grandprixactual (1)
Search
Close this search box.

Author's posts

ประวัติองคุลีมาลเถระ 

      หากใครได้มีการศึกษาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของพระพุทธเจ้าจะเห็นได้ว่ามีช่วงหนึ่งที่พระพุทธเจ้านั้นได้มีการส่งสอนพระธรรมเทศนาให้กับโจรใจบาปคนหนึ่งที่มีชื่อว่าองค์คุลีมาล ประวัติองคุลีมาลเถระ  ซึ่งสนใจบาปคนนี้นั้นเป็นโจรที่ฆ่าชีวิตผู้คนมานับไม่ถ้วนโดยมีการตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าเขาจะต้องมีการฆ่าคนให้ได้ครบ 1000 คน

อย่างไรก็ตามวันนี้เราจะมาพูดถึงประวัติขององคุลิมาลกันว่าทำไมเขาถึงกลายเป็นโจรที่คิดฆ่าคนได้ถึง 1000 คนและทุกคนที่เขาฆ่านั้นเขาจะมีการตัดนิ้วเอามาแขวนคอเอาไว้ด้วย 

      ตาม ประวัติองคุลีมาลเถระ ก่อนที่จะกลายมาเป็นสาวกของพระพุทธเจ้านั้นองคุลีมาลนั้นแท้ที่จริงแล้วเขาคือลูกปุโรหิตคนหนึ่งในราชสำนักซึ่งองคุลีมาลนั้นเกิดมาในยุคตอนต้นของการเริ่มต้นการเผยแพร่พระพุทธศาสนาซึ่งยุคนั้นเป็นยุคของพระเจ้าปเสนทิโกศลปกครองบ้านเมืองอยู่   องคุลีมาลนั้นเป็นคนที่เรียนวิชาอาคมเก่งกล้าเข้าได้เรียนกับอาจารย์ท่านหนึ่ง

        ซึ่งอาจารย์ท่านนี้อยู่ที่เมืองตักกสิลาในขณะที่ตัวคุลิมาลเองนั้นเป็นลูกของปุโรหิตที่อยู่เมืองสาวิถี  เนื่องจากว่าองคุลิมาลนั้นเป็นเด็กที่เรียนใฝ่ดีและเรียนเก่งมากจึงเป็นที่รักใคร่ของอาจารย์ทุกคนแน่นอนว่าเมื่อมีคนรักย่อมมีคนเกลียดบรรดาลูกศิษย์ลูกหาคนอื่นๆนั้นมีความอิจฉาริษยาในตัวองคุลีมาลมากเพราะอาจารย์ทุกคนก็มีแต่คนรัก

           ดังนั้นจึงมีลูกศิษย์คนหนึ่งได้ไปยุยงอาจารย์โดยบอกว่าองคุลิมาลนั้นจะเป็นศิษย์คิดล้างครูจะทำร้ายอาจารย์  ซึ่งอาจารย์คนดังกล่าวก็หลงเชื่อจึงคิดจะกำจัดองคุลิมาลก่อนและได้บอกตรงคิมานถึงเคล็ดลับวิชาว่าจะมีวิชาสุดยอดวิชาหนึ่งก่อนที่จะเรียนวิชานี้องคุลิมาลจะต้องมีการฆ่าคนให้ครบ 1000 คนเสียก่อนที่มาหลงเชื่ออาจารย์จึงได้ออกเดินทางเพื่อฆ่าคนซึ่งองคุลิมาลนั้นพอเริ่มฆ่าคนแล้วก็จำไม่ได้ว่าตนเองถ้าไปแล้วกี่คน

       ดังนั้นหลังจากนั้นองคุลิมาลก็ตัดนิ้วของศพที่ตัวเองค่าและนำมาแขวนคอเพื่อที่จะได้เอามานับว่าครบ 1000 คนหรือยังซึ่งองคุลีมาลฆ่าได้แล้ว 999 คนปรากฏว่าคนที่หนึ่งพันนั้นคือพระพุทธเจ้าองคุลีมาลพยายามไล่ข้าพระพุทธเจ้าแต่ก็ไม่สามารถที่จะไล่ตามทันจนท้ายที่สุดพระพุทธเจ้าก็ได้มีการอบรมให้ความรู้สั่งสอนพระธรรมเทศนาแก่องค์คุริมานจนในที่สุดองคุลิมาลก็เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาหลังจากนั้นก็เลิกฆ่าคนและออกบวชเป็นพระท้ายที่สุดองคุลิมาลก็ถูกเรียกว่าเป็นพระองคุลิมาลเถระเป็นสาวกคนหนึ่งที่นับถือพระพุทธเจ้าอย่างมากเลยทีเดียว 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย.    sa gaming ขั้นต่ำ 5 บาท

