grandprixactual (1)
Search
Close this search box.

Category: ตำนาน

ประวัติ มหาตมะคานธี 

    ประวัติ มหาตมะคานธี    เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงของ บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์คนหนึ่งของประเทศอินเดีย  หรืออาจจะกล่าวได้ว่าเขาเป็นบุคคลสำคัญของโลกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เนื่องจากบุคคลนี้ได้ทำคุณประโยชน์ให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเป็นอย่างมาก สำหรับชายที่เรากำลังพูดถึงอยู่ในขณะนี้ก็คือ มหาตมะคานธี  

       สำหรับชื่อจริงของเขานั้น เขามีชื่อเต็มว่า  โมฮันทาน การัมจันทร์ คานธี ท่านที่เกิดวันที่ 2 ตุลาคม ปี  ค.ศ. 1869 ที่เมืองโปรพันธะแคว้นคชรัตน์ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย    สำหรับ มหาตมะคานธี นั้นท่านนับถือศาสนาฮินดูแต่กำเนิดใช้ชีวิตอยู่ในวรรณะแพศย์ครั้งเมื่อคดีอายุ 18 ปี มหาตมะคานธี จึงได้เรียนวิชากฎหมายที่ประเทศอังกฤษ  นอกจากนี้ยังได้มีการ ปฏิญาณต่อมารดาว่าเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสุรา และนารี อย่างเด็ดขาด 

        หลังจากการศึกษาต่อไม่นานเขาก็สำเร็จการศึกษา  แล้วหลังจากนั้น คานธี ก็ได้ เดินทางกลับอินเดียซึงตรงกับในปี ค.ศ. 1891 มหาตมะคานธีนั้นถือได้ว่าเป็นบุคคลสำคัญที่ยิ่งใหญ่และมีคุณูปการต่อผู้คนทั้งในอินเดียและระดับโลก  เลยก็ว่าได้ เพราะว่าเส้นทางของเขาเริ่มต้นขึ้นเมื่อคานธีเปิดสำนักทนายความในประเทศอินเดียอยู่เป็นระยะเวลาหนึ่งแต่ไม่ประสบความสำเร็จเขาจึงตัดสินใจทำงานเป็นทนายความให้กับนักธุรกิจชาวอินเดียมุสลิมที่มีบริษัทอยู่ในประเทศแอฟริกาใต้ในปี ค.ศ.  1893 

         การไปทำงานที่แอฟริกาใต้นี้เองที่ทำให้เขาพบว่าชาวอินเดียที่เป็นแรงงานอยู่ประเทศดังกล่าวถูกปฏิบัติอย่างเอาเปรียบอย่างมาก เมื่อรู้ดังนั้น  มหาตมะคานธี  จึงตัดสินใจอยู่ที่แอฟริกาใต้เกินกว่ากำหนดและต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับแรงงานเหล่านั้นโดยใช้วิธีการต่อสู้แบบสัตยาเคราะห์คือวิธีที่ไม่ฝักใฝ่ความรุนแรงไม่ใช้กำลังแต่ใช้พลังธรรมะ

ซึ่งการต่อสู้แบบสัตยาเคราะห์มีองค์ประกอบ 3 ประการคือ สัตย์หมายถึงความจริง หมายถึงการไม่เบียดเบียนให้เสียเลือดเสียเนื้อและ  การดื้อแพ่งหมายถึงการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างสงบและการไม่ให้ความร่วมมือแก่ทางราชการเช่นการหยุดงานการไม่จ่ายภาษีหลังจากการต่อสู้ด้วยวิธีสัตยาเคราะห์จนประสบความสำเร็จในปี 1915 

      มหาตมะคานธี   ได้เดินทางกลับบ้านเกิดประเทศอินเดียและได้รับความไว้วางใจจากพรรคคองเกรสให้เป็นผู้นำต่อต้านกฎหมายเช่นพระราชบัญญัติ roasted ปี 1919 กฎหมายภาษีเกลือปี 1930 และเขาก็ได้กระทำการยิ่งใหญ่ต่อสู้เรียกร้องด้วยวิธีสัตยาเคราะห์จนทำให้อินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 1947 ในที่สุด

         มหาตมะคานธี ถึงแก่มรณภาพหลังจากที่อินเดียได้รับเอกราชเพียง 5 เดือนด้วยสาเหตุถูกลอบยิงจากชาวฮินดูหัวรุนแรงเมื่อวันที่ 30 มกราคมปี ค.ศ.1948 โดยคุณอุปการที่มหาตมะคานธีมีต่อประเทศอินเดียเขาจึงได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาแห่งชาติอินเดียและขณะเดียวกันองค์การสหประชาชาติก็กำหนดให้วันเกิดของเขาคือวันที่ 2 ตุลาคมเป็นวันไม่ใช้ความรุนแรงของสากล 

 

 

สนับสนุนโดย.  สมัคร gclub ไม่มีขั้นต่ำ

เรื่องเล่าสัตว์ในตำนาน  Sphinx 

  ตำนาน  Sphinx   เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงของสัตว์ในตำนานกันมาบ้างเลยสัตว์ในตำนานที่เราจะมาพูดถึงกันในครั้งนี้นั้นก็คือตัวSphinx นั่นเองซึ่งสัตว์ชนิดนี้นั้นว่ากันว่ามีรูปแบบของการผสมผสานกันมากมายของสัตว์หลายชนิด 

และSphinx ก็มีรูปร่างหน้าตามากมายหลายแบบขึ้นอยู่กับว่าแต่ละสถานที่มีเอกลักษณ์ลักษณะเป็นแบบไหนหรือมีวัฒนธรรมเป็นแบบไหนอย่างไรก็ตามสิ่งที่พบเห็นได้เหมือนกันก็คือตัวสฟิงซ์นั้นจะมีลักษณะเป็นสัตว์ 4 ขา 

