีการฆ่าคนให้ครบ 1000 คนเสียก่อนที่มาหลงเชื่ออาจารย์จึงได้ออกเดินทางเพื่อฆ่าคนซึ่งองคุลิมาลนั้นพอเริ่มฆ่าคนแล้วก็จำไม่ได้ว่าตนเองถ้าไปแล้วกี่คน

       ดังนั้นหลังจากนั้นองคุลิมาลก็ตัดนิ้วของศพที่ตัวเองค่าและนำมาแขวนคอเพื่อที่จะได้เอามานับว่าครบ 1000 คนหรือยังซึ่งองคุลีมาลฆ่าได้แล้ว 999 คนปรากฏว่าคนที่หนึ่งพันนั้นคือพระพุทธเจ้าองคุลีมาลพยายามไล่ข้าพระพุทธเจ้าแต่ก็ไม่สามารถที่จะไล่ตามทันจนท้ายที่สุดพระพุทธเจ้าก็ได้มีการอบรมให้ความรู้สั่งสอนพระธรรมเทศนาแก่องค์คุริมานจนในที่สุดองคุลิมาลก็เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาหลังจากนั้นก็เลิกฆ่าคนและออกบวชเป็นพระท้ายที่สุดองคุลิมาลก็ถูกเรียกว่าเป็นพระองคุลิมาลเถระเป็นสาวกคนหนึ่งที่นับถือพระพุทธเจ้าอย่างมากเลยทีเดียว 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย.    sa gaming ขั้นต่ำ 5 บาท

ตำนานสระแก้วบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่จังหวัดจันทบุรี

          สระแก้วบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์   หากใครเคยเดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดจันทบุรีจะเห็นว่าที่นั่นมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งที่ชื่อว่าบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์สระแก้วซึ่งบ่อน้ำแห่งนี้ถูกกันเอาไว้สำหรับใช้น้ำในการประกอบพระราชพิธีสำคัญสำคัญของพระมหากษัตริย์  ตามตำนานเล่าขานเกี่ยวกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้มีการเล่ากันว่า

        ในสมัยก่อนนั้นยังไม่มีใครรู้จักบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เนื่องจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาซึ่งเป็นภูเขาที่ไม่สูงมากนักในตอนนั้นมีตายายคู่หนึ่งอาศัยอยู่ตรงบริเวณเชิงเขาแห่งนี้และหาประทังชีวิตด้วยการหาของป่าไปขายสาเหตุที่ตายายไม่ได้ไปอยู่ในหมู่บ้านร่วมกับคนอื่นๆเนื่องจากว่าตายายเป็นโรคที่รักษาไม่หายอาการของโรคนั้นคือตามบริเวณร่างกายจะมีแผลพุพองเต็มไปหมดและมีน้ำเหลืองไหลเยิ้มจึงทำให้ผู้คนต่างพากันรังเกียจ

        สระแก้วบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์  อยู่มาวันหนึ่งในขณะที่ตาได้ออกไปหาสัตว์ป่าเพื่อมาใช้ในการประกอบเป็นอาหารเลี้ยงชีพของตนเองและยายนั้นปรากฏว่าตาได้ยิงธนูไปที่กระต่ายตัวหนึ่งแต่กระต่ายสามารถกระโดดหนีไปได้จึงได้ตามรอยกระต่ายไปบนภูเขาดังกล่าวจนไปเห็นว่ากระต่ายตัวดังกล่าวนั้นได้กระโดดลงไป

ในสระน้ำที่อยู่บนยอดเขาหลังจากที่มันกระโดดลงไปและกลับขึ้นมาก็พบว่าร่องรอยบาดแผลที่ถูกตาและธนูยิงนั้นหายไปด้วยความสงสัยตาจึงได้ตัดสินใจลงไปในบ่อดังกล่าวและเมื่อขึ้นมาก็พบว่าตนเองนั้นหายจากโรคพุพองและน้ำเหลืองก็ไม่มีไหลอีกต่อไปจึงได้นำเรื่องนี้ไปเล่าให้ยายฟังและพายายมาแช่ในน้ำที่บ่ดังกล่าว