DIY ของที่โรงเรียนให้กลายเป็นของน่ารัก

ปากกาลูกชิ้น

DIYให้กลายเป็นของน่ารัก ก่อนอื่นให้เรานั้นถอดส่วนของปากกาออกมาหลังจากนั้นให้เก็บไส้ปากกาไว้และให้เรานั้นไปหาลูกปัดที่มีขนาดใหญ่พอตัวมาซัก 3ถึง4 ลูกหรือถ้าเราไม่สามารถหาลูกปัดที่ใหญ่ได้จริงๆนั้นเราก็สามารถที่จะนำดินโพลิเมอร์มาปั้นเป็นวงกลมและนำหลอดพลาสติกขนาดเล็กๆนำมาเจาะให้กลายเป็นรูตรงกลางได้

หลังจากที่เรานั้นหาลูกปัดหรือเตรียมดินโพลิเมอร์เรียบร้อยแล้วนั้นให้เรานั้นนำกาวร้อนฉีดใส่เข้าไปในตัวลูกปัดหรือรูในดินโพลิเมอร์เสร็จแล้วให้งามไส้ปากกาสายเข้าไปผ่านทางรูของลูกปัดหรือรูของดินโพลิเมอร์เลยหลังจากนั้นก็รอให้ไส้ปากกานั้นแห้งพร้อมกับกาวหนังจากที่กล่าวนั้นแห้งเรียบร้อยแล้ว

ให้เรานั้นสามารถที่จะระบายสีตัวลูกปัดหรือดินโพลิเมอร์ของเราได้ตามใจชอบด้วยสีอะคริลิคต่างจากที่ระบายสีด้วยสีอะคริลิคและรอจนสีแห้งเรียบร้อยแล้วนั้นเราก็นำกรรไกรมาตัดส่วนเกินของไส้ปากกาออก นอกจากนั้นเรายังสามารถนำมาเก้อติดถาวรมาวาดรูปวาดสีอะคริลิคของเราเพื่อเพิ่มความน่ารักให้กับปากกาของเราได้ด้วยโดยวิธีนี้นั้นนอกจากจะใช้กับปากกาได้แล้วเราก็ยังสามารถที่จะใช้จับดินสอได้อีกด้วย 

 

ยางลบน่ารัก

DIYให้กลายเป็นของน่ารัก ก่อนอื่นให้เราหายางลบขนาดใหญ่เท่าที่เราจะหาได้โดยที่เรานั้นยังไม่เคยใช้มันมาก่อนให้เรานั้นได้ทำการนำดินสอมาวาดรูปเช่นรูปหัวใจรูปสามเหลี่ยมหรือรูปอะไรก็ได้ที่เป็นรูปทรงเสร็จแล้วหลังจากนั้นให้เรานำพัตเตอร์มาตัดตามรูปทรงที่เราจะทำการวาดเอาไว้ นอกจากนั้นเรายังสามารถนำสีอะคริลิคมาระบายสีเพื่อเพิ่มความน่ารักให้กับยางลบของคุณได้อีกด้วย

คุณยังสามารถโรยกลิตเตอร์รวมถึงตกแต่งต่างๆตามที่คุณต้องการได้อีกด้วย เท่านี้คุณก็สามารถที่จะได้อย่าง – น่ารักๆในชายเรียบร้อย 

 

สมุดโน๊ตน่ารักๆ

DIYให้กลายเป็นของน่ารัก โดยให้เราแนะนำสมุดโน๊ตของเรามา นำปากกามาร์คเกอร์มาวาดรูปทรงน่ารักๆเช่นหัวใจหรือดวงดาวบนลงปกสมุดโน๊ตของเราเสร็จแล้วก็ให้นำคัตเตอร์หรือกรรไกรมาตัดตามรูปทรงเลยหลังจากนั้นให้เรานั้นนำกระดาษสีหรือกระดาษแข็งที่เป็นสีสดใสนำมาแปะลงบนปกเพื่อเพิ่มความน่ารัก

นอกจากนั้นคุณยังสามารถที่จะวาดลวดลายน่ารักๆได้อีกด้วยรวมถึงการตัดกระดาษอื่นๆเช่นรูปหัวใจมาแปะไว้บนหน้าปกเท่านี้ก็เพิ่มความน่ารักให้กับสมุดโน๊ตของคุณที่เป็นสมุดรถธรรมดาให้กลายเป็นสมุดโน๊ตที่มีความน่ารักจะตายเรียบร้อย

 

สนับสนุนโดย    สมัคร sbobet โดยตรง

ตำนานสระแก้วบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่จังหวัดจันทบุรี