      สำหรับรูปร่างของสปริงส่วนใหญ่ที่เราพบเห็นในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นพวกรูปปั้นหรือรูปวาดก็ตามแต่นั้นจะเห็นได้ว่าตัวสฟิงซ์ที่ถูกนำมาเปิดเผยอยู่ในขณะนี้จะมีลักษณะคล้ายกับตัวสฟิงซ์กำลังนอนอยู่หรือไม่ก็กำลังนั่งอยู่นั่นเองซึ่งแน่นอนว่าในแต่ละวัฒนธรรมในแต่ละประเทศนั้นก็จะมีความเชื่อเกี่ยวกับสฟิงซ์แตกต่างกันออกไป

     ยกตัวอย่างเช่นความเชื่อเกี่ยวกับสฟิงซ์ของประเทศอียิปต์นั้นว่ากันว่าสัตว์ชนิดนี้มีลักษณะที่โดดเด่นเป็นอย่างมากเนื่องจากว่าส่วนหัวของตัวสฟิงซ์นั้นจะมีลักษณะคล้ายกับมนุษย์ในขณะที่ลำตัวนั้นมีลักษณะคล้ายกับสิงโตและที่สำคัญใบหน้าของสฟิงซ์นั้นจะมีลักษณะเหมือนกับฟาโรห์ซึ่งเรามักจะเห็นได้ตามปิรามิดหรือรูปภาพของสฟิงซ์ที่มีการเผยแพร่กันในปัจจุบัน

       โดยลักษณะของตัวสฟิงซ์นั้นใบหน้าของมนุษย์ที่เราเชื่อกันว่าเป็นใบหน้าของฟาโรห์นั้นจะมีลักษณะของมีเคราและมีคางที่สำคัญตรงบริเวณกลางหน้าผากของสฟิงซ์นั้นจะมีงูจงอางแผ่แม่เบี้ยอยู่

และตัวสฟิงซ์นั้นก็จะมีการประดับประดาด้วยเครื่องเพชรนิลจินดามากมายเต็มไปหมดเรียกได้ว่าเป็นการประดับประดาเหมือนกับการแต่งองค์ทรงเครื่องให้กับกษัตริย์ในสมัยโบราณนั่นเอง 

     บางตำรามีการกล่าวว่าสิ่งนั้นก็คือเทพแห่งรุ่งอรุณหรือเทพฮามาซิส  แปลงร่างลงมาโดยเทพแห่งนี้นั้นมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นอย่างมาก ในปัจจุบันเรามักจะพบเห็นได้ตามสถานที่ที่เป็นมหาพีระมิด และสำหรับ Sphinx  ที่คนรู้จักกันอย่างกว้างขวางหรือรู้จักกันมากที่สุดในโลกในตอนนี้ก็คือสิ่งที่อยู่ตรงบริเวณมหาพีระมิดคาเฟ่ซึ่งมีชื่อเรียกว่ามหาสฟิงซ์แห่งกิซ่านั่นเอง 

    อย่างไรก็ตามรูปแบบของสฟิงซ์นั้นไม่ได้มีเป็นแบบของเพศชายอย่างเดียวเท่านั้นซึ่งในปัจจุบันนั้นเราสามารถเห็นสฟิงซ์ในรูปแบบของผู้หญิงได้ด้วยโดยลักษณะเฟืองในรูปแบบของผู้หญิงนั้นมักจะอยู่ในรูปแบบของวัฒนธรรมของชาวกรีกซึ่งจะมีลักษณะที่เป็นตัวเป็นสิงโตแล้วมีปีกแต่มีใบหน้าและทรงอกเหมือนผู้หญิงซึ่งปีกที่แสดงให้เห็นนั้นจะเป็นปีกของนกอินทรีย์

     อย่างไรก็ตามเรื่องจริงผู้หญิงนั้นว่ากันว่ามีนิสัยดุร้ายและน่ากลัวเป็นอย่างมากและชื่นชอบการกินมนุษย์ โดยมีชื่อเรียกว่า เอดิปุส  มักจะกระโดดออกมาจากพุ่มไม้เพื่อมาหาเหยื่อแต่จะไม่เข้ากินเหยื่อในทันทีแต่จะต้องโดนการถามคำถามจากนางและสัญญาที่จะปล่อยให้เป็นอิสระหากตอบคำถามของนางได้

ซึ่ง   เอดิปุส เป็นมนุษย์ที่ตอบคำถามของนางได้ซึ่งนางก็ไม่เคยได้ยินคำตอบนี้จากมนุษย์คนไหนเลยจึงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับบินขึ้นไปบนฟ้าก่อนจะทิ้งตัวดิ่งลงเพื่อฆ่าตัวตายในทะเล 

 

 

สนับสนุนโดย.  ufabet เว็บแม่

สิ่งลึกลับ ตํานานอาถรรพณ์ของอียิปต์โบราณ

อารยธรรมอียิปต์โบราณ เป็นหนึ่งในอารยธรรมซึ่งมีความโบราณเก่แก่มาก ตํานานอาถรรพณ์ของอียิปต์ และเยอะมากที่สุดอารยธรรมหนึ่งที่อยู่บนโลกเลย และยังเป็นอารยธรรมที่เกิดเรื่องราวต่างๆเกิดมากมาย แถมยังเป็นที่ตั้งของสิ่งก่อสร้างอย่าง “พีระมิด”

ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกแล้วก็การพัฒนาทางด้านการแพทย์อย่างแนวทางการทำ “มัมมี่” อีกด้วย รวมทั้งเว้นเสียแต่ความใหญ่โตตระการตาที่อุดมไปด้วยความเป็นมาอันล้ำค่าต่างๆจำนวนมากแล้วนั้น อารยธรรมอียิปต์โบราณ ก็ยังจะมีเรื่องราวที่ลึกลับๆที่น่าสนใจที่บางบุคคลบางทีอาจจะยังไม่เคยทราบมาก่อนเลยก็ได้