           หลังจากที่ตายายแช่ลงในบ่อและหายจากโรคแผลพุพองแล้วทำให้ชาวบ้านที่เดินทางเข้าป่าเพื่อหาของป่าเมื่อเห็นตายายหายจากโรคก็ได้มีการสอบถามพูดคุยกันจนรู้ถึงที่มาของการรักษาโรคดังกล่าวและมีการไปเล่าลือต่างๆกันจนเรื่องราวนี้รู้ไปถึงหูเจ้าเมืองซึ่งเจ้าเมืองได้มีการส่งคนมาพิสูจน์และเห็นเป็นจริงจึงได้

ส่งเรื่องไปแจ้งเจ้าเมืองกลางในที่สุดสถานที่แห่งนี้ก็ถูกกันเอาไว้เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ห้ามคนเข้าไปใช้บ่น้ำดังกล่าวโดยเอาบ่อน้ำดังกล่าวนั้นไว้ใช้ในการประกอบพิธีการสำคัญของพระมหากษัตริย์เพียงเท่านั้นซึ่งในปัจจุบันนี้บ่อน้ำนี้ยังคงมีอยู่และน้ำในบ่อนี้จะถูกนำมาใช้ในการประกอบพิธีพิพัฒน์สัตยาบันนั่นเอง

          อย่างไรก็ตามสำหรับเหตุผลที่ชาวบ้านพากันเรียกบ่อน้ำแห่งนี้ว่าสระแก้วนั่นก็เพราะว่ามีการเล่ากันว่าในสมัยก่อนนั้นที่นี่มีแก้วรัตนชาติอยู่ภายในก้นสระแต่ปัจจุบันได้หายไปแล้วแต่อีกบางตำนานก็บอกว่าแก้วเนื่องจากว่าน้ำที่บ่อแห่งนี้มีความใสเหมือนแก้วนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.    gclub

ตำนานรักของแม่นาคพระโขนง  

                หากพูดถึงตำนานรักของแม่นาคพระโขนงเชื่อว่าคนในอดีตหรือคนเฒ่าคนแก่ยังเคยได้ยินตำนานรักนี้กันเป็นอย่างดีและอาจจะรวมถึงวัยรุ่นในยุคปัจจุบันนี้ก็ยังคงได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องของ ตำนานรักของแม่นาคพระโขนง เพราะปัจจุบันนี้เรื่องราวความรักนี้ยังคงมีการเผยแพร่ออกมาในรูปแบบของละครและภาพยนตร์เพื่อให้เห็นถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่อยู่ในเมืองพระโขนง

           อย่างไรก็ตามยังมีหลักฐานอ้างอิงได้ว่าเรื่อง ตำนานรักแม่นาคพระโขนง นั้นเป็นตำนานที่เกิดขึ้นจริงมาในอดีตโดยมีหลักฐานเป็นศาลของแม่นาคหรือปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่จะเรียกกันว่าย่านาคอยู่ที่วัดมหาบุศย์โดยสารนี้จะถูกตั้งอยู่ที่บริเวณท้ายวัด

         ซึ่งภายในสารนั้นจะมีรูปปั้นที่แสดงถึงตัวตนของแม่นาคพระโขนงตั้งอยู่ตรงบริเวณหน้าศาลเลยทีเดียวและจะมีบทสวดคำสอนสำหรับคนที่ต้องการมาขอพรหรือมาบ่นกับย่านาคไม่ว่าจะบ่นเรื่องของการเกณฑ์ทหารหรือบนเรื่องของความรักรวมถึงขอหวยก็สามารถที่จะมาที่ศาลของย่านาคแห่งนี้แล้วทำการบนจุดธูปเทียนและนำดอกไม้มาถวายและถ้าเกิดว่าสมหวังอย่างที่บนแล้วก็จะต้องนำสิ่งของมาทำการแก้บน 

         อย่างไรก็ตามตำนานของแม่นาคพระโขนงนั้นเกิดขึ้นมาหลายสิบปีแล้วด้วยว่ากันว่าในสมัยก่อนนั้นยังไม่ได้มีโรงพยาบาลดังนั้นการเจ็บไข้ได้ป่วยหรือการคลอดบุตรนั้นก็จะมีหมอหมู่บ้านเรียกว่าหมอชาวบ้านคอยดูแลซึ่งในช่วงนั้นเองที่แม่นาคนั้นได้แต่งงานกับสามีก็คือพ่อมากหลังจากแต่งงานแล้วสามีก็ต้องไปเป็นทหารเกณฑ์โดยเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ยากนั้นตั้งครรภ์พอดี