          สระแก้วบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์   หากใครเคยเดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดจันทบุรีจะเห็นว่าที่นั่นมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งที่ชื่อว่าบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์สระแก้วซึ่งบ่อน้ำแห่งนี้ถูกกันเอาไว้สำหรับใช้น้ำในการประกอบพระราชพิธีสำคัญสำคัญของพระมหากษัตริย์  ตามตำนานเล่าขานเกี่ยวกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์นี้มีการเล่ากันว่า

        ในสมัยก่อนนั้นยังไม่มีใครรู้จักบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เนื่องจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาซึ่งเป็นภูเขาที่ไม่สูงมากนักในตอนนั้นมีตายายคู่หนึ่งอาศัยอยู่ตรงบริเวณเชิงเขาแห่งนี้และหาประทังชีวิตด้วยการหาของป่าไปขายสาเหตุที่ตายายไม่ได้ไปอยู่ในหมู่บ้านร่วมกับคนอื่นๆเนื่องจากว่าตายายเป็นโรคที่รักษาไม่หายอาการของโรคนั้นคือตามบริเวณร่างกายจะมีแผลพุพองเต็มไปหมดและมีน้ำเหลืองไหลเยิ้มจึงทำให้ผู้คนต่างพากันรังเกียจ

        สระแก้วบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์  อยู่มาวันหนึ่งในขณะที่ตาได้ออกไปหาสัตว์ป่าเพื่อมาใช้ในการประกอบเป็นอาหารเลี้ยงชีพของตนเองและยายนั้นปรากฏว่าตาได้ยิงธนูไปที่กระต่ายตัวหนึ่งแต่กระต่ายสามารถกระโดดหนีไปได้จึงได้ตามรอยกระต่ายไปบนภูเขาดังกล่าวจนไปเห็นว่ากระต่ายตัวดังกล่าวนั้นได้กระโดดลงไป

ในสระน้ำที่อยู่บนยอดเขาหลังจากที่มันกระโดดลงไปและกลับขึ้นมาก็พบว่าร่องรอยบาดแผลที่ถูกตาและธนูยิงนั้นหายไปด้วยความสงสัยตาจึงได้ตัดสินใจลงไปในบ่อดังกล่าวและเมื่อขึ้นมาก็พบว่าตนเองนั้นหายจากโรคพุพองและน้ำเหลืองก็ไม่มีไหลอีกต่อไปจึงได้นำเรื่องนี้ไปเล่าให้ยายฟังและพายายมาแช่ในน้ำที่บ่ดังกล่าว

           หลังจากที่ตายายแช่ลงในบ่อและหายจากโรคแผลพุพองแล้วทำให้ชาวบ้านที่เดินทางเข้าป่าเพื่อหาของป่าเมื่อเห็นตายายหายจากโรคก็ได้มีการสอบถามพูดคุยกันจนรู้ถึงที่มาของการรักษาโรคดังกล่าวและมีการไปเล่าลือต่างๆกันจนเรื่องราวนี้รู้ไปถึงหูเจ้าเมืองซึ่งเจ้าเมืองได้มีการส่งคนมาพิสูจน์และเห็นเป็นจริงจึงได้

ส่งเรื่องไปแจ้งเจ้าเมืองกลางในที่สุดสถานที่แห่งนี้ก็ถูกกันเอาไว้เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก็ห้ามคนเข้าไปใช้บ่น้ำดังกล่าวโดยเอาบ่อน้ำดังกล่าวนั้นไว้ใช้ในการประกอบพิธีการสำคัญของพระมหากษัตริย์เพียงเท่านั้นซึ่งในปัจจุบันนี้บ่อน้ำนี้ยังคงมีอยู่และน้ำในบ่อนี้จะถูกนำมาใช้ในการประกอบพิธีพิพัฒน์สัตยาบันนั่นเอง

          อย่างไรก็ตามสำหรับเหตุผลที่ชาวบ้านพากันเรียกบ่อน้ำแห่งนี้ว่าสระแก้วนั่นก็เพราะว่ามีการเล่ากันว่าในสมัยก่อนนั้นที่นี่มีแก้วรัตนชาติอยู่ภายในก้นสระแต่ปัจจุบันได้หายไปแล้วแต่อีกบางตำนานก็บอกว่าแก้วเนื่องจากว่าน้ำที่บ่อแห่งนี้มีความใสเหมือนแก้วนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.    gclub

ตำนานรักของแม่นาคพระโขนง  

                หากพูดถึงตำนานรักของแม่นาคพระโขนงเชื่อว่าคนในอดีตหรือคนเฒ่าคนแก่ยังเคยได้ยินตำนานรักนี้กันเป็นอย่างดีและอาจจะรวมถึงวัยรุ่นในยุคปัจจุบันนี้ก็ยังคงได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องของ ตำนานรักของแม่นาคพระโขนง เพราะปัจจุบันนี้เรื่องราวความรักนี้ยังคงมีการเผยแพร่ออกมาในรูปแบบของละครและภาพยนตร์เพื่อให้เห็นถึงความรักอันยิ่งใหญ่ของหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่อยู่ในเมืองพระโขนง