  1. พระนางคลีโอพัตรา กับรูปโฉมที่แท้จริง

พระนางคลีโอพัตรา (Cleopatra VII) ถือว่าเป็นผู้ดูแลอียิปต์โบราณที่เป็นที่รู้จักสูงที่สุด ซึ่งในความคิดของคนสามัญ เธอเป็นราชินีผู้ทรงเสน่ห์ที่สุด มีรูปโฉมโนมพรรณที่สวย พรั่งพร้อมไปด้วยชั้นเชิงในเชิงพิศวาส สามารถผูกหัวใจชายได้อย่างอยู่มือ

แต่ว่าตามที่เป็นจริงแล้ว ความสวยงามของพระนางคลีโอพัตรามิได้อยู่ที่เนื้อหนังหรือความสวยงามที่บริเวณใบหน้าแล้วก็เรือนกายเลย แต่ว่าอยู่ที่ปัญญารวมทั้งความฉลาดหลักแหลมรู้ทันคนต่างหาก

ซึ่งได้มีหลักฐานชิ้นหนึ่งที่บอกถึงเรื่องจริงประเด็นนี้ ก็คือการศึกษาและทำการค้นพบรูปปั้นชิ้นส่วนพรเศียรของพระนางรวมทั้งเหรียญที่มีภาพหน้าของพระนาง ซึ่งได้เป็นศึกษาและทำการค้นพบของนักโบราณคดีคนหนึ่ง

  1. ความเชื่อเกี่ยวกับความตาย

ชาวอียิปต์โบราณมีความเชื่อที่ว่า เมื่อได้มีคนเสียชีวิต วิญญาณออกจากร่างไปเพียงแค่ชั่วครั้งคราว เพื่อเดินทางไปเจอกับพระผู้เป็นเจ้าในภพหน้า แล้วจะกลับมาในวันข้างหน้า ทั้งนี้ เมื่อวิญญาณกลับมาแล้วหลังจากนั้นก็จะต้องมีร่างกายอยู่

แล้วก็ร่างที่จะอาศัยอยู่ได้ควรจะเป็นร่างกายของตัวเองแค่นั้น รวมทั้งด้วยความเชื่อถือนี้เองก็เลยกระตุ้นให้เกิดแนวทางการดูแลศพ หรือที่พวกเรารู้จักกันอย่างดีกับกระบวนการทำ “มัมมี่” (Mummy) เพื่อภาวะศพยังอยู่ในภาวะที่ดี ไม่เปื่อยยุ่ยนั่นเอง

  1. การปรากฏตัวของเอเลี่ยน

ในทุกวันนี้กระแส “เอเลี่ยน” หรือมนุษย์ดาวอื่น ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่โดยตลอด แม้กระนั้นเราทราบหรือเปล่าว่า การปรากฎตัวของเอเลี่ยนมีให้ดูมาแล้วตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณเลย สิ่งหนึ่งที่การันตีในหัวข้อนี้ ก็มาจากภาพบนฝาด้านในสุสานในเมืองกิซ่า โดยหนึ่งในรูปภาพบนผนังนั้นมีการวาดรูปของเอเลี่ยนผสมปนเปอยู่ด้วย

แต่ว่าอย่างไรก็ตาม ก็จำเป็นต้องใช้วิจารณญาณสำหรับในการตัดสินใจด้วย เพราะว่าครั้งคราวภาพๆนี้ บางทีก็อาจจะเป็นเพียงแต่รูปของข้าวของอื่นๆที่มีความคล้ายกับเอเลี่ยนเพียงแค่นั้น

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  ทางเข้า UFABET ภาษาไทย

ตำนานสะพานขาว ม.ขอนแก่น

ตำนานสะพานขาว ในส่วนของเรื่องราวนี้เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตำนานที่อยู่คู่กับมหาวิทยาลัยนี้มานานมากเกี่ยวกับะพานขาวที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น 

สำหรับเรื่องราวนี้จะต้องใช้การวิเคราะห์ในการอ่านให้ดีๆเพราะว่าเรื่องราวที่เกี่ยวกับตำนานสะพานขาวนั้นได้ถูกพูดถึงไปต่างๆนานามากๆซึ่งเรื่องราวเรื่องนี้ได้ถูกพูดถึงมาตั้งแต่ในอดีตจนมาถึงปัจจุบันมันอาจจะมีความคลาดเคลื่อนหรือบางอย่างที่ขาดหายไป

ตำนานของสะพานขาวที่ขอนแก่นนี้เรียกได้ว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่มากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเลยก็ว่าได้จุดที่ตั้งของสะพานขาวจะตั้งอยู่ใจกลางมหาวิทยาลัยอยู่ใกล้ๆกับคณะเทคโนโลยีในปัจจุบันนี้

โดยในอดีตพื้นที่ของมหาวิทยาลัยขอนแก่นเคยเป็นพื้นที่ของคอมมิวนิสต์หลังจากนั้นก็เกิดการรบลาฆ่าฟันกันระหว่างคอมมิวนิสต์กับทหารตำรวจซึ่งทำให้ฝ่านคอมมิวนิสต์นั้นเสียชีวิตไปกันเป็นจำนวนมากจึงทำให้มีศพเป็นจำนวนเยอะแยะมากมายจึงไม่สามารถที่จะเผาได้

ดังนั้นว่ากันว่าได้มีการฝังศพเหล่านั้นเอาไว้ในที่ดินผืนนี้แหละและพื้นดินที่ว่านั้นก็เป็นที่ตั้งของสะพานขาวในปัจจุบันนี้หลังจากนั้นก็ได้มีการก่อตั้งเป็นมหาวิทยาลัยขึ้นมาและได้มีการทำถนนตัดผ่ากั้นตรงที่เป็นหลุมฝังศพพอหลังจากสร้างเสร็จหรือว่าในขณะที่กำลังก่อสร้างนั่นเองมันก็มัดจะมีอุบัติเหตุต่างๆเกิดขึ้นมาหลากหลายเลย