         อย่างไรก็ตามเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อจังหวะที่เพราะมากยังเป็นทหารอยู่และแม่นาคถึงกำหนดที่จะต้องคลอดแล้วแต่เนื่องจากว่าเด็กในท้องไม่ยอมกลับหัวทำให้ย่านาคนั้นเจ็บท้องเป็นอย่างมากและคลอดลูกยากซึ่งถ้าเป็นวิวัฒนาการในปัจจุบันนี้ก็จะเข้าห้องผ่าตัดและผ่าคลอดเด็กก็จะรอดและแม่ของเด็กก็จะรอดแต่ว่าในยุคสมัยโบราณนั้นยังไม่มีการผ่าคลอดดังนั้นเมื่อเด็กไม่ยอมกลับหัวทำให้คลอดลูกยากและตกเลือดในเวลาต่อมาท้ายที่สุดแล้วด้วยความเจ็บปวดและเสียเลือดเยอะก็ทำให้ย่านาคนั้นสิ้นใจตายไปพร้อมกับลูกในท้องกลายเป็นตำนานผีตายท้องกลมนั่นเอง 

         และเมื่อย่านาคเสียชีวิตแล้วก็ถูกนำศพมาฝังไว้ที่ป่าช้าตรงบริเวณท้ายวัดมหาบุศย์ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งศาลของย่านาคในปัจจุบันหลังจากนั้นเมื่อสามีกลับมาจากการเกณฑ์ทหารวิญญาณของย่านาคก็มาใช้ชีวิตอยู่กับสามีโดยที่สามีไม่รู้เลยว่าภรรยาของตนเองนั้นตายไปแล้ว จนภายหลังชาวบ้านได้บอกกับพ่อมากเกี่ยวกับการตายของย่านาค

      ซึ่งท้ายที่สุดแล้วแม่ย่านางอยากจะอยู่กับสามีมากแค่ไหนแต่ก็ไม่สามารถอยู่ได้ชาวบ้านพากันหวาดกลัวจึงได้ไปตามหมอผีมาจับย่านาคแต่ก็ไม่มีหมอผีที่ไหนที่จะสามารถจัดการกับย่านาคได้  จนสมเด็จพุฒาจารย์โตได้มาปักกลดที่ใกล้กับวัดมหาบุศย์และได้ช่วยสะกดวิญญาณเพื่อให้วิญญาณของย่านาคนั้นไปสู่สุคติเรื่องราวความรักของแม่นาคพระโขนงจึงได้สิ้นสุดและกลายมาเป็นตำนานมาจนถึงปัจจุบัน 

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย.  ทางเข้า ufabet มือ ถือ

ตำนานดอกกุหลาบในเทพนิยายกรีก

           สำหรับ ดอกกุหลาบในเทพนิยายกรีก นั้นเป็นดอกไม้ที่มีความสวยงามและมีกลิ่นหอมแต่เดิมนั้นต้นกุหลาบมักจะมีหนามแหลมคมแต่ดอกของมันนั้นงดงามเป็นยิ่งนักแต่ในปัจจุบันนั้นได้มีการปรับเปลี่ยนพันธุกรรมของกุหลาบทำให้บางสายพันธุ์ในปัจจุบันนั้นไม่มีหนามองค์กิ่งก้านของกุหลาบอย่างไรก็ตามเชื่อว่าหลายคนคงเกิดความสงสัยว่ากุหลาบนั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไรซึ่งแน่นอนว่าในแต่ละประเทศนั้นก็มักจะมีตำนานที่แตกต่างกันออกไป

          ดอกกุหลาบในเทพนิยายกรีก ว่ากันว่ากุหลาบนั้นเกิดขึ้นมานานหลายหมื่นหลายพันปีมาแล้วหรือบางตำนานกล่าวว่ากุหลาบนั้นเกิดขึ้นมานานมากกว่า 70 ล้านปีมาแล้วก็ว่าได้สาเหตุที่สามารถพูดได้ว่ามีการเกิดกุหลาบมานานแล้วนั่นก็เพราะว่าที่ประเทศสหรัฐอเมริกาที่รัฐ Colorado และยังมีรัฐโอเรกอนนั้นได้มีนักโบราณคดีสามารถค้นพบฟอสซิลของกุหลาบนั่นเอง