           อย่างไรก็ตามยังมีหลักฐานอ้างอิงได้ว่าเรื่อง ตำนานรักแม่นาคพระโขนง นั้นเป็นตำนานที่เกิดขึ้นจริงมาในอดีตโดยมีหลักฐานเป็นศาลของแม่นาคหรือปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่จะเรียกกันว่าย่านาคอยู่ที่วัดมหาบุศย์โดยสารนี้จะถูกตั้งอยู่ที่บริเวณท้ายวัด

         ซึ่งภายในสารนั้นจะมีรูปปั้นที่แสดงถึงตัวตนของแม่นาคพระโขนงตั้งอยู่ตรงบริเวณหน้าศาลเลยทีเดียวและจะมีบทสวดคำสอนสำหรับคนที่ต้องการมาขอพรหรือมาบ่นกับย่านาคไม่ว่าจะบ่นเรื่องของการเกณฑ์ทหารหรือบนเรื่องของความรักรวมถึงขอหวยก็สามารถที่จะมาที่ศาลของย่านาคแห่งนี้แล้วทำการบนจุดธูปเทียนและนำดอกไม้มาถวายและถ้าเกิดว่าสมหวังอย่างที่บนแล้วก็จะต้องนำสิ่งของมาทำการแก้บน 

         อย่างไรก็ตามตำนานของแม่นาคพระโขนงนั้นเกิดขึ้นมาหลายสิบปีแล้วด้วยว่ากันว่าในสมัยก่อนนั้นยังไม่ได้มีโรงพยาบาลดังนั้นการเจ็บไข้ได้ป่วยหรือการคลอดบุตรนั้นก็จะมีหมอหมู่บ้านเรียกว่าหมอชาวบ้านคอยดูแลซึ่งในช่วงนั้นเองที่แม่นาคนั้นได้แต่งงานกับสามีก็คือพ่อมากหลังจากแต่งงานแล้วสามีก็ต้องไปเป็นทหารเกณฑ์โดยเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ยากนั้นตั้งครรภ์พอดี

         อย่างไรก็ตามเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อจังหวะที่เพราะมากยังเป็นทหารอยู่และแม่นาคถึงกำหนดที่จะต้องคลอดแล้วแต่เนื่องจากว่าเด็กในท้องไม่ยอมกลับหัวทำให้ย่านาคนั้นเจ็บท้องเป็นอย่างมากและคลอดลูกยากซึ่งถ้าเป็นวิวัฒนาการในปัจจุบันนี้ก็จะเข้าห้องผ่าตัดและผ่าคลอดเด็กก็จะรอดและแม่ของเด็กก็จะรอดแต่ว่าในยุคสมัยโบราณนั้นยังไม่มีการผ่าคลอดดังนั้นเมื่อเด็กไม่ยอมกลับหัวทำให้คลอดลูกยากและตกเลือดในเวลาต่อมาท้ายที่สุดแล้วด้วยความเจ็บปวดและเสียเลือดเยอะก็ทำให้ย่านาคนั้นสิ้นใจตายไปพร้อมกับลูกในท้องกลายเป็นตำนานผีตายท้องกลมนั่นเอง 

         และเมื่อย่านาคเสียชีวิตแล้วก็ถูกนำศพมาฝังไว้ที่ป่าช้าตรงบริเวณท้ายวัดมหาบุศย์ซึ่งเป็นวัดที่ตั้งศาลของย่านาคในปัจจุบันหลังจากนั้นเมื่อสามีกลับมาจากการเกณฑ์ทหารวิญญาณของย่านาคก็มาใช้ชีวิตอยู่กับสามีโดยที่สามีไม่รู้เลยว่าภรรยาของตนเองนั้นตายไปแล้ว จนภายหลังชาวบ้านได้บอกกับพ่อมากเกี่ยวกับการตายของย่านาค

      ซึ่งท้ายที่สุดแล้วแม่ย่านางอยากจะอยู่กับสามีมากแค่ไหนแต่ก็ไม่สามารถอยู่ได้ชาวบ้านพากันหวาดกลัวจึงได้ไปตามหมอผีมาจับย่านาคแต่ก็ไม่มีหมอผีที่ไหนที่จะสามารถจัดการกับย่านาคได้  จนสมเด็จพุฒาจารย์โตได้มาปักกลดที่ใกล้กับวัดมหาบุศย์และได้ช่วยสะกดวิญญาณเพื่อให้วิญญาณของย่านาคนั้นไปสู่สุคติเรื่องราวความรักของแม่นาคพระโขนงจึงได้สิ้นสุดและกลายมาเป็นตำนานมาจนถึงปัจจุบัน 