จนนำมาสู่เรื่องราวสยองขวัญที่ใช้ๆหลายคนต่างก็ได้พูดถึงกันเขาว่ากันว่าสาเหตุที่จำเป็นจะต้องสร้างสะพานนี้ขึ้นมาแทนที่ว่าจะทำเป็นถนนตัดผ่านเหมือนพื้นที่ในมหาลัยทั่วไปทำไมเขาถึงจะต้องสร้างสะพานขึ้นมาในจุดๆนี้นั่นก็เพราะว่าได้มีการเชิญซินแสชื่อดังมาทำพิธีเพื่อปัดเป่าสิ่งไม่ดีสิ่งที่ชั่วร้ายอะไรต่างๆนี้ออกไป

เมื่อมาถึงยังที่จุดนี้ซินแสได้บอกว่าพื้นที่ตรงนี้นั้นมันเป็นหลุมฝังศพเก่าให้ทำการสร้างสะพานขึ้นเพื่อเป็นการไม่ไปเหยียบหลุมศพเขาและไม่ให้เป็นการลบหลู่ดวงวิญญาณเหล่านั้นเลยจำเป็นที่จะต้องสร้างสะพานข้ามหลุมฝังศพพวกเขาไปหลังจากนั้น

เรื่องราวสยองขวัญที่เขาได้พูดถึงกันนั้นต้องย้อนกลับไปในสมัยที่มาวิทยาลัยยังเป็นป่าอยู่เลยตอนนั้นมีนักศึกษาที่มาเรียนตอนนั้นเรียกได้ว่าน้อยมากจริงๆและตอนนั้นก็ได้มีหนุ่มวิศวมีแฟนที่รักกันมากซึ่งเธอเป็นสาวคณะพยาบาลแฟนหนุ่มที่เรียนอยู่คณะวิศวได้ขับมอเตอร์ไซค์มารับแฟนที่หออยู่เป็นประจำและมักจะชอบใช้เส้นทางสะพานขาวนี้นั้นเป็นเส้นทางที่ใช้กลับหออยู่ทุกๆวัน

ซึ่งมีอยู่คืนนึงฝ่ายชายขับรถมารับแฟนที่หอพักตามปกติเลยและวันนี้ทั้งสองคนกำลังจะไปเที่ยวในตัวเมืองกันในระหว่างที่ขับผ่านสะพานขาวมีคนที่ดักรอที่จะปล้นและได้ทำการขึงลวดสลิงจึงทำให้ทั้งสองคนเสียชีวิตและดวงวิญญาณยังคงวนเวียนหลอกนักศึกษาคนทั่วไปที่ขับผ่านสะพานสขาว

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  ทางเข้า ยูฟ่าเบท มือถือ

ตำนานหญิงสไบแดงสนามบินสุวรรณภูมิ

สำหรับเรื่องราวอาถรรพ์ในที่ดินสุวรรณภูมิแห่งนี้ได้เริ่มมาตั้งแต่การก่อสร้างโดยได้มีข้อมูลการบันทึกในการลือถอนที่ดินเตรียมจะสร้างสนามบินสุวรรณภูมิได้มีการลือถอนวัด ตำนานหญิงสไบแดง

และศาลทิ้งไปเป็นจำนวนมากรวมไปถึงวัดอีกหนึ่งแห่งว่ากันว่าผู้ที่มีความเกี่ยวข้องในการลือศาลหรือว่าย้ายวัดก็โดนอาถรรพ์เล่นงานไม่ต่างกับคนงานที่มาสร้างสนาบินสุวรรณภูมิเลย

โดยจากคำบอกเล่าของผู้ใหญ่แดงได้เล่าว่าตามที่ตกลงลือถอนที่ดินจากทางการเป็นจำนวนเงิน 600,000 บาทต่อมาก็พบเจอแต่เรื่องร้ายๆเพราแค่ขนาดเตรียมยังไม่ได้ทำการลือถอนก็ได้รับข่าวร้ายลูกสาวของตนนั้นประสบอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิตหลังจากนั้นยังไม่ทันข้ามวันเลยแม่ของผู้ใหญ่แดงก็มาเสียชีวิตตามไปอีก

ซึ่งตัวของผู้ใหญ่แดงเล่าให้ฟังว่าพื้นที่ดินทั้งหมดนี้คนเฒ่าคนแก่ต่างก็ได้เตือนกันว่าที่ดินแห่งนี้เป็นที่ดินอาถรรพ์และมีสิ่งศักดิ์เป็นจำนวนมากและไม่ควรเข้าไปทำอะไรกับที่ดินพื้นนี้เพราะว่ามันมีอาถรรพ์ที่เฮี้ยนมากๆแล้วในการลือถอนศาลหรือว่าสถานที่สำคัญ

ในการเตรียมจะสร้างสนามบินและยังมีสถานที่อีกแห่งที่ถูกลือถอนไปนั่นก็คือวัดนั่นเองเดิมที่พื้นที่ตรงนี้เป้นที่ตั้งของวัดปรือเป็นที่ตั้งเดิมโดยในปัจจุบันวัดหนองปรือได้ย้ายออกไปสร้างอยู่ในที่ดินผืนหนึ่งที่ทางรัฐบาลได้จัดเอาไว้ให้หลังจากที่ลือถอนออกไปแล้วที่ดินตรงนี้ก็กลายมาเป็นสถานีดับเพลิงหนึ่งอยู่ภายในสนามบินสุวรรณภูมินั่นเอง

ถ้าหากว่าเราเรียบรันเวย์หากมองเข้าไปจะเห็นเขียนว่าสถานีดับเพลิงหนึ่งเราคิดว่าน่าจะเป็นจุดนั้นที่เป็นที่ตั้งของสถานที่วัดเก่านั่นเองเรื่องราวอาถรรพ์ต่างๆคุณลองคิดดูสิว่าเดิมทีมันเป็นวัดแล้วมาสร้างอะไรทับไว้มันจะมีเรื่องราวอะไรแปลกๆเกิดขึ้นบางไหม