        ดังนั้นเนื่องจากมีหลักฐานของฟอสซิลและสามารถตรวจสอบอายุของฟอสซิลดังกล่าวว่ามีอายุมาแล้วกี่ปีจึงทำให้มีความเชื่อได้ว่ากุหลาบนั้นมีอายุหลายล้านปีมาแล้วนั่นเอง   ว่ากันว่าแต่ก่อนนะดอกกุหลาบเมื่อเกิดขึ้นในป่าและหลังจากนั้นเมื่อมีคนเข้าไปในป่าและเห็นความสวยงามของดอกกุหลาบจึงนำมาปลูกไว้ภายในเมืองและได้มีการผสมพันธุ์และปรับเปลี่ยนพันธุกรรมโดยมีรูปร่างหน้าตาที่แตกต่างจากกุหลาบป่าแต่เดิมนั้นเอง

         สำหรับตำนานที่พูดถึงการเกิดของกุหลาบในเทพนิยายกรีกนั้นระบุว่า  แต่ที่จริงแล้วดอกกุหลาบนั้นเกิดมาจากน้ำตาของเทพธิดาองค์หนึ่งที่ชื่อว่าเทพธิดาวีนัสซึ่งเธอได้ร้องไห้เนื่องจากว่าเธอเสียใจจากการเสียชีวิตไปของคนรักของเธอโดยคนรักของเธอนั้นก็คือ  อคอนิส 

            ซึ่งเขาถูกหมูป่าฆ่าตายเธอจึงได้เศร้าโศกเสียใจและกอดศพของคนรักของเธอร้องไห้หลังจากนั้นน้ำตาของเธอที่หยดลงมาได้หยุดลงไปบนร่างกายของคนรักของเธอซึ่งหยดน้ำตานั้นได้กดไปผสมกับเลือดของคนรักของเธอเมื่อหยดลงพื้นก็กลายเป็นดอกกุหลาบขึ้นมานั่นเองและที่เป็นสีแดงก็เพราะว่าเป็นสีของเลือดของ อคอนิส นั่นเอง  สำหรับเทพธิดาวีนัสนั้นคือเทพธิดาของกรีกโดยว่ากันว่าเธอคือเทพแห่งความงดงามและยังเป็นเทพแห่งความรัก

           อย่างไรก็ตามบางตำนานบอกว่า  แต่ที่จริงแล้วดอกกุหลาบนั้นเกิดขึ้นมาจากเลือดของเทพธิดาวีนัสเพราะว่าเธอเสียใจจากการจากไปของคนรักของเธอ ดังนั้นเธอจึงใช้หนามจากกิ่งไม้มาแทงไปที่ตัวเองจึงทำให้มีหยดเลือดหยดลงพื้นและเกิดมาเป็นดอกกุหลาบสีแดงนั่นเอง แน่นอนว่า นี่คือต้นกำเนิดที่ว่าทำไมคนถึงใช้กุหลาบแดง แทนความหมายของความรัก 

 

สนับสนุนโดย.  gclub

 

ตำนานเรื่องเล่าอันน่าอัศจรรย์ใจของรูปปั้นหลวงพ่อโตที่วัดพนัญเชิง

         สำหรับวัดพนัญเชิงเป็นวัดที่มีหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีความสูงถึง 59.1 13 ม.คมีขนาดหน้าตักกว้างถึง 14 เมตรนับได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หลวงพ่อโตที่วัดพนัญเชิง ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยอยุธยา    รูปดังกล่าวนั้นก็คือหลวงพ่อโตนั่นเอง

โดยพระพุทธรูปหลวงพ่อโตนี้ถูกนำมาประดิษฐานไว้ที่วัดพนัญเชิงตั้งแต่ในสมัยปีพศ 1867 เป็นพระพุทธรูปที่มีการลงรักปิดทองและเป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะการปั้นออกมาคล้ายกับศิลปะสมัยอู่ทองตอนปลายนับได้ว่าเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่มีการสร้างมาในตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเลยก็ว่าได้ซึ่งหลวงพ่อโตนี้เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขัดสมาธิราบ   ประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อโตได้มีการบันทึกเอาไว้ในพงศาวดารเช่นเดียวกัน

         สำหรับหลวงพ่อโตเป็นพระพุทธรูปที่แม้แต่คนจีนก็ยังให้ความเคารพนับถือไม่ต้องพูดถึงประชาชนคนไทยที่ต่างก็รักและเคารพและศรัทธาหลวงพ่อโตกันมาก หลวงพ่อโตที่วัดพนัญเชิง จะเห็นได้ว่าวัดพนัญเชิงในแต่ละวันนั้นจะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและคนจีนเดินทางไปกราบไหว้หลวงพ่อโตกันอย่างหนาแน่นไม่ขาดสายโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นช่วงงานบุญแทบจะไม่มีทางให้เดินต้องเบียดเสียดยัดเยียดกันเลยทีเดียว

         ว่ากันว่ามีประวัติตำนานการเล่าเรื่องเกี่ยวกับความน่าอัศจรรย์ใจของรูปปั้นหลวงพ่อโตเมื่อครั้งสมัยที่กรุงศรีอยุธยากำลังอยู่ในช่วงของศึกสงครามเกิดขึ้นว่ากันว่าในสมัยนั้นก่อนที่กรุงศรีอยุธยาเสียกรุงเมื่อชาวบ้านเดินทางมาทำบุญกับหลวงพ่อโตและได้งานน่ามองไปที่องค์หลวงพ่อโตชาวบ้านก็จะเห็นน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นสายจากรูปปั้นของหลวงพ่อโตซึ่งมีการพูดกันปากต่อปากถึงความอัศจรรย์ไปนี้จนในที่สุดกรุงศรีอยุธยาเสียกรุงซึ่งในครั้งนั้นเกิดขึ้นในช่วง ปี พ.ศ. 2310 

         ชาวบ้านจึงมีการร่ำลือกันถึงน้ำตาที่ไหลออกมาจากรูปปั้นของหลวงพ่อโตว่านั่นคือการเตือนล่วงหน้าของหลวงพ่อโตที่นิมิตรเห็นแล้วว่าจะต้องเสียกรุงศรีอยุธยาไปให้กับข้าศึกอย่างแน่นอนหลวงพ่อโตจึงเกิดความเศร้าโศกเสียใจที่ประชาชนที่ตนเองรักนั้นจะต้องถูกฆ่าตายเลือดไหลนองแผ่นดินนั้นเอง

     อย่างไรก็ตามเรื่องเล่านี้ก็ได้มีการเล่าขานต่อๆกันมาตั้งแต่สมัยเสียกรุงจนถึงปัจจุบันเรื่องของน้ำตาหลวงพ่อโตที่ไหลลงมาในช่วงก่อนเสียกรุงก็ยังคงมีการพูดถึงกันอยู่ตอนนี้จนกลายมาเป็นตำนานที่สร้างความอัศจรรย์ใจให้กับประชาชนที่ได้ฟังเรื่องราวนี้กันทุกคน 

 

        ปัจจุบันวัดพนัญเชิงซึ่งเป็นสถานที่ที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโตนั้นนับได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อีกหลังหนึ่งสร้างรายได้ให้กับวัดพนัญเชิงเป็นอย่างมากชาวบ้านมักมาขอพรกับหลวงพ่อโตและทุกครั้งที่ขอพรก็จะสมหวังจึงทำให้หลวงพ่อโตแห่งวัดพนัญเชิงเป็นพระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงโด่งดังเกรียงไกรตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนปัจจุบันชื่อเสียงของหลวงพ่อโตก็ยังคงมีอยู่ไม่เสื่อมคลาย

สนับสนุนโดย.    สมัคร sbobet โดยตรง

ความเชื่อเกี่ยวกับอาหารที่ใช้ในการไหว้เทพเจ้าในช่วงวันตรุษจีน

             สำหรับการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลวันตรุษจีนนั้นจะเห็นได้ว่าประชาชนจะออกมาจับจ่ายซื้อของตามตลาดเพื่อที่จะได้นำไปเตรียมอาหารนำมาไหว้เทพเจ้าต่างๆที่คนจีนให้ความเคารพนับถือไม่ว่าจะเป็นเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย  เทพเจ้าฮก ลก  ซิ่ว   หรือแม้แต่เทพเจ้าตี่จูเอี๊ยะ   แน่นอนว่าการออกไปซื้อของนั้นจะต้องมีการเลือกซื้อของที่เป็นของสิริมงคล