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย.  ทางเข้า ufabet มือ ถือ

ตำนานดอกกุหลาบในเทพนิยายกรีก

           สำหรับ ดอกกุหลาบในเทพนิยายกรีก นั้นเป็นดอกไม้ที่มีความสวยงามและมีกลิ่นหอมแต่เดิมนั้นต้นกุหลาบมักจะมีหนามแหลมคมแต่ดอกของมันนั้นงดงามเป็นยิ่งนักแต่ในปัจจุบันนั้นได้มีการปรับเปลี่ยนพันธุกรรมของกุหลาบทำให้บางสายพันธุ์ในปัจจุบันนั้นไม่มีหนามองค์กิ่งก้านของกุหลาบอย่างไรก็ตามเชื่อว่าหลายคนคงเกิดความสงสัยว่ากุหลาบนั้นเกิดขึ้นมาได้อย่างไรซึ่งแน่นอนว่าในแต่ละประเทศนั้นก็มักจะมีตำนานที่แตกต่างกันออกไป

          ดอกกุหลาบในเทพนิยายกรีก ว่ากันว่ากุหลาบนั้นเกิดขึ้นมานานหลายหมื่นหลายพันปีมาแล้วหรือบางตำนานกล่าวว่ากุหลาบนั้นเกิดขึ้นมานานมากกว่า 70 ล้านปีมาแล้วก็ว่าได้สาเหตุที่สามารถพูดได้ว่ามีการเกิดกุหลาบมานานแล้วนั่นก็เพราะว่าที่ประเทศสหรัฐอเมริกาที่รัฐ Colorado และยังมีรัฐโอเรกอนนั้นได้มีนักโบราณคดีสามารถค้นพบฟอสซิลของกุหลาบนั่นเอง

        ดังนั้นเนื่องจากมีหลักฐานของฟอสซิลและสามารถตรวจสอบอายุของฟอสซิลดังกล่าวว่ามีอายุมาแล้วกี่ปีจึงทำให้มีความเชื่อได้ว่ากุหลาบนั้นมีอายุหลายล้านปีมาแล้วนั่นเอง   ว่ากันว่าแต่ก่อนนะดอกกุหลาบเมื่อเกิดขึ้นในป่าและหลังจากนั้นเมื่อมีคนเข้าไปในป่าและเห็นความสวยงามของดอกกุหลาบจึงนำมาปลูกไว้ภายในเมืองและได้มีการผสมพันธุ์และปรับเปลี่ยนพันธุกรรมโดยมีรูปร่างหน้าตาที่แตกต่างจากกุหลาบป่าแต่เดิมนั้นเอง

         สำหรับตำนานที่พูดถึงการเกิดของกุหลาบในเทพนิยายกรีกนั้นระบุว่า  แต่ที่จริงแล้วดอกกุหลาบนั้นเกิดมาจากน้ำตาของเทพธิดาองค์หนึ่งที่ชื่อว่าเทพธิดาวีนัสซึ่งเธอได้ร้องไห้เนื่องจากว่าเธอเสียใจจากการเสียชีวิตไปของคนรักของเธอโดยคนรักของเธอนั้นก็คือ  อคอนิส 

            ซึ่งเขาถูกหมูป่าฆ่าตายเธอจึงได้เศร้าโศกเสียใจและกอดศพของคนรักของเธอร้องไห้หลังจากนั้นน้ำตาของเธอที่หยดลงมาได้หยุดลงไปบนร่างกายของคนรักของเธอซึ่งหยดน้ำตานั้นได้กดไปผสมกับเลือดของคนรักของเธอเมื่อหยดลงพื้นก็กลายเป็นดอกกุหลาบขึ้นมานั่นเองและที่เป็นสีแดงก็เพราะว่าเป็นสีของเลือดของ อคอนิส นั่นเอง  สำหรับเทพธิดาวีนัสนั้นคือเทพธิดาของกรีกโดยว่ากันว่าเธอคือเทพแห่งความงดงามและยังเป็นเทพแห่งความรัก

           อย่างไรก็ตามบางตำนานบอกว่า  แต่ที่จริงแล้วดอกกุหลาบนั้นเกิดขึ้นมาจากเลือดของเทพธิดาวีนัสเพราะว่าเธอเสียใจจากการจากไปของคนรักของเธอ ดังนั้นเธอจึงใช้หนามจากกิ่งไม้มาแทงไปที่ตัวเองจึงทำให้มีหยดเลือดหยดลงพื้นและเกิดมาเป็นดอกกุหลาบสีแดงนั่นเอง แน่นอนว่า นี่คือต้นกำเนิดที่ว่าทำไมคนถึงใช้กุหลาบแดง แทนความหมายของความรัก 