ว่ากันว่าครั้งนึงมีพนักงานที่ประจำการอยู่ในหน่วยงานดับเพลิงนั้นเล่าให้ฟังว่าในขณะที่ตนนั้นกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ในตึกปรากฎว่าต้องตกใจตื่นขึ้นมาเพราะว่าได้มีเงาดำรูปร่างตัวใหญ่มากเข้ามานอนอยู่ข้างๆและด้วยความตกใจก็รีบลุกขึ้นมาวิ่งหนีออกจากห้องโดยเร็ว

นอกจากนี้ยังมีพนักงานอีกคนที่เล่าให้ฟังว่าช่วงประมาณเที่ยงคืนตนต้องเข้ามาเปลี่ยนกะกับที่อยู่บนอาคารในจังหวะที่กำลังเปิดประตูเข้ามาเขาเห็นผู้หญิงผมยาวห่มสไบสีแดงเดินผ่านหน้าไปแล้วหายเข้าไปในบริเวณกำแพงชั้นสองและไม่ใช่เพียงแค่เขาเห็นผู้หญิงใส่สไบสีแดงเดินผ่านไปยังมีอีกหลายคนที่พบเจอกับเรื่องราวเหล่านี้เกี่ยวกับผู้หญิงใสสไบสีแดงเดินอยู๋ในบริเวณพื้นที่แห่งนี้อีกด้วย

 

 

ขอบคุณ  ทางเข้า sbobet ใหม่ล่าสุด  ที่ให้การสนับสนุน

ตำนานพระนอนกินเณรเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า

ตำนานพระนอนกินเณร เวลาที่เราพูดถึงตำนานความเชื่อในประเทศไทยของเราซึ่งเราจะบอกว่ามันมีอยู่หลากหลายตำนานและหลากหลายพื้นที่มากถ้าให้ยกตัวอย่างเช่นตำนานหุ่นยักษ์กินคนนี่ก็เป็นหนึ่งในตำนานไทยที่โด่งดังมากๆแล้วใช้คำว่าถูกพูดต่อกันมาแล้วสู่รุ่นต่อรุ่นมานับไม่ถ้วน

ซึ่งอย่างที่ได้กล่าวไปมันจะมีอยู่หลายตำนานมากในทั่วประเทศไทยแต่มันจะมีอยู่หนึ่งตำนานที่เขาว่ากันว่าตำนานนี้เกิดขึ้นจริงและเป็นตำนานที่โด่งดังเป็นอันดับต้นๆของจังหวัดนครสวรรค์เลยก็ว่าได้และเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นมาแค่เพียง100กว่าปีเท่านั้น

เพราะฉะนั้นแล้วตำนานที่เราจะพูดถึงตรงนี้ก็คือพระนอนกินเณรโดยตำนานพระนอนกินเณรตรงนี้ที่เราได้กล่าวถึงเขาบอกว่าตามบันทึกเขาบอกว่าได้เกิดขึ้นเมื่อปี2460ที่จังหวัดนครสวรรค์ที่วัดเขากบและวัดเขากบในปัจจุบันนี้เป็นวัดที่ค่อนข้างที่จะสวยงามมากๆแล้วก็เป็นวัดใหญ่วัดนึงเลยก็ว่าได้

เมื่อ100ปีประมาณปี2460วัดเขากบตรงนี้สมัยก่อนมันเป็นพื้นที่ร้างมันเป็นวัดเก่าที่ไม่มีพระอยู่แล้วแต่ในตำนานเขาได้บอกเอาไว้ว่า ณ เวลานั้นเองได้มีพระองค์หนึ่งได้ ธุดงค์ มาจากจังหวัดอุตรดิตถ์และได้เข้ามาประจำวัดแห่งพื้นที่จังหวัดเขากบตรงนี้และทำให้วัดแห่งนี้เฟื้องฟูขึ้นมาได้และทำให้ชาวบ้านได้พากันเข้าวัดเหมือนเดิม

ซึ่งพระรูปนั่นมีชื่อว่า หลวงพ่อทอง นั่นเอง โดยตามประวัติหลวงพ่อทองตรงนี้ ณ กำหนดตอนแรกเขาบอกว่าเขาจะมามจำวัดเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้นและเขาก็จะเดินทางธุดงค์ต่อไปแต่ว่าชาวบ้านได้เลื่อมใส

และชื่นชอบในตัวของหลวงพ่อทองเป็นที่เรียบร้อยแล้วเขาก็รมวพ่อขอให้หลวงพ่อทองทำการจำวัดอยู่ที่แห่งนี้ตลอดไปแล้วให้เป็นพระเจ้าอาวาสที่แห่งนี้เลยดีกว่า

เนื่องจากนี้ก็เลยทำให้ตัวของ หลวงพ่อทองเองก็ไม่สามารถปฏิเสธชาวบ้านได้เขาก็เลยทำหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสและทำการอยู่ที่วัดแห่งนี้มาตั้งแต่ที่หลวงพ่อได้เดินธุดงค์มาถึงนั่นเองซึ่งอยางที่ได้กล่าวออกไปหลังจากที่หลวงพ่อทองนั่นได้เข้ามาอยู่ที่นี่มัน็ได้เฟื่องฟูขึ้นมาเรื่อยๆ

วัดแห่งนี้ก็เริ่มที่จะมีคนเข้ามาบวชเป็นพระมาบวชเป็นเณรมากขึ้นๆทุกวันแต่แล้ววันนึงก็เกิดเหตุที่ไม่คลายคิดเกิดขึ้นอยู่ๆก็ได้มีเณรหายไปแบบไร้สาเหตุและไม่สามารถบอกได้เลยว่าเณรนั้นได้หายตัวไปไหนหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ

 