       ดังนั้นวันนี้เราจะมาดูกันว่าอาหารที่คนจีนนิยมซื้อมาเพื่อนำมา การไหว้เทพเจ้า นั้นมีอะไรบ้างและความหมายของอาหารแต่ละชนิดนั้นหมายถึงอย่างไรทำไมคนจีนถึงนิยมนำอาหารเหล่านั้นมาใช้ในการเซ่นไหว้เทพเจ้า

      สำหรับใครก็ตามที่ต้องการที่อยากให้ลูกหลานของตนเองนั้นเป็นผู้ชายส่วนใหญ่แล้วเมื่อถึงเทศกาลตรุษจีนก็จะนำเมล็ดบัวมากราบไหว้มีมาใช้ในการประกอบอาหาร  ในขณะเดียวกันถ้าหากต้องการที่จะให้เทพเจ้าช่วยส่งเสริมเกี่ยวกับเรื่องของการเงินแล้วเราก็จะมีการซื้อเกาลัดมาถวายเทพเจ้าแต่ถ้าอยากให้ร่ำรวยเงินทองก็จะต้องมีอาหารที่มีส่วนประกอบของสาหร่ายดำ

       อย่างไรก็ตามเราจะเห็นได้ว่าเวลาที่ไหว้เทพเจ้าตี่จู่เอี๊ยะนั้นจะมีการถวายเป็นปลาทั้งตัวหรือแม้แต่ไก่ทั้งตัวซึ่งการถวายปลาทั้งตัวนั้นในความเชื่อของคนจีนเชื่อว่าจะช่วยในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์การอยู่ร่วมกันของคนในครอบครัวอย่างมีความสุขในขณะที่มีการถวายไก่หรือถวายเป็ดนั้นก็จะต้องมีการถวายทั้งตัวอวัยวะของไก่และเป็ดที่นำมาถวายนั้นจะต้องอยู่ครบทั้งหมดโดยความหมายของคนจีนเชื่อว่าถ้าหากถวายแล้วจะมีความเจริญก้าวหน้ารุ่งเรืองนั่นเอง

            แน่นอนว่าถ้าหากใครอยากจะให้อายุยืนก็จะมีการนำหมี่ซั่วมาทำอาหารถวายเทพเจ้าซึ่งการนำหมี่ซั่วมาผลัดนั้นจะผัดเป็นเส้นยาวๆและจะไม่มีการตัดให้เส้นหมี่ซั่วมีขนาดสั้นเพราะถ้าเส้นหมี่ซั่วยิ่งยาวมากเท่าไหร่ก็หมายถึงว่าเราจะมีอายุยืนยาวมากขึ้นเท่านั้น  นอกจากนี้ยังมีอาหารอีกหลายอย่างที่นิยมทำมาเป็นอาหารสำหรับในการไหว้

อย่างเช่นมีการประกอบอาหาร การไหว้เทพเจ้า โดยมีส่วนผสมของดอกไม้ซึ่งความหมายของการถวายหน่อไม้นั้นก็จะหมายถึงเรื่องของความสุขความเจริญหรือแม้แต่การที่นำเต้าหู้หมัดมาถวายก็จะหมายถึงความเจริญรุ่งเรืองและความร่ำรวยซึ่งเต้าหู้ที่นำมาหมักและนำมาถวายที่พระเจ้านั้นจะต้องทำมาจากถั่วแห้ง 

            ยังมีขนมและผลไม้อีกหลายชนิดที่จะถูกนำมาถวายให้กับเทพเจ้าในช่วงเทศกาลวันตรุษจีนซึ่งขนมหรือผลไม้แต่ละชนิดนั้นก็จะให้ความหมายแตกต่างกันออกไปเช่นเดียวกัน  แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามส่วนใหญ่แล้วคนที่นำอาหารมาถวายหรือนำผลไม้มาถวายนั้นก็มักจะใช้ผลไม้หรืออาหารที่สอนความหมายถึงความร่ำรวยและความอุดมสมบูรณ์และชีวิตที่ยืนยาวนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย    ufabet บนมือถือ

วิกฤตเศรษฐกิจทำตึกร้างอย่างGhost tower

สำหรับตึกร้างตึกแรกต้องเรียกว่าโด่งดงที่สุดแล้วก็ไม่พูดถึงไม่ได้เลยนั่นก็คือตึกสาธรยุนีคนั่นเองสำหรับตึกสาธรยูนีคเป็นตึกร้างมีจำนวนทั้งหมด49ชั้นด้วยกันสร้างขึ้นมาด้วยสถาปัตยกรรมแบบกรีกโรมันตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุงติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา

โดยเสียงล้ำลือจากคนที่ได้ขึ้นไปบนตึกแห่งนี้ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าวิวทิวทัศน์บนตึกสาธรแห่งนี้ต้องบอกว่าตึงตาตึงใจเอามากๆเลยและตึกแห่งนี้ยังเปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในประเทศไททยอย่างวิกฤตต้มยำกุ้งตั้งแต่ พ.ศ.2540นั่นเอง

ดังนั้นตึกสาธรยูนีคแห่งนี้ยังได้มีชื่อเสียงที่มีความโด่งดังไปทั่วโลกอีกด้วยในชื่อที่ว่าGhost towerโดยนักท่องเที่ยวทั้งหลายต่างก็มีความสนใจที่อยากจะเข้าไปทำการสำรวจกันเยอะมากเลยทีเดียวหากแม้ว่าสถานที่แห่งนี้จะไม่อนุญาตที่ให้ใครก็ได้ที่จะเข้าไป

ซึ่งเหตุก็เป็นเพราะว่าเมื่อในปีพ.ศ.2560ตึกแห่งนี้ก็ได้ถูกใช้ให้เป็นฉากภาพยนตร์ดราม่าสยองขวัญเรื่องเพื่อนที่ระลึกโดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ทำออกมาได้หลอนผู้ที่ได้รับชมเอามากๆเลยมันจึงกลายเป็นสิ่งที่ตอกย้ำในความน่ากลัวของสถานที่แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี

เนื่องจากนี้โครงการยูนีคสาธรแห่งนี้ได้เริ่มต้มเมื่อปี2533ด้วยเงินลงทุนสูงถึง1,800ล้านบาทโดยจากความตั้งใจของเจ้าของเขาอยากจะสร้างให้เป็นคอนโดสุดหรูที่ได้สร้างขึ้นอยู่ใจกลางเมือง

ในขณะที่ทุกๆอย่างก้ได้ดำเนินไปอย่างสวยงามก็จะต้องมีเรื่องที่ต้องทำให้โครงการนี้เกิดมีความขัดข้องในปีพ.ศ.2536เนื่องจากเจ้าของเขาได้ถูกในคดีจ้างวานฆ่าถึงแม้ว่าทางด้านศาลเขาจะยกฟ้องแล้วก็ตามแต่มันก็ได้ทำให้การเงินติดขัดไปในช่วงหนึ่ง

ซึ่งสถาบันการเงินทั้งหลายต่างก็ได้ชะลอการปล่อยเงินกู้ให้กับโครงการนี้นั่นเองและเมื่อทุกอย่างคดีความได้คลี่คลายไปแล้วมันก็ดูเหมือนว่าทุกๆอย่างนี้มันจะดำเนินไปได้ทุกๆอย่างๆเรียบร้อยเพราะว่าการก่อสร้างตึกแห่งนี้ก็ได้แล้วเสร็จไปถึง80%นั่นเอง

เพราะฉะนั้นแล้วก็ยังจะต้องมาพบเจอกับปัญหาหนักอึ่งอีกครั้งในปีพ.ศ.2540ประเทศไทยเราก็ต้องพบเจอกับวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งปัญหามันได้เกิดมาจากรัฐบาลได้ปฏิเสธค่าเงินบาทจึงได้ทำให้ประเทศได้พบกับปัญหาหนี้สินเพิ่มมากขึ้นรวมไปถึงสถาบันการเงินหลายแห่งต้องปิดตัวลงไปอีกหลายแห่ง

นอกจากนี้หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าเมื่อก่อนเรามีธนาคารมากกว่าปัจจุบันแต่ต้องหยุดกิจการไปเมื่อเหตุการณ์ในครั้งนั้นนั่นเองและยังรวมไปถึงโครงการที่จะก่อสร้างที่อยุ่ในกรุงเทพเกือบ300กว่าโครงการเลยที่ถูกทิ้งร้างในครั้งนั้น

 

 

สนับสนุนโดย.    Gclub ฟรี 100

ความลับของไมเคิลแจ็คสัน

สำหรับไม่เคิลมนุษย์แมงมุมเคยมีหรือเปล่าที่ตอนเด็กๆเราดูการ์ตูนเรื่องอะไรแล้วเกิดมีอารมณ์ร่วมกับการ์ตูนเรื่องนั้นอีกด้วยพอตอนที่ตัวเราจะไปโรงเรียนก็คิดว่าตัวเองนั้นจะมีพลังนานาโดดเบ่งกล้ามใส่เพื่อนแล้วพอเป็นตึ่งอะไรแล้วสิ่งของที่ได้สะสมของฮีไร่ตัวนั้นก็จะมาอีกเยอะ

ซึ่งไม่ว่ามันจะเป็นหนังสือการ์ตูนหรือของเล่นที่เป็นอาวุธต่างๆที่อยู่ในเรื่องมีมาหมดเช่นเดียวกับ ไมเคิลแจ็คสัน จากคำสัมภาษณ์เขาได้บอกเอาไว้ว่าในช่วงยุค90ที่กิจการของมาร์เวลนั้นตกต่ำทางการเงินเป็นอย่างมาก ไมเคิลแจ็คสัน ก็ได้เข้ามาหาเขาพร้อมกับยื่นข้อเสนอที่จะช่วยเหลือ

โดยเขาได้ทำการช่วยซื้อสไปเดอร์แมนอันนี้หลายๆคนอาจจะไม่รู้ว่าราชาเพลงป๊อปเขาได้เป็นตึ่งตัวยงของฮีโร่ตัวนี้และการที่เขานั้นจะซื้อไปนั้นไม่ใช่เพราะว่าเขานั้นอยากจะช่วยเหลือแฟรนไชส์สไปเดอร์แมนพร้อมกับได้การ์ตูนกลับมาอ่านที่บ้านครบทุกฉบับ

ซึ่งเขาได้มีเหตุผลที่มากกว่านั้นเพราะถ้าหากว่าเขานั้นได้ซื้อสไปเดอร์แมนได้แล้วเขาก็ยังสามารถเป็นโปรดิวเซอร์ของหนังสไปเดอร์แมนได้และนอกจากนั้นเขายังจะสามารถเป็นสไปเดอร์แมนได้เองเลยใช่แล้วนอกจากการเป็นราชาเพลงป๊อปแล้วพี่แก่อยากจะเป็นฮีโร่เหมือนกับสไปเดอร์แมนอีกด้วย

เมื่อในกระเป๋าพร้อมแล้วจะรออะไรไปซื้อมาแล้วก็แสดงเองเสียเลยแต่มันก็น่าเสียดายอย่างราชาเพลงป๊อปถึงแม้ว่ามาร์เวลจะมีปัญหาเรื่องการเงินแต่เขาก็ไม่ยอมรับข้อเสนอของ ไมเคิลแจ็คสัน ด้วยเหตุผลง่ายๆนั้นก็คือไมเคิลแจ็คสันไม่น่าจะเหมาะที่จะมาเป็นสไปเดอร์แมนถึงแม้ว่าเรื่องนี้มันจะไม่ได้ออกมาจากปากราชาเพลงป๊อปเองแต่ท่านประทานมาร์เวลเขามองได้อย่างทะลุเลยว่า ไมเคิลนั้นเขาต้องการอะไรสุดท้ายแล้วบทของสไปเดอร์แมนก็ไปตกกับอีกคนหนึ่ง

นอกจากนี้ในความพยายามของราชาเพลงป๊อปยังไม่จบสิ้นในเมื่อซื้อสไปเดอร์แมนไม่ได้เขาก็จะซื้อทั้งมาร์เวลเลยแล้วกันแล้วเป้าหมายต่อมาของไมเคิลแจ็คสันก็คือการแสดงในเรื่องเอ็กซ์เมนที่กำลังจะออกฉายในตอนนั้น

ซึ่งแน่นอนแล้วว่าทางมามาร์เวลก็บอกโนมันก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดานของไมเคิลแจ็คสันที่เงินนั้นมันไม่สามารถที่จะซื้อทุกอย่างได้แต่ถ้าเกิดเขาซื้อได้แล้วไมเคิลแจ็คสันเขามาแสดงเป็นสไปเดอร์แมนเพื่อนๆลองคิดดูหน่อยสิว่ามันจะเข้ากันหรือไม่คิดพอมันน่าจะมีความเป็นไปได้แค่นั้นพอเพียงมันจะเป็นความจริงของไมเคิลแจ็คสันที่เขาได้ฝันเอาไว้

 

ได้รับการสนับสนุนโดย.    ufabet