 

สนับสนุนโดย.  gclub

 

ตำนานเรื่องเล่าอันน่าอัศจรรย์ใจของรูปปั้นหลวงพ่อโตที่วัดพนัญเชิง

         สำหรับวัดพนัญเชิงเป็นวัดที่มีหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีความสูงถึง 59.1 13 ม.คมีขนาดหน้าตักกว้างถึง 14 เมตรนับได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หลวงพ่อโตที่วัดพนัญเชิง ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยอยุธยา    รูปดังกล่าวนั้นก็คือหลวงพ่อโตนั่นเอง

โดยพระพุทธรูปหลวงพ่อโตนี้ถูกนำมาประดิษฐานไว้ที่วัดพนัญเชิงตั้งแต่ในสมัยปีพศ 1867 เป็นพระพุทธรูปที่มีการลงรักปิดทองและเป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะการปั้นออกมาคล้ายกับศิลปะสมัยอู่ทองตอนปลายนับได้ว่าเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่มีการสร้างมาในตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเลยก็ว่าได้ซึ่งหลวงพ่อโตนี้เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขัดสมาธิราบ   ประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อโตได้มีการบันทึกเอาไว้ในพงศาวดารเช่นเดียวกัน

         สำหรับหลวงพ่อโตเป็นพระพุทธรูปที่แม้แต่คนจีนก็ยังให้ความเคารพนับถือไม่ต้องพูดถึงประชาชนคนไทยที่ต่างก็รักและเคารพและศรัทธาหลวงพ่อโตกันมาก หลวงพ่อโตที่วัดพนัญเชิง จะเห็นได้ว่าวัดพนัญเชิงในแต่ละวันนั้นจะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและคนจีนเดินทางไปกราบไหว้หลวงพ่อโตกันอย่างหนาแน่นไม่ขาดสายโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นช่วงงานบุญแทบจะไม่มีทางให้เดินต้องเบียดเสียดยัดเยียดกันเลยทีเดียว

         ว่ากันว่ามีประวัติตำนานการเล่าเรื่องเกี่ยวกับความน่าอัศจรรย์ใจของรูปปั้นหลวงพ่อโตเมื่อครั้งสมัยที่กรุงศรีอยุธยากำลังอยู่ในช่วงของศึกสงครามเกิดขึ้นว่ากันว่าในสมัยนั้นก่อนที่กรุงศรีอยุธยาเสียกรุงเมื่อชาวบ้านเดินทางมาทำบุญกับหลวงพ่อโตและได้งานน่ามองไปที่องค์หลวงพ่อโตชาวบ้านก็จะเห็นน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นสายจากรูปปั้นของหลวงพ่อโตซึ่งมีการพูดกันปากต่อปากถึงความอัศจรรย์ไปนี้จนในที่สุดกรุงศรีอยุธยาเสียกรุงซึ่งในครั้งนั้นเกิดขึ้นในช่วง ปี พ.ศ. 2310 

         ชาวบ้านจึงมีการร่ำลือกันถึงน้ำตาที่ไหลออกมาจากรูปปั้นของหลวงพ่อโตว่านั่นคือการเตือนล่วงหน้าของหลวงพ่อโตที่นิมิตรเห็นแล้วว่าจะต้องเสียกรุงศรีอยุธยาไปให้กับข้าศึกอย่างแน่นอนหลวงพ่อโตจึงเกิดความเศร้าโศกเสียใจที่ประชาชนที่ตนเองรักนั้นจะต้องถูกฆ่าตายเลือดไหลนองแผ่นดินนั้นเอง

     อย่างไรก็ตามเรื่องเล่านี้ก็ได้มีการเล่าขานต่อๆกันมาตั้งแต่สมัยเสียกรุงจนถึงปัจจุบันเรื่องของน้ำตาหลวงพ่อโตที่ไหลลงมาในช่วงก่อนเสียกรุงก็ยังคงมีการพูดถึงกันอยู่ตอนนี้จนกลายมาเป็นตำนานที่สร้างความอัศจรรย์ใจให้กับประชาชนที่ได้ฟังเรื่องราวนี้กันทุกคน 

 

        ปัจจุบันวัดพนัญเชิงซึ่งเป็นสถานที่ที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโตนั้นนับได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อีกหลังหนึ่งสร้างรายได้ให้กับวัดพนัญเชิงเป็นอย่างมากชาวบ้านมักมาขอพรกับหลวงพ่อโตและทุกครั้งที่ขอพรก็จะสมหวังจึงทำให้หลวงพ่อโตแห่งวัดพนัญเชิงเป็นพระพุทธรูปที่มีชื่อเสียงโด่งดังเกรียงไกรตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนปัจจุบันชื่อเสียงของหลวงพ่อโตก็ยังคงมีอยู่ไม่เสื่อมคลาย