สนับสนุนโดย.  gclub เว็บตรง

ตำนานจิ้งจอก9หางที่เก่าแก่ที่สุด

จิ้งจอก9หางที่เก่าแก่ที่สุด ซึ่งจากเหตุการณืที่ต้าจี่ได้ถูกฆ่าอย่างโหดเฮี้ยมและยังไม่มีใครรู้เลยว่าใครเป็นคนทำแต่จากการบันทึกในข้อมูลคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของจิ้งจอก9หางและหลังจากที่ต้าจี่นั้นถูกฆ่าจิ้งจอก9หางก็ได้แปลงกายสวมรอยเป็นต้าจี่แทนเพื่อที่จะลักรอบเข้าไปหาพระเจ้าโจฮวนนั่นเอง

โดยจากข้อมูลที่บันทึกตรงนี้เข้าบอกว่ามันเป็นผลมากๆพระเจ้าโจฮวนไม่สามารถจับได้เลย

ว่าคนๆนี้เป็นปีศาจจิ้งจอก9หางที่แปลงกายเข้ามาหาแต่กลับกายเป็นว่าพระเจ้าโจฮวนกับหลงเสน่ห์ของต้าจี่ที่ถูกจิ้งจอก9หางสวมรอยอยู่ถึงขั้นที่ว่าสั่งให้ไปทำอะไรก็ทำขออะไรก็ให้หรือแม้แต่ถึงขั้นที่ว่าสั่งให้สังหารคนเป็นผักเป็นปลาก็ทำได้หมดเลยโดยที่ไม่มีข้อแม้

นอกจากนี้อย่างที่ได้บอกไปปีศาจจิ้งจอก9หางหรือปีศาจทั้งสามตัวที่เจ้าแม่หนี่วาได้ส่งไปเขาได้มีพันธสัญญาอยู่หนึ่งอย่างนั่นก็คือในการที่จะออกไปทำภาระกิจนี้เจ้าจะต้องไม่ทำความเดือดร้อนให้กับประชาชนหรือราษฎรแต่ด้วยความที่ว่าความบ้าอำนาจของจิ้งจอก9หางที่สั่งให้ฆ่าคนเป็นว่าเล่นเลยและได้ครอบงำจิตใจพระเจ้าโจฮวน

เนื่องจากนี้จึงได้ทำให้เจ้าแม่หนี่วาโกรธมากบวกกับในตอนนั้นได้มีประชาชนหลายๆคนเรียกร้องให้นักบุญที่มีชื่อเสียงหรือหมอผีหมอปราบปีศาจต่างๆเข้ามาช่วยเพราะหลายๆคนคาดว่าเหตุการณ์เหล่านี้มันไม่ได้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติอย่างแน่นอน

ซึ่งในตอนนั้นเองก็ได้มีนักบุญที่มีชื่อว่า เจี๋ยงจื่อหยา ได้เข้ามาช่วยปราบและเขามาช่วยคนในตอนนั้นและเหตุการณ์ตรงนี้บทสรุปนั่นก็คือปีศาจทั้งสามตัวรวมถึงจิ้งจอก9หางก็ได้ถูกจับได้และหลังวจากนั้นทั้งสามก็ถูกจับส่งตัวให้กับเจ้าแม่หนี่วานั่นเอง

เพราะฉะนั้นแล้วในเวลาต่อมาหลังจากที่ปีศาจสามตัวนี้ได้ถูกจับตัวไปเจ้าแม่หนี่วาก็ได้สินโทษประหารปีศาจทั้งสามตัวนี่เนื่องจากว่าปีศาจทั้งสามตัวนี้นั้นได้ทำสิ่งที่เกินคำสั่งเป็นอย่างมากและการกระทำเหล่านี้มันรุนแรงจนทำให้เจ้าแม่หนี่วาไม่สามารถยกโทษและให้อภัยได้

โดยปีศาจสองตัวแรกนั่นก็คือปีศาจไก่กับปีศาจพิณก็ได้ถูกประหารชีวิตไปแต่ปีศาจจิ้งจอกเขากลับหนีรอดออกมาได้แต่สุดท้ายในเวลาต่อมาก็ถูกจับได้และถูกตัดสินประหารชีวิตอยู่ดีนั่นเองและตรงนี้ก็คือข้อมูลตำนานที่มีความเก่าแก่มากที่สุดที่ได้ถูกค้นพบได้เกี่ยวกับเรื่องของปีศาจจิ้งจอก9หางนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.    gclub ฝากออโต้

ต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในโลก

สำหรับต้นไม้ต้นต่อไปนี้ที่เราจะนำมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันนั่นก็คือ ต้นกระบากใหญ่ ที่จังหวัดตาก นั่นเอง โดยต้นกระบากใหญ่ต้นนี้ ได้ตั้งอยู่ในอุทยานตากสินมหาราช จังหวัดตาก ในประเทศไทยบ้านเรานี่เองต้นกระบากใหญ่ต้นนี้ได้ตั้งมานานกว่า700ปีแล้ว

ซึ่งถือว่ามันได้เป็นต้นกระบากที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในประเทศไทยโดยมันได้มีเส้นรอบวงของลำต้นมากกว่า16เมตรและยังได้มีความสูงสูงกว่า50เมตรกันเลย

โดยต้นกระบากต้นนี้ได้ถูกค้นพบโดยชาวชนเผ่ามูเซอ เมื่อประมาณปี2519และหลังจากการถูกคันพบนี้ก็ได้เป็นการกำหนดพื้นที่แห่งนี้ให้มันกลายมาเป็นอุทยานแห่งชาติในระยะเวลาต่อมานั่นเอง

นอกจากนี้ก็ยังได้มีต้นไม้ใหญ่อีกต้นหนึ่งนั่นก็คือ ต้นผึ้งยักษ์ ตั้งอยู่ที่ อุทัยธานี ในประเทศไทยบ้านเรานี้เองโดยต้นผึ้งยักษ์ต้นนี้นั้นมันได้มีอายุราวๆประมาณ400กว่าปีกันเลยถือได้ว่ามันได้เป้นที่น่ามหัศจรรย์แก่ผู้ที่ได้มาพบเห็นกันเป็นอย่างมากที่สุด

