grandprixactual (1)
Search
Close this search box.

Category: ตำนาน

ตำนานปีศาจไร้หน้า

           ที่ประเทศญี่ปุ่นจะมีตำนานเกี่ยวกับภูตผี ปีศาจ และหนึ่งในตำนานนั่นก็คือ ตำนานปีศาจไร้หน้า ซึ่งตำนานนี้มีการพูดถึงกันมากตั้งแต่ในอดีตมาจนถึงปัจจุบันจนปัจจุบันนี้มีการเล่าขานตำนานนี้กันอยู่นั่นก็คือตำนานผีไร้หน้า

ซึ่งแต่ละท้องถิ่นของประเทศญี่ปุ่นนั้นก็จะมีการเล่าเกี่ยวกับตำนานนี้แตกต่างกันออกไป 1 ในเรื่องเล่าที่มีการพูดถึงกันมากที่สุดนั่นก็คือในสมัยก่อนนั้นได้มีผู้ชายคนหนึ่งเขาเป็นคนที่ขี้เกียจไม่ชอบทำงานทำการอยู่มาวันหนึ่งเขาต้องการที่จะไปตกปลาเพื่อนำมาเป็นอาหารซึ่งสถานที่เขาจะไปตกปลานั้นเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่ง

         ซึ่งอยู่ในบริเวณวัดและอยู่ใกล้กับสุสานหลวงระหว่างที่เขากำลังเตรียมคันเบ็ดที่สอบไปตกปลานั้นภรรยาของเขาก็ได้เตือนเขาว่าบ่อตกปลาแห่งนั้นอยู่ในบริเวณวัดซึ่งเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ยังอยู่ใกล้กับสุสานหลวงด้วยไม่ควรที่จะไปแอบขโมยตกปลาอาจจะเจอกับเรื่องราวอาถรรพ์ภายในวัดก็เป็นไปได้แต่ชายคนดังกล่าวนั้นไม่เชื่อภรรยาของตนเอง

ในช่วงเวลากลางคืนเขาจึงได้แอบไปตกปลาที่บ่อน้ำดังกล่าว และเมื่อไปถึงบ่อน้ำชายคนดังกล่าวก็ได้จัดแจงหย่อนเบ็ดตกปลาลงไปในบ่อ ขณะที่เขากำลังนั่งตกปลาอยู่นั้นก็มีหญิงสาวคนหนึ่งใส่ชุดกิโมโนเดินเข้ามาหาพร้อมกับเดินเขาว่าที่บ่อน้ำแห่งนี้ไม่อนุญาตให้มีการตกปลา 

           แต่ใจคนดังกล่าวก็ยังที่จะได้ร้านตกปลาต่อไปพร้อมกับต่อว่าหญิงสาวเมื่อหญิงสาวเห็นดังนั้นจึงได้มีการแย่งคันเบ็ดการเกิดขึ้นและฝ่ายชายก็ได้สะบัดแขนจนกว่าผู้หญิงนั้นได้ล้มลง  ด้วยความแรงของการล้มทำให้หญิงสาวได้รับความเจ็บปวดเธอจึงร้องไห้ออกมา

  ชายหนุ่มก็เห็นดังนั้นก็รู้สึกผิดที่สะบัดแรงจนหญิงสาวคนดังกล่าวล้มลงเองได้เข้าไปหวังจะประคองให้ยืนขึ้นแต่ปรากฏว่าเมื่อหญิงสาวคนดังกล่าวหันหน้ากลับมาเขาก็ต้องตกตะลึงเมื่อหญิงสาวคนดังกล่าวนั้นที่ใบหน้าของเธอเป็นใบหน้าที่ขาวโพลนและไม่มีเครื่องหน้าบนใบหน้าเลยไม่ว่าจะเป็นปาก , จมูก , คิ้วหรือว่าตา   

     เมื่อชายคนดังกล่าวเห็นดังนั้นก็เกิดความกลัว เขาได้วิ่งหนีจนไปเจอกับภรรยาของเขาที่เดินมาระหว่างทาง  เมื่อเห็นภรรยา ชายคนดังกล่าวจึงเล่าเรื่องที่เขาเจอปีศาจไร้หน้าให้ภรรยาของเขาฟัง และเมื่อเขาเล่าจบ

ภรรยาของเขาก็เอามือของตัวเองมาลูบที่ใบหน้าของตัวเอง แล้วเอามือลง หลังจากนั้นก็ถามว่า ปีศาจที่สามีเจอใช่หน้าตาแบบนี้หรือไม่ ซึ่งเมื่อสามีเห็นก็กลัวมาก เขาได้วิ่งหนีจนในที่สุดก็วิ่งไปตกน้ำ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา 

  สำหรับเรื่องนี้มีการเล่าเป็นตำนานเพื่อไม่ให้คนได้เข้าไปตกปลาที่บ่อน้ำภายในวัด เพราะต้องการให้คนกลัวการทำบาปนั่นเอง

 

 

สนับสนุนโดย    บาคาร่า sa

ตำนานยักษ์กินคน 

    สำหรับตำนานยักษ์กินคนนั้นเกิดขึ้นมาเนื่องจากว่าเมื่อประมาณวันที่ 29 เดือนกันยายนพศ2562 ได้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นโดยเหตุการณ์ในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 13 ศพด้วยกันซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเด็กนักเรียนเทคนิคจังหวัดศรีสะเกษได้ขับรถผ่านมาบริเวณแถวนั้น