สนับสนุนโดย.    สมัคร sbobet โดยตรง

ความเชื่อเกี่ยวกับอาหารที่ใช้ในการไหว้เทพเจ้าในช่วงวันตรุษจีน

             สำหรับการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลวันตรุษจีนนั้นจะเห็นได้ว่าประชาชนจะออกมาจับจ่ายซื้อของตามตลาดเพื่อที่จะได้นำไปเตรียมอาหารนำมาไหว้เทพเจ้าต่างๆที่คนจีนให้ความเคารพนับถือไม่ว่าจะเป็นเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย  เทพเจ้าฮก ลก  ซิ่ว   หรือแม้แต่เทพเจ้าตี่จูเอี๊ยะ   แน่นอนว่าการออกไปซื้อของนั้นจะต้องมีการเลือกซื้อของที่เป็นของสิริมงคล

       ดังนั้นวันนี้เราจะมาดูกันว่าอาหารที่คนจีนนิยมซื้อมาเพื่อนำมา การไหว้เทพเจ้า นั้นมีอะไรบ้างและความหมายของอาหารแต่ละชนิดนั้นหมายถึงอย่างไรทำไมคนจีนถึงนิยมนำอาหารเหล่านั้นมาใช้ในการเซ่นไหว้เทพเจ้า

      สำหรับใครก็ตามที่ต้องการที่อยากให้ลูกหลานของตนเองนั้นเป็นผู้ชายส่วนใหญ่แล้วเมื่อถึงเทศกาลตรุษจีนก็จะนำเมล็ดบัวมากราบไหว้มีมาใช้ในการประกอบอาหาร  ในขณะเดียวกันถ้าหากต้องการที่จะให้เทพเจ้าช่วยส่งเสริมเกี่ยวกับเรื่องของการเงินแล้วเราก็จะมีการซื้อเกาลัดมาถวายเทพเจ้าแต่ถ้าอยากให้ร่ำรวยเงินทองก็จะต้องมีอาหารที่มีส่วนประกอบของสาหร่ายดำ

       อย่างไรก็ตามเราจะเห็นได้ว่าเวลาที่ไหว้เทพเจ้าตี่จู่เอี๊ยะนั้นจะมีการถวายเป็นปลาทั้งตัวหรือแม้แต่ไก่ทั้งตัวซึ่งการถวายปลาทั้งตัวนั้นในความเชื่อของคนจีนเชื่อว่าจะช่วยในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์การอยู่ร่วมกันของคนในครอบครัวอย่างมีความสุขในขณะที่มีการถวายไก่หรือถวายเป็ดนั้นก็จะต้องมีการถวายทั้งตัวอวัยวะของไก่และเป็ดที่นำมาถวายนั้นจะต้องอยู่ครบทั้งหมดโดยความหมายของคนจีนเชื่อว่าถ้าหากถวายแล้วจะมีความเจริญก้าวหน้ารุ่งเรืองนั่นเอง

            แน่นอนว่าถ้าหากใครอยากจะให้อายุยืนก็จะมีการนำหมี่ซั่วมาทำอาหารถวายเทพเจ้าซึ่งการนำหมี่ซั่วมาผลัดนั้นจะผัดเป็นเส้นยาวๆและจะไม่มีการตัดให้เส้นหมี่ซั่วมีขนาดสั้นเพราะถ้าเส้นหมี่ซั่วยิ่งยาวมากเท่าไหร่ก็หมายถึงว่าเราจะมีอายุยืนยาวมากขึ้นเท่านั้น  นอกจากนี้ยังมีอาหารอีกหลายอย่างที่นิยมทำมาเป็นอาหารสำหรับในการไหว้

อย่างเช่นมีการประกอบอาหาร การไหว้เทพเจ้า โดยมีส่วนผสมของดอกไม้ซึ่งความหมายของการถวายหน่อไม้นั้นก็จะหมายถึงเรื่องของความสุขความเจริญหรือแม้แต่การที่นำเต้าหู้หมัดมาถวายก็จะหมายถึงความเจริญรุ่งเรืองและความร่ำรวยซึ่งเต้าหู้ที่นำมาหมักและนำมาถวายที่พระเจ้านั้นจะต้องทำมาจากถั่วแห้ง 

            ยังมีขนมและผลไม้อีกหลายชนิดที่จะถูกนำมาถวายให้กับเทพเจ้าในช่วงเทศกาลวันตรุษจีนซึ่งขนมหรือผลไม้แต่ละชนิดนั้นก็จะให้ความหมายแตกต่างกันออกไปเช่นเดียวกัน  แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามส่วนใหญ่แล้วคนที่นำอาหารมาถวายหรือนำผลไม้มาถวายนั้นก็มักจะใช้ผลไม้หรืออาหารที่สอนความหมายถึงความร่ำรวยและความอุดมสมบูรณ์และชีวิตที่ยืนยาวนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย    ufabet บนมือถือ