เพราะเนื่องจากว่าต้นผึ้งยักษ์ต้นนี้ได้มีรากภูพรหรือรากที่เป็นที่ได้เป็นปีกคอยค่ำยันที่อยู่บริเวณโค่นต้นไม้นี้ถือได้ว่ามันได้มีขนาดใหญ่มากที่สุดในประเทศไทยกันเลยโดยต้นผึ้งต้นนี้ได้มีรเส้นรอบวงในส่วนของลำต้นประมาณ45เมตรและยังได้มีความสูงกว่า70เมตร

ซึ่งในพื้นที่บริเวณโดยรอบนี้มันก็เต็มไปด้วยต้นหมากเป็นจำนวนมากจนมันได้ทำให้พื้นที่แห่งนี้ได้รับฉายาว่า ป่าหมากล้านต้นนั่นเองฟังดูแล้วถือว่าใหญ่เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

สำหรับต้นไม้ต่อไปนี้ก็คือ ต้นมหึมามเหสักข์ ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ นั่นเองโดยต้นมหึมามเหสักข์ต้นนี้ได้เป็นต้นยักษ์ที่มีขนาดใหญ่มาที่สุดมากและลยังได้เป็นต้นไม้ที่ได้มีอายุมากที่สุดในโลกอีกด้วยที่คาดการณ์กันว่าต้นมหึมามเหสักข์นี้น่าจะมีอายุราวประมาณ1,500ปีกันเลย

นอกากนี้ต้นมหึมามเหสักข์ต้นนี้ก็ยังได้รับพระราชทานชื่อจากสมเด็กพระเทพด้วยว่า มเหสักข์ โดยหมายถึงเหล่าเทวดาผู้ใหญ่นั่นเองและขนาดของต้นมหึมามเหสักข์ต้นนี้ได้มีเส้นรอบวงที่วัดได้โดยประมาณ10.2เมตรและยังได้มีความสูงประมาณ38.5เมตรกันเลย

ซึ่งก็ได้ตั้งสง่าอยู่ท่ามกลางของสิ่งแวดล้อมแล้วก็ในระบบนิเวทที่มีความสมบูรณ์มากๆเลยที่อุทยานต้นสักข์ใหญ่ในอุทยานอุตรดิตถ์ในประเทศไทยบ้านของเรานี่เองทั้งนี้หากใครที่ชื่นชอบในความเป็นธรรมชาติก็สามารถไปท่องเที่ยวชมต้นไม้เหล่านี้ได้ตามข้อมูลที่เราได้นำเอามาให้ทุกคนได้รับทราบกันได้เลย

 

 

สนับสนุนโดย.    gclub

ตำนาน  lucifer 

  ตำนาน  lucifer   อดีตทูตสวรรค์ระดับชั้นเซราฟินเคยมีหน้าที่ขับลำนำนมัสการสรรเสริญเจ้าเคยเป็นผู้มีอำนาจเหนือบรรดาทูตสวรรค์ทั้งหมดมีปีก 16 คู่ในขณะที่ทูตสวรรค์ seraphim ทั่วไปมีปีกเพียงแค่ 3 คู่เท่านั้นที่ลูซิเฟอร์กลายเป็นทูตสวรรค์ ก็เพราะว่าทีแรกเนี่ยพระเจ้ารักลมากที่สุด  แต่ภายหลังพระเจ้าได้สร้างโลก 

และพระเจ้าก็รักมนุษย์ มากกว่าเขาทำให้  luciferไม่พอใจ ดังนั้น   lucifer จึงได้ก่อกบฏต่อพระเจ้า และพระเจ้าก็ทำโทษด้วยการให้ luciferตกสวรรค์ และสุดท้าย luciferก็ได้กลายมาเป็นจอมมารแห่งนรกลูซิเฟอร์ อยู่ในตำนานของฮิปบลู 

      สำหรับความหมายของชื่อ lucifer   นั้นแปลว่าผู้นำแสงสว่างหรือแสงรุ่งอรุณ คัมภีฮิบบลูกล่าวว่า   lucifer  ถูกซาตานยุยง ต่อมานักบุญเจอโรมในช่วงคริสตจักรเรืองอำนาจเห็นว่า ควรเรียกผู้ต่อต้านพระเจ้าว่าซาตาน มากกว่าที่จะเรียกว่า Lucifer  ดังนั้นคำว่า Lucifer กับคำว่าซาตาน จึงถูกนำมาใช้เรียกแทนกันในที่สุด  ซึ่งความหมายก็คือ คนที่ต่อต้านพระเจ้าหรือหัวหน้าพวกปีศาจในนรก 

        สำหรับเรื่องราวของ Lucifer แม้ว่าจะไม่มีคัมภีย์ไบเบิ้ล แต่ก็มีในมหากาฬที่ชื่อว่า ลอฟพาราไดส์   ซึ่งมีการเขียนเอาไว้ว่า Lucifer ได้มีการชักชวนทูตสวรรค์ ถึง 2ใน 3 ให้ต่อสู้กับพระเจ้า  แต่สุดท้าย Lucifer ได้พ่ายแพ้ให้กับ แองเจิ้ล อาร์กมิคาเอล และได้ร่วงหล่นลงมา

ทำให้ Lucifer ถูกเรียกว่า ซาตาน  และได้เป็นตัวแทนของการเป็นบาปในการเย่อหยิ่งและอหังการ ซึ่งถือว่าเป็นบาปที่ร้ายแรงที่สุด   โดย Lucifer มีสัญลักษณ์เป็นม้า  สิงโต และนกยูง 

          ตำนานเล่าว่าส่วนใหญ่แล้ว Lucifer มักจะปรากฏกายในลักษณะของ มังกร  หรือไม่ก็สิงโต  และ Lucifer จะมีสมุนคู่ใจมีชื่อว่า ซาตาน อักเคลียและอาการีแอ็ก ซึ่งสมุนทั้งสองตนนี้จะอยู่ข้างกายของ Lucifer เสมอ 