แล้วเกิดอุบัติเหตุขับรถชนเสาไฟฟ้าซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุนั้นอยู่ตรงถนนกิ่งแก้วโดยบริเวณถนนนั้นมีรูปปั้นยักษ์ตนหนึ่งตั้งอยู่ซึ่งยักษ์ตัวดังกล่าวนั้นมีชื่อว่า สุริยาภพซึ่งชื่อยักษ์นี้เป็นยักษ์ที่มีเค้าโครงมาจากวรรณคดีของเรื่องรามเกียรติ์ สำหรับถนนกิ่งแก้วนั้นจะมีรูปปั้นยักษ์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่เรียงรายกันทั้งหมด 12 ตนด้วยกัน

แต่อยากที่น่ากลัวและดุร้ายมากที่สุดก็คือยักษ์สุริยาภพที่เองทำให้ชาวบ้านต่างก็เชื่อกันว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นมีสาเหตุมาจากยักษ์สุริยาภพเป็นยักษ์กินคน ชาวบ้านนั้นมีความเชื่อว่าอยากกินคนนี้เกิดจากการที่บริเวณนั้นมีอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง

และวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตนั้นก็เข้ามาสิงสู่ในร่างของยักษ์สุริยาภพเมื่อมี วิญญาณมาสิงในรูปปั้นของยักษ์เยอะมากขึ้นอีกนิดของยักษ์ก็มีมากขึ้นด้วยทำให้อุบัติเหตุก็ยิ่งมีที่เพิ่มมากขึ้นโดยชาวบ้านเชื่อกันว่าหากต้องการที่จะให้ถนนเส้นนี้สงบสุขไม่มีอุบัติเหตุจะต้องมีการย้ายยักษ์สุริยาภพไปไว้ในวัดนั่นเอง

เนื่องจากชาวบ้านนั้นเชื่อกันว่ายักษ์นั้นควรจะถูกนำไปไว้ที่วัดเพียงเท่านั้นเพราะอย่างเช่นวัดพระแก้วก็ได้มีการสร้างรูปปั้นของยักษ์ไว้ 12 ตนเช่นเดียวกันซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือยักษ์สุริยาภพเช่นเดียวกันและในบริเวณวัดพระแก้วก็ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุอะไรแต่อย่างใด สำหรับยักษ์ที่ถูกสร้างไว้ตรงถนนกิ่งแก้วนั้นชาวบ้านต่างก็เชื่อกันว่าวิญญาณของยักษ์สุริยาภพนั้น

ได้มีการเก็บสะสมวิญญาณของผู้ที่เกิดอุบัติเหตุไว้ภายในรูปปั้นของยักษ์เพื่อเก็บไว้เป็นบริวารของตนเองแต่บางคนก็เชื่อกันว่าที่จริงแล้วไม่มีวิญญาณของยักษ์อยู่แต่เป็นวิญญาณของคนที่เสียชีวิตในบริเวณนั้นมาสิงสู่ในร่างของยักษ์เพื่อที่จะได้หาตัวตายตัวแทนจึงทำให้บริเวณนั้นมักจะเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งนั่นเองสำหรับเรื่องราวของยักษ์กินคนนั้นมีเรื่องเล่ากันมานานแล้ว

      แต่ทุกคนก็ได้ลืมเลือนกันไปนานแล้วเช่นเดียวกันจนล่าสุดมามีเกิดอุบัติเหตุตรงบริเวณถนนกิ่งแก้วและตำนานยักษ์กินคนก็ทำให้ชาวบ้านนั้นกลับมานึกถึงอีกครั้งหนึ่งนั่นเอง ซึ่งตำนานนี้ทำให้ชาวบ้านได้มีการพูดถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นว่าน่าจะเป็นสาเหตุมาจากรูปปั้นยักษ์กินคนนั่นเอง

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  สูตร เซ็กซี่ บาคาร่า ฟรี 2020

ตำนานถ้ำเลเขากอบ  จังหวัดตรัง

        ที่จังหวัดตรังจะมีถ้ำแห่งหนึ่งซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่าถ้ำเลเขากอบที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวกันเนื่องจากว่าภายในถ้ำนั้นมีความสวยงามเป็นอย่างมากโดยที่ถ้ำแห่งนี้ได้มีตำนานเล่าถึงสถานที่แห่งนี้ซึ่งเป็นสถานที่ที่พญานาคตนหนึ่งได้มาอาศัยอยู่กับคนรักของตนเอง

ก่อนที่จะถูกพ่อตาตามมาทำร้ายจนต้องหลบหนีไปเรื่องราวของถ้ำเลเขากอบนี้เกิดขึ้นเมื่อมีพญานาคตนหนึ่งชื่อว่าพญากอบ ซึ่งพญากอบนั้น เป็นพญานาคที่มีอิทธิฤทธิ์ร้ายแรงอีกทั้งยังมีรูปโฉมงดงามมากเลยว่ากันว่าร่างกายของพญากอบนั้นจะมีเกิดเป็นสีขาวและมีความยาวถึงประมาณ 1 โยชน์เลยทีเดียว   

อย่างไรก็ตามในช่วงที่ พญากอบเป็นหนุ่มได้มีการขึ้นมาท่องเที่ยวยังโลกมนุษย์และได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งชื่อว่านางศรีขัน ทั้งสองได้ตกลงรักซึ่งกันและกันโดยที่พญากอบ นั้นไม่รู้เลยว่านางศรีขันนั้นเป็นลูกสาวของยักษ์หูแกง  ทั้งคู่โดยอาศัยอยู่ด้วยกันและของคู่กันจนนางศรีขันนั้นตั้งครรภ์ พญากอบ

นั้นอยากจะให้ภรรยาของตนเองนั้นคลอดลูกในสถานที่ที่มีความสวยงามจึงได้พานางศรีขันมาอยู่ที่ถ้ำแห่งหนึ่งซึ่งปัจจุบันนั้นก็คือถ้ำเลเขากอบนั่นเองโดยในครั้งแรกที่มาถึงนั้นที่บริเวณถ้ำเลเขากอบนี้เป็นเพียงแค่กดหินขนาดใหญ่เท่านั้นแต่ด้วยอิทธิฤทธิ์ของพญากอบ พระองค์ได้มีการพ่นไฟใส่ให้หินนั้นหลอมละลายกลายเป็นถ้ำ

และข้างในภายในถ้ำนั้นยังได้มีการเนรมิตให้มีความสวยงามประดับประดาเพชรนิลจินดามากมายเอาไว้ภายในถ้ำอีกทั้งยังมีการสร้างหินงอกหินย้อยเพื่อให้เกิดความงดงามภายในถ้ำเป็นทัศนียภาพที่สวยงามช่วยให้นางศรีขันนั้นคลอดลูกอย่างสบายตาและสบายใจอย่างไรก็ตามแต่ในระหว่างที่ทั้งคู่ครองคู่กันอยู่ภายในถ้ำเลเขากอบนั้น

พ่อของนางศรีขันได้เดินทางมาพบเข้าและเกิดความไม่พอใจเขาต้องการที่จะฆ่าพญากอบ ให้ตายยังนั้นเขาจึงได้พ่นไปใส่พญากอบ แต่พญากอบสามารถหลบหนีได้ทันและเมื่อรู้ว่ายักษ์หูแกงนั้นเป็นพ่อของนางศรีขันทำให้พญากอบ ไม่กล้าที่จะต่อสู้ด้วยจึงได้หลบหนีส่วนนางศรีขันนั้นระหว่างที่กับพ่อต่อสู้กันนั้นยังได้หนีขึ้นไปอยู่บนหน้าผาเพื่อรอให้สามีของนางนั้นมารับซึ่งระหว่างที่มีการต่อสู้กันนั้นยักษ์หูแกงได้มีการพ่นไฟเขาใส่พญากอบ

แต่ว่า พญากอบสามารถลบได้ทันทำให้ลูกไฟดังกล่าวนั้นไปโดนภูเขาลูกหนึ่งซึ่งต่อมาชาวบ้านเรียกภูเขาลูกนั้นว่าเขาหัวแตกส่วนตัวของพญากอบ นั้นก็ได้หนียักษ์หูแกง และไม่ได้กลับมาทางด้านนางศรีขันก็รอสามีจนคลอดลูกออกมาซึ่งรูปที่คลอดออกมานั้นเป็นงูโดยเมื่อนับแล้วสามารถนับได้มากถึง 80000 ตัวเลยทีเดียว

และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาที่บริเวณถ้ำเลเขากอบนี้ก็จะมีงูมากมายอาศัยอยู่และชาวบ้านเชื่อกันว่าหากวันใดก็ตามที่พญากอบได้ย้อนกลับมาและได้มาพบกับลูกๆของเขาเมื่อนั้นคนที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้กับถ้ำเลเขากอบก็จะมีแต่ความสุขความเจริญ

 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย    ทดลองเล่นสล็อต gclub

ตำนาน รัก-ยม

     สำหรับรักกับยมเป็นตุ๊กตาหุ่นพยนต์อีกรูปแบบหนึ่งซึ่งลักษณะของตุ๊กตารักและโยมนั้นจะเป็นตุ๊กตาหุ่นที่สร้างมาเป็นเด็กคู่กันตัวนึงจะชื่อรักและอีกตัวหนึ่งจะชื่อยมซึ่งลักษณะของเด็กทั้งคู่นั้นจะเป็นเด็กในสมัยโบราณที่ไว้ผมทรงจุกและจะมีลักษณะคล้ายๆเหมือนกับเด็กชกมวย สร้างมาจากต้นไม้ 2 ชนิดสำหรับตุ๊กตาที่ชื่อว่ารักนั้นจะสร้างมาจากต้นรักซ้อน

ซึ่งจะต้องส่วนที่เป็นลำต้นหรือส่วนที่เป็นรากที่ตายแล้วมาสร้างเป็นตุ๊กตารักโดยถ้าหากใช้เป็นรากของต้นรักแล้วเราก็จะต้องเป็นกิ่งที่ยื่นไปทางฝั่งทิศตะวันออกด้วย ส่วนตุ๊กตายมนั้นก็ถูกนำมาสร้างจากต้นไม้ที่ชื่อว่าต้นมะยมโดยใช้ส่วนที่เป็นลำต้นหรือส่วนที่เป็นรากเช่นเดียวกัน โดยต้นไม้ที่เป็นต้นมะยมนั้นจะมีสีขาวแต่ถ้าเป็นต้นรักนั้นจะเป็นสีดำ

หลังจากได้ลากไม้ตามที่ต้องการแล้วก็จะถูกนำมาแกะสลักเป็นรูปร่างของเด็กแล้วค่อยทำการไล่บริกรรมคาถาปลุกเสกโดยตุ๊กตาที่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วจะถูกนำไปไว้ในขัน สัมฤทธิ์ซึ่งภายในขันนั้นจะมีน้ำมันหอม หรืออีกชื่อหนึ่งคือน้ำมันจันทร์หลังจากนำผลไปใส่ไว้ในน้ำมันเป็นที่เรียบร้อยแล้วอาจารย์ก็จะทำพิธีปลุกเสกขึ้นมา

ซึ่งการร่ายบริกรรมคาถานั้นจะต้องใช้ระยะเวลานานเนื่องจากว่าผู้ที่ปลุกเสกนั้นจะต้องร่ายคาถาจนกว่าที่จะมองเห็นว่าหุ่นรักยมที่มีการปลุกเสกอยู่นั้นลุกขึ้นมาเต้นรำหรือลุกขึ้นมาเล่นกันถึงจะเป็นอันเสร็จสิ้นวิธีการปลุกเสกนั้นเอง สำหรับการใช้งาน รัก-ยม ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ที่ปลุกเสกนั้นต้องการใช้งานให้รักและยมไปทำหน้าที่อะไร

ส่วนทางด้านการเก็บรักษาตุ๊กตารักยมนั้นมักจะนำไปใส่ขวดที่มีขนาดเล็กโดยภายในขวดนั้นก็จะมีน้ำมันจันทร์หรือน้ำมันหอมตอนที่มีการทำพิธีปลุกเสกใส่เอาไว้แล้วนำตุ๊กตารักยมไปใส่เอาไว้ข้างใน ซึ่งทุกครั้งที่ผู้ที่ปลุกเสกเดินทางไปไหนมาไหนก็มักจะต้องพาตุ๊กตารักและยอมเดินทางไปด้วยและเมื่อกลับถึงบ้านก็จะถูกนำไปวางไว้ในที่ที่เหมาะสมเช่นแถวบริเวณหิ้งพระ

หลังจากนั้นก็จะต้องมีการดูแลด้วยการหาข้าวปลาอาหารมาให้กินซึ่งลักษณะของวิธีการดูแลนั้นก็เหมือนกับการดูแลเด็กที่ต้องหาทั้งอาหารและของเล่นมาให้นั่นเอง ข้อควรระวังอีกอย่างนึงในการดูแลรักยมก็คือน้ำมันที่อยู่ในขวดนั้นถ้าไม่แห้งอย่างเด็ดขาดไม่เช่นนั้นแล้วรักยมอาจจะไม่เชื่อฟังคนที่ดูแลอยู่เพราะฉะนั้นจะต้องมีการเติมน้ำมัน

ภายในขวดนั้นอย่างสม่ำเสมอและต้องดูแลรักยมอย่างดีเหมือนกับดูแลลูกหลานของตนเองที่สำคัญหากใครก็ตามที่อยากจะฟังข้อมูลข่าวสารอยากจะรู้เรื่องอะไรก็สามารถสอบถามรักยมได้ดั่งที่เราจะเห็นได้ตามในละครทีวีหรือแม้แต่ตามสำนักของอาจารย์ที่มีการเล่นวิชาอาคมนั่นเอง

 

 

สนับสนุนโดย  ทางเข้า ufabet ภาษาไทย

คำสาปของแม่มดวูดู  แห่งนิวออร์ลีน  ประเทศสหรัฐอเมริกา

       เรื่องราวเกี่ยวกับแม่มด หมอผี ของคนในสมัยโบราณนั้น ค่อนข้างมีคนเชื่ออย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อของคนไทย หรือแม้แต่ความเชื่อของคนต่างประเทศก็ตาม ยิ่งในยุคแรกแรกนั้น คนต่างประเทศมักจะเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของพ่อมด แม่มดกันมากถึงขนาดที่ว่าหากสงสัยว่าใครก็ตามที่เป็นพ่อมด

หรือแม่มด พวกเขาเหล่านั้นก็จะถูกจับมาเผาทั้งเป็นทันที ยิ่งโดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีผิวสีเข็มแล้วล่ะก็ มักจะถูกสงสัยมากกว่าคนผิวสีขาว โดยกลุ่มคนเหล่านี้ว่ากันว่าพวกเขานั้นมีลัทธิเป็นของตนเอง ซึ่งก็คือลัทธิแม่มด พ่อมด พวกเขามีเวทมนต์ที่จะสามารถสาปแช่งและทำร้ายใครก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นคนหรือว่าสัตว์ก็ตามที 

ซึ่งที่ประเทศสหรัฐอเมริกาก็เช่นเดียวกัน ว่ากันว่า ใช้ช่วงประมาณ ปี ค.ศ. 1800  ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งได้มีแม่มดสาวคนหนึ่ง เธอมีชื่อว่า  มารี ลาโว ชาวบ้านต่างก็พากันเชื่อว่า  มารี ลาโว นั้นเป็นแม่มด และเธอนับถือลัทธิวูดู หลายคนมีการร่ำลือถึงความน่ากลัวของ มารี ลาโวกันว่า หากใครก็ตามที่ทำให้เธอไม่พอใจแล้วล่ะก็

จะถูกเธอสาปแช่งเอาได้  ซึ่งเรื่องเล่าและตำนานของเธอนั้น ยังคงมีการเล่าขานและพูดถึงมาจนถึงปัจจุบันนี้ และที่สำคัญปัจจุบันนี้หลายคนยังเคยเดินทางไปที่บ้านที่ มารี ลาโว เคยอาศัยอยู่ด้วยการหวังว่าวิญญาณแม่มด มารี ลาโวจะยังคงอยู่ทีบ้านของเธอ และพวกเขาต้องการให้วิญญาณของ มารี ลาโว ช่วยเหลือในการสาปแช่งใครก็ตามที่พวกเขาไม่พอใจ

ซึ่งการที่จะไปให้แม่มดมารี ลาโวช่วยนั้นจะต้องมีการเข้าไปเคาะโลงศพของ มารี ลาโวจำนวน สามครั้ง และจะต้องหมุนตัวเองในแบบของการทวนเข็มนาฬิกาทั้งหมดสามรอบ ต้องเตรียมเหล้ารัมไปทำการเซ่นไหว้ที่หลุมศพของ มารี ลาโว และจะต้องก้าวข้ามหลุมศพของ มารี ลาโว ทั้งหมดสามรอบด้วยกันเสร็จแล้วจะต้องกระโกนชื่อของ มารี ลาโวออกมาดังดัง

และบอกกับ มารี ลาโว ด้วยว่าต้องการให้เธอนั้นช่วยสาปแช่งใคร หรืออยากให้คนที่เราไม่พอใจนั้นประสบพบเจอกับเหตุการณ์แบบไหน  เชื่อหรือไม่ว่า ปัจจุบันนี้สถานที่ที่เคยเป็นที่อยู่ของ แม่มดมารี ลาโว นี้ตอนนี้มีคนหัวใส

เปิดเป็นบริษัททัวร์ พาลูกทัวร์มาเที่ยวที่บ้านของ มารี ลาโว และพาลูกทัวร์มาทำการพิสูจน์ข้อเท็จจริงนี้ด้วย และที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คนนิยมมาเที่ยวกันมากเพราะต้องการมาทดลองพิสูจน์ว่าจะจริงแค่ไหน

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  sa gaming เครดิต ฟรี

ประวัติราชอาณาจักรของเกาหลีซึ่งถือได้ว่าเป็นยุคเหมือนสามก๊กของจีน

          ประวัติราชอาณาจักรของเกาหลีซึ่งถือได้ว่าเป็นยุคเหมือนสามก๊กของจีน  สำหรับประเทศเกาหลีนั้นหากเคยมีการศึกษาข้อมูลก็จะพบว่าในสมัยยุคเริ่มแรกที่ประเทศเกาหลีได้มีการรวมตัวกันเป็นราชอาณาจักรของเกาหลีขึ้นมาโดยช่วงนั้นยังถือว่าเป็นยุคของอาณาจักรโชซอนโบราณนั่นเองซึ่งในสมัยนั้นอาณาจักรโชซอนโบราณของเกาหลีนั้นได้ถูกรุกรานจากประเทศจีนจนต้องตกเป็นเมืองขึ้นของจีน

และกว่าจะมีการกอบกู้เอกราชได้ก็ต้องใช้ระยะเวลานานหลายปีซึ่งอาณาจักรที่เข้ามาช่วยกอบกู้เอกราชให้กับประเทศเกาหลีนั้นก็คืออาณาจักรโครยอดังนั้นวันนี้เราจะมาพูดประวัติศาสตร์ของเกาหลีหลังจากที่อาณาจักรโครยอนั้นได้มีการกอบกู้เอกราชและประเทศเกาหลีไม่ต้องตกเป็นเมืองขึ้นของจีนแล้วหลังจากนั้นเกาหลีก็มีการแบ่งดินแดนออกเป็นทั้งหมด 3 อาณาจักรใหญ่ๆด้วยกัน

ซึ่งอาณาจักรแรกนั่นก็คืออาณาจักรโครยอโดยอาณาจักรนี้จะกินบริเวณพื้นที่ทางแถบภาคเหนือทั้งหมดในอาณาจักรนี้ถือว่าเป็นอาณาจักรที่มีความใหญ่โตเก่งกาจและมีความเข้มแข็งมากและเป็นอาณาจักรที่อย่างที่เรารู้กันก็คือสามารถกอบกู้เอกราชจากประเทศจีนได้เพราะสามารถขับไล่ราชวงศ์ของจีน

ซึ่งเป็นราชวงศ์ฮั่นออกจากประเทศได้นั่นเองอีกครั้งหลังจากที่อาณาจักรโครยอได้มีการขับไล่ราชวงศ์ฮั่นของจีนและออกไปเป็นผลสำเร็จแล้วก็ยังมีการขยายอาณาจักรและแพอำนาจอีกมากมายรวมถึงได้มีการเข้ายึดครองอาณาจักรต่างๆซึ่งในสมัยนั้นราชวงศ์จีนได้มีการปกครองอยู่นั่นเองอย่างไรก็ตามนอกเหนือจากอาณาจักรโครยอแล้ว

ในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นยังมีอาณาจักรแพ็กเจซึ่งอาณาจักรนี้จะอยู่แถวบริเวณทางด้านตอนใต้สำหรับอาณาจักรแพ็กเจนั้นเป็นอาณาจักรที่ไม่ได้ใหญ่มากนักและเล็กกว่าอาณาจักรโครยอมากทีเดียวอย่างไรก็ตามก็ได้มีการขยายอำนาจของตนเองออกไปโดยสามารถเข้ายึดครองอาณาจักรอื่นๆได้เป็นผลสำเร็จส่วนอาณาจักรที่ 3

และถือว่าเป็นอาณาจักรสุดท้ายในยุคนี้นั่นก็คืออาณาจักรเชื้อราซึ่งอาณาจักรนี้จะมีการตั้งรกรากถิ่นฐานอยู่แถวทางตะวันออกเฉียงใต้เราจะอยู่ต่อไปทางแนวคาบสมุทรเกาหลีซึ่งอาณาจักรนี้เป็นอาณาจักรที่ไม่ได้เข้มแข็งมากนักมีการพัฒนาขึ้นมาจากชนเผ่าต่างๆโดยเฉพาะเผ่าซาโร ซึ่งอาณาจักรชิลลานี่เองได้มีการทำสัญญาสงบศึกไว้กับทางอาณาจักรโครยอ

เพราะไม่ต้องการอาณาจักรโครูยอนั้นเข้ามายึดครองอาณาจักรของตนเอง  อย่างไรก็ตามในสมัยนั้นเนื่องจากอาณาจักรอาณาจักรโครยอเป็นอาณาจักรที่มีความแข็งแกร่งและต้องการที่จะมีการแผ่อำนาจของตนเองออกไปในที่สุดก็ได้เข้าไปยึดครองอาณาจักรแพ็กเจได้ในที่สุดนั่นเอง

และนี่เป็นสามอาณาจักรของ เกาหลีในอดีต ที่เปรียบเสมือนกับสามก๊ก ของจีนนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย  Gclub ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

เรื่องเล่าสยองขวัญโดนผีนางรำหลอก

เรื่องเล่าสยองขวัญโดนผีนางรำหลอก เรื่องนี้เกิดขึ้นมานานแล้วตั้งแต่สมัยที่ฉันยังเป็นนักเรียนอยู่ในวันนั้นเป็นช่วงตอน 15:00 นพอดีซึ่งเป็นช่วงที่นักเรียนทุกคนจะเริ่มต้นกับบ้านหรือใครที่เรียนพิเศษก็จะเริ่มไปเรียนพิเศษตอนนี้ทุกวันนั้นทำได้ขอพ่อให้เรียนพิเศษนะพ่อกลับปฏิเสธว่าครอบครัวเราจำเป็นที่จะต้องใช้เงินในการดูแลและส่งเสียน้อง

ดังนั้นจึงไม่สามารถที่จะนำเงินไปให้ฉันได้ยินพิเศษได้จะถึงแม้จะได้ยินอย่างนั้นแต่ฉันก็ยังเป็นขอให้คุณครูสอนพิเศษฉันคือคุณครูก็เป็นคนที่ใจดีมากและตกลงที่จะสอนพิเศษให้ฟรีโดยไม่คิดเงินถ้าเป็นคุณครูผู้หญิงซึ่งมีชื่อว่าครูจิ๊บครูติ๊กสอนวิชาการแต่มีอยู่วันหนึ่งที่ฉันได้ฟังเรื่องผีมาเมื่อคืนดังนั้นในวันต่อมาตอนเรียนพิเศษซึ่งของคุณครูให้เล่าเรื่องผีให้ฟังเพราะคุณครูเคยบอกว่าตัวเอง

เคยเจอผีจริงๆกับตัวทุกคนขอร้องเป็นอย่างมากให้คุณครูยอมเล่าเรื่องแต่คุณครูก็ไม่ยอมรับสักทีสุดท้ายพวกเราจึงสัญญาว่าจะทำงานส่งครูให้เพิ่มเป็น 2 เท่า

ถ้าคุณครูเล่าให้ฟังอย่างนั้นคุณครูคิดสักพักแล้วก็จึงเล่าให้เราฟัง ว่า  สมัยนั้นเป็นตอนที่คุณครูกำลังเป็นวัยรุ่นอยู่คุณครูถูกสั่งให้ไปดูและทำการดูแลค่ายอบรมซึ่งจะทำการอบรมที่โรงเรียนเก่าซึ่งมีอยู่นานมาแล้วซึ่งตอนนี้ก็ได้ปิดตัวลงไปแล้วซึ่งคุณครูของฉันหรือครูจิ๊บเดินทางไปกับเพื่อนสนิทที่เป็นคุณครูซึ่งมีชื่อว่าครูเขาทั้งสองคนเป็นเพื่อนสนิทกัน

และสุขสันต์ให้ไปอบรมค่ายที่นั่นที่เดียวกันดังนั้นจึงไปด้วยกันซึ่งตอนนั้นคุณครูก็ได้พบกับบ้านพักของคุณครูและเพื่อนสนิทซึ่งห้องนอนของทั้งสองคนจะต้องนอนอยู่ในห้องเดียวกันที่ชั้นล่างชั้น 2 ได้ติดป้ายไว้อย่างชัดเจนว่าไม่ให้ขึ้นไปโดยเด็ดขาดไม่งั้นจะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมและแจ้งข้อหาบุกรุกด้วยความที่กลัวว่า โดนเจ้าหน้าที่จะดังนั้นเรา

จึงเลือกที่จะไม่สนใจข้างๆของห้องพักของคุณครูทั้งสองคนจะมีห้องรำไทยอยู่ทางขวาทางซ้ายจะเป็นห้องดนตรีไทยคุณครูไม่ได้สนใจแต่อยู่ๆเพื่อนของคุณครูก็เดินขึ้นไปสำรวจบนชั้นบนซึ่งก็คือครูเก๋านั่นเองก็เห็นอย่างนั้น

คุณครูจึงเลือกที่จะเดินตามขึ้นไปหลังจากนั้นอยู่ๆคุณครูก็ได้ยินเสียงเพลงเสียงจากดนตรีไทยยกตัวอย่างเช่นระนาดขึ้นตอนนั้นทั้งคุณครูรู้สึกงงเป็นอย่างมากหลังจากนั้นครูเขาก็ได้เห็นว่าเหมือนมีร่างดำๆวิ่งตัดหน้าผ่านไปและรู้สึกว่าร่างกำยำน้ำกำลังรำอยู่แต่พอคุณครูเขาและครูจิ๊บหันหลังไปก็ไม่มีอะไรทั้งสองคนงงมากซึ่งก็จะเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง

พี่ทั้งสองคนหันหลังกลับไปมากเท่าไหร่ก็ยิ่งจำขึ้นไปเรื่อยๆคุณครูทนไม่ไหวจึงลาออกจากโรงเรียนแล้วกลับบ้านไปจนสุดท้ายก็ได้มาทำงานที่นี่

 

 

สนับสนุนโดย    ทางเข้า Gclub มือถือ

เรื่องราวหลอนผีตามขึ้นมาถึงรถ

เรื่องราวหลอนผีตามขึ้นมาถึงรถ เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่ฉันอยู่มหาลัยปี 2 ตอนนั้นจำได้ว่าเป็นตอนที่มีกิจกรรมเยอะมากซึ่งทำให้ฉันและเพื่อนๆจะต้องกลับบ้านเกินกว่า 3 ทุกครั้งซึ่งเราจะต้องทำชุดลีดเดอร์ให้น้องๆหรือแม้แต่คำสาปให้น้องๆได้แสดงกันทำให้เราจะต้องใช้เวลานานมากซึ่งวันนั้นเกิดเรื่องขึ้นเพราะว่าวันนั้นเราขับรถเพื่อนๆและอยู่ๆก็มีเพื่อนของเราคนหนึ่งพูดขึ้น

มาว่าเขาลืมปิดพัดลมขึ้นอยู่ใต้ตึกเพราะตอนนั้นเขาลงไปใต้ตึกแล้วก็เปิดพัดลมทิ้งไว้แล้วดันลืมดังนั้นพวกเราจึงจำเป็นที่จะต้องเดินทางกลับไปที่สุดกันทั้งหมดเพื่อไปปิดพัดลมที่ใต้ตึกซึ่งตอนนั้นเราให้เพื่อนคนหนึ่งที่ ลืมปิดพัดลมเข้าไปปิดพัดลมที่ใต้ตึกซะแล้วหลังจากนั้นเราจะยืนรออยู่กับเพื่อนอีกคนเราเย็นไปสักพักคุยกับเพื่อนของเราที่อยู่ข้างๆของเรา

ไปสักพักนึงหลังจากนั้นเราก็พบว่าเพื่อนอีกคนนึงซึ่งตอนนั้นอยู่กับพวกเราเข้าไปช่วยคนที่ชื่อแจ่มไปปิดพัดลมเข้าไปก็ชื่อว่าหล่นตอนนั้นทั้งสองคนเข้าไปข้างในและอยู่ๆพวกเราก็ได้ยินเสียงแจ่มและนนท์กรี๊ดเสียงดังมากแล้วก็วิ่งมาที่พวกเราพวกเราตกใจมากแล้วงงว่าพวกเขาวิ่งมาทำไมซึ่งตอนนั้นพวกเขาพากันวิ่งไปจนถึงหน้าโรงแรมของมหาลัยแข่งนึงมหาลัยของเรานั่นเอง

ซึ่งตอนนั้นพวกเขายังวิ่งไม่ยอมหยุดแต่อยู่ๆเพื่อนของเราอีกคนซึ่งมีชื่อว่าฟางก็ตะโกนสั่งให้พวกนั้นหยุดวิ่งเขาก็หยุดวิ่งทันทีซึ่งตอนนั้นแสบกับหล่อนพากันมองไปรอบๆอย่างงงๆและดูว่ากำลังมองหาว่ามีใครอยู่แถวนั้นหรือเปล่าทั้งหมดต่างถามว่าเกิดอะไรขึ้นซึ่งตอนนั้นเขาเล่าว่าตอนนั้นแจ่มกำลังจะกดปิดพัดลมแต่อยู่ๆพัดลมก็ปิดเอง

เหมือนกับว่ามีคนตั้งใจจะปิดให้แจ่มเองซึ่งจะงงมากเลยพากันวิ่งหนีออกมาแล้วหลังจากนั้นก็บอกอีกว่าที่ฟังสั่งให้หยุดก็เพราะว่าเห็นว่ามีผู้ชายหนุ่มคนนึงได้รอถามเราไปโดยใส่เสื้อสีเขียวซึ่งทะลุกำแพงของโรงแรมมหาลัยเลยหลังจากนั้นฟังยังบอกอีกว่าถ้าเขาจะหลอกยังไงเราก็หนีไม่พ้นหรอกคนก็คิดว่าก็จริงแล้วจะวิ่งหนีไปทำไมควรจะกลับบ้านกัน

ได้แล้วหลังจากนั้นพวกเราจึงรีบขับรถกลับทันทีซึ่งในตอนนั้นปางเป็นคนขับรถไปส่งเราที่ตรงจุดที่จะเรียกแท็กซี่ได้ง่ายตอนนั้นจะรอให้เราขึ้นแท็กซี่ไปก่อนนะถึงจะไปเพราะจะอยู่เป็นเพื่อนตอนนั้นตอนเราโบก Taxiคนหนึ่งมาจอดแต่ตอนนั้นความเห็นว่ามีคนแต่แท็กซี่ก็บอกว่าไม่มีคนจริงๆนะ

สุดท้ายเราจึงจำเป็นที่จะต้องเข้าไปหลังจากนั้นพวกเราก็เผลอร้องออกไปเว้ยผู้ชายใส่เสื้อสีเขียวนั่งอยู่ในรถคันนั้นก็ตกใจหลังจากนั้นก็หายตัวไปต่อหน้าของพวกเราทุกคนพวกเราตกใจมากซึ่งตอนนั้นพวกเรากลัวกันเป็นอย่างมากและรีบลงจากรถทันทีและพากันตกลงว่าจะให้ฟังขับรถไปส่งที่บ้านเพื่อที่เราจะได้ไม่โดนผีหลอกอีกแล้วนี่คือเรื่องราวว่าผีตัวนั้นก็มาถึงแท็กซี่เพื่อตามมาหลอกหลอนเรานึกว่าเป็นประสบการณ์ที่หลอนเหลือเกินค่ะ

 

 

สนับสนุนโดย  บาคาร่าขั้นต่ำ5บาท

Polter geist

Polter geist เรื่องนี้เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่โด่งดังมากต้องเป็นหนังเกี่ยวกับภูตผีปีศาจซึ่งเรื่องนี้นั้นถูกสร้างจากเรื่องจริงตั้งทั้งเรื่องในหนังและในเรื่องจริงก็ประมาณว่าก็มีครอบครัวพ่อแม่ลูกครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่ในบ้านหลังหนึ่งด้วยกันซึ่งว่ากันว่าพวกเขานั้นถูกปีศาจร้ายตามมาหลอกหลอนทุกคืนซึ่งจะมีตั้งแต่ข้าวของลอยได้ไปจนถึงพาลูกของตัวเอง

ไปซ่อนก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงอันตรายอย่างมากซึ่งพวกเรานั้นถึงแม้ว่าจะย้ายไปต่างประเทศที่ไหนปีศาจนั้นก็สามารถ 3 ตัวเธอได้ตลอดเวลาซึ่งสิ่งสุดท้ายที่เข้าไปคือรัฐนิวยอร์กประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งทางครอบครัวนี้กลัวเป็นอย่างมากดังนั้นจึงเรียกให้ตำรวจได้มาสืบสวนที่บ้านหลังนี้ซึ่งในตำนานให้เราไว้ว่าตำรวจนั้นเวลาที่มาสอบสวนก็พบกับอุบัติเหตุเช่น

ฉันหนังสือทับถล่มจนเกือบเสียชีวิตแม้แต่กระทั่งใจกันรอยขึ้นและความโดนหัวจรวดชื่อทุกคนต่างตัวกันเป็นอย่างมากซึ่งว่ากันว่าเขาคิดว่าเหตุผลก็อาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขานั้นสร้างบ้านอยู่ใกล้กับ 13 ศพของคนอเมริกันดังนั้นเหล่าภูตผีแถวนั้นเขาคงจะไม่ยอมเลยพยายามที่จะขับไล่กลุ่มนี้ออกไปโดยการที่จะให้เขาไปที่อื่นแล้ว

ไม่กลับมาที่นี่อีกรวมถึงนำบ้านออกไปด้วยและนอกจากนั้นว่ากันว่าคนที่เคยแสดงหนังเรื่องนี้นั้นอย่างเช่นนักแสดงที่โด่งดังกับเสียชีวิตอย่างปริศนาว่ากันว่าหนังเรื่องนี้มีคำสาปคิดจะทำให้ใครก็ตามที่พูดถึงเรื่องนี้หรือใครก็ตามที่เล่นหนังเรื่องนี้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้จะต้องเสียชีวิตอย่างปริศนาดังนั้นยังไม่มีใครที่พูดถึงเรื่องนี้อีกเลยตลอดมา

แต่เรื่องนี้ก็ยังเป็นหนังที่โด่งดังเป็นอย่างมาก มีนักแสดงที่เสียชีวิตไปแล้ว 4 คน แต่ละคนนั้นต่างโดนเรื่องราวต่างๆมากมายยกตัวอย่างเช่นดาราสาวคนหนึ่งคนที่รับบทชื่อดาราหน้าเธอโดนแฟนเก่าที่เธอเคยรักมากแอบเข้ามาในบ้านของเธอและรักเธอจนอาการโคม่าและหลังจากนั้น 5 วันถัดมาเธอก็เสียชีวิตคาเตียงที่โรงพยาบาลเขาบอกว่าถ้าหมอได้ชนะสูตรไว้ว่าเครื่องออกซิเจนนั้นอยู่ๆก็ดับไป

โดยที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นและตาที่เสียไปอย่างนั้นตลอดเวลาและยังมีคนมาเฝ้าดูเธอตลอดเวลา 15 นาทีดังนั้นเป็นไปไม่ได้โดยเด็ดขาดจะสามารถเสียชีวิตได้จากการที่เครื่องออกซิเจนดับโดยไม่ทราบสาเหตุและถึงยังไงเรื่องนี้ก็ยังคงเป็นปริศนาอยู่ดีซึ่งว่ากันว่าบางทีอาจจะเป็นเพราะว่าคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นรำคาญกับเสียงที่คนทั้งสองทะเลาะกัน

ดังนั้นจึงเปิดเพลงเปิดของหนังเรื่องนี้เสียงดังเป็นอย่างมากซึ่งว่ากันว่าเพราะเปิดเพลงจึงอาจจะเป็นอาถรรพ์ทำให้ผีสามารถตามตัวเจอและสุดท้ายพวกเขาก็ต้องเสียชีวิตนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  holiday palace