เปิดประวัติแบรนด์ Chanel  

            เปิดประวัติแบรนด์ Chanel   หากพูดถึงแบรนด์ Chanel แล้วเชื่อว่าหลายคนคงรู้จักกันเป็นอย่างดีเพราะแบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าหรือเสื้อผ้าราคานั้นไม่ต่ำกว่าหลักหมื่นเลยทีเดียวเป็นสินค้าหรูที่หลายคนอยากได้ใช้เป็นแบรนด์ที่หญิงสาวทั่วโลกอยากได้มาครอบครองสำหรับวันนี้เราจะมาพูดถึงประวัติความเป็นมาของแบรนด์ Chanel ว่ามีจุดเริ่มต้นมาอย่างไรบ้าง

        เชื่อว่าหลายคนคงไม่รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วแบรนด์ชาแนลนั้นเกิดมาจากผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเธอมีนามสกุล Chanel   หญิงสาวคนนี้นั้นเป็นหญิงสาวชาวฝรั่งเศสเธอเกิดในช่วงปีค.ศ 1883 ซึ่งครอบครัวของเธอนั้นมีพี่น้องด้วยกันทั้งหมด 5 คน

โดยครอบครัวของเธอนัทมีฐานะที่เรียกว่ายากจนมากเลยทีเดียวชั้นแนวมีอายุได้แค่ 12 ปีแม่ขอเธอก็เสียชีวิตหลังจากนั้นพ่อของเธอก็นำเธอและพี่ๆไปฝากไว้ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าและตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาพ่อของเธอก็ไม่เคยกลับมาหาลูกๆอีกเลย

        Chanel เป็นคนที่ชื่นชอบการเย็บปักถักร้อยเธอมักจะเย็บเสื้อผ้าและทำเครื่องประดับเมื่อมีเวลาบ้างหลังจากที่เธออยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าไร่จนอายุ 18 ปีแล้วก็ย้ายไปอยู่ในเมืองแห่งหนึ่ง เปิดประวัติแบรนด์ Chanel ซึ่งเป็นหอพักสำหรับเด็กผู้หญิงที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกหลังจากนั้นเธอก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องของการเย็บเสื้อผ้าเพิ่มเติมและเธอก็ใช้การตัดเย็บเสื้อผ้าเป็นวิชาชีพในการหาเลี้ยงตนเองต่อมา Chanel ได้รู้จักกับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเขาเป็นลูกชายของมหาเศรษฐีแต่ฝ่ายชายนั้นเป็นเพลย์บอยจึงเป็นเพียงได้แค่เมียเก็บของเขาเพียงเท่านั้น

          อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาได้มาเป็นเมียเก็บของเพลย์บอยที่ชื่อว่า เอเตียน บัลซอง Chanel ก็เริ่มเข้าไปใช้ชีวิตสังคมไฮโซใช้สิ่งของหรูหราฟุ่มเฟือยไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือเครื่องประดับหลังจากนั้น เอเตียน บัลซองได้มีการลงทุนเปิดร้านให้เธอเพื่อให้เธอขายของที่เธอชื่นชอบและยังได้แนะนำให้ Chanel รู้จักกับบุคคลที่มีชื่อเสียงด้านหนึ่งในนั้นก็คือเพื่อนของเขาที่ชื่อว่า  เอ็ดเวิร์ด คาเปล   

          ซึ่งชายหนุ่มคนนี้ตกหลุมรักชาแนลตั้งแต่แรกเห็นและ Chanel ก็ทนคบอยู่กับแฟนหนุ่มคนแรกของเธอเพียงแค่ 5 ปีเท่านั้นหลังจากนั้นก็เลิกรากันและมาคบกับ เอ็ดเวิร์ด คาเปล    แทน แต่อย่างไรก็ตามเธอก็ยังคงสถานะเป็นเพียงแค่เมียน้อยเหมือนเดิมเท่านั้นเนื่องจากว่า เอ็ดเวิร์ด คาเปล    ก็มีคู่หมั้นแล้วเช่นเดียวกันแต่ทั้งคู่ก็คบกันจนในที่สุด Chanel ก็เสียชีวิตลง

      อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ Chanel คบกับ เอ็ดเวิร์ด คาเปล   นั้นเขาได้มีการลงทุนให้เธอเปิดร้าน เสื้อผ้าและร้านขายหมวกตามที่เธอใฝ่ฝันสินค้าของเธอได้รับความนิยมมากหลังจากที่มีนักแสดงสาวคนหนึ