และสำหรับสัญลักษณ์แทนตัว Lucifer ก็คือ กางเขนกลับหัว  และเลข 666  ที่เรียกกันว่าเลขของซาตานนั่นเอง  และสำหรับตัวแทนของบาปเจ็ดประการนั้น ซาตานเป็นบาปแห่งความโกรธแยกกับ Lucifer อย่างชัดเจนมาก 

       บางคัมภีย์ ระบุว่า พระเจ้าไม่ได้สร้างซาตาน แต่ซาตานคือร่างที่มีอยู่มาก่อนแล้ว  สำหรับในลัทธิที่มีการบูชา Lucifer มองว่า  Lucifer ให้พรทางด้านการปลดปล่อยและการปล่อยวาง การก้าวข้ามความกลัว  และเราจะเห็นได้ว่า ในไพ่ทาโร่ ภาพของ Lucifer จะอยู่หน้าไพ่เดอะเดต นั่นเอง

     อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าภาพวาดของ  lucifer   จะมีการวาดภาพเอาไว้อย่างสวยงาม ซึ่ง lucifer    นั้นจะมีใบหน้าที่หล่อเหลาแต่ในขณะเดียวกันซาตานนั้นจะมีหน้าตาที่ค่อนข้างอัปลักษณ์ซึ่งถือว่ารูปร่างหน้าตาของทั้งสองนั้นตรงกันข้ามกันเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  แจ้งฝาก-ถอน ufabet

เรื่องราวเกี่ยวกับ สระ อรทัย เทพกัญญา สมัยรัชกาลที่5

สำหรับการเสียชีวิตของพระน้องนางเธอได้มีการสันนิษฐานว่า พระเจ้า อรทัย เทพกัญญา อาจจะป่วยเป็นโรคประสาทชนิดหนึ่งแล้วก็ได้ฆ่าตัวตายได้ในที่สุดและในเวลาต่อมาก็ได้ทำให้เกิดเรื่องราวแปลกๆขึ้นมาภายในวังเวลาที่ใครเดินออกไปไหนมาไหนในตอนกลางคืนก็จะได้ยินเสียงแปลกๆเหมือนกับเสียงโหยหวนคนหนึ่งกรีดร้องโวยวายด้วยความเจ็บปวดอยู่เสมอ

ซึ่งในตอนนั้นคนในวังก็คือว่าต้องเป็นการร้องอย่างทรมานของเจ้าหญิงที่พึ่งเสียไปแน่ๆวิญญาณที่ทุกข์ทรมานของพระองค์ก็อาจจะยังไม่ได้ไปไหนก็ยังวนเวียนอยู่ในพระราชวังและข่าวนี้ก็เลยดังไปทั่วในหมู่ของชาววังเลยจนกระทั่งหลังจากนั้นก็ไม่มีใครกล้าที่จะเดินออกไปไหนในตอนกลางคืน

ขนาดที่ว่าคนภายในวังปวดท้องห้องน้ำก็ยังต้องกลั้นเอาไว้ไม่ขอไม่เดินไปสุขาจะดีกว่าข่าวลือเรื่องนี้มันก็ดังมากจนกระทั่งเรื่องได้ไปถึงหูของกษัตริย์ไทยในสมัยนั้นก็คือรัชกาลที่ 5

เมื่อพระองค์ได้ทรงทราบเรื่องนี้ก็มีความคิดที่จะให้แก้เรื่องอาถรรพ์ชนิดนี้รัชกาลที่5ก็เลยจัดการให้มีการสร้างสระน้ำนี้ขึ้นมาโดยให้ชื่อสระนี้ว่า สระ อรทัย เทพกัญญา ตามชื่อของเจ้าหญิงหลังจากนั้นก็ให้ทำบุญถวายสังฆทานและได้มีการเฉลิมฉลองสระเลย

นอกจากนี้หลังจากที่ได้ทำพิธีอะไรแล้วเสียงร้องโหยหวยยามกลางคืนที่ทุกคนได้ยินก็ไม่มีดังขึ้นมาอีกเลยแต่เรื่องนี้โดยส่วนตัวเราคิดว่ามันจะเป็นเรื่องที่มีการแต่งเต็มสีสันเข้าไปมากกว่าเพราะว่าจากที่เราได้ไปค้นหาข้อมูลมาสระน้ำแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นมา1ปีก่อนที่เจ้าหญิงจะเสียงชีวิต

ดังนั้นก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ว่าคนในวังได้ยินเสียงโหยหวยและเขาจึงได้ไปสร้างสระเรื่องต่อมานี้ก็เป็นเรื่องที่อยู่ใกล้กับยุคของเราเข้ามาหน่อยบ้างก็บอกว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในยุคสมัยรัชกาลที่8บ้างก็บอกว่าเป็นรัชกาลที่9แต่ก็เอาเถอะใจความนั้นได้มีอยู่ว่า

โดยได้มีครั้งหนึ่งที่ทางสำนักพระราชวังได้จ่ายให้หมู่ช่างมาซ้อมแท่นพระราชอาสน์ก็คือจะเป็นที่ประทับของพระเจ้าอยู่หัวว่ากันว่าแท่นนี้เป็นแท่นที่พระมหากษัตริย์ทรงใช้ประทับแล้วหลายพระองค์เลยจึงทำให้คนไทยหลายๆคนเชื่อกันว่าบนพระแท่นนั้นจะมีของศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นเทวดาปกปักรักษาอยู่

ซึ่งในหมู่ช่างซ้อมทั้งหลายก็จะมีช่างซ้อมคนหนึ่งที่เป็นคนจีนด้วยความนายช่างเขาเป็นชาวจีนก็ไม่รู้จักประเพณีอะไรการทำการเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนไทยเขาทำกันชาวจีนเขาไม่รู้ภาษาจึงได้ขึ้นไปลือทำการซ้อมและได้ตกลงมาอย่างไม่คาดคิดสุดท้ายนอนสลบไปยาวเลย

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.    ufabet ฝาก-ถอน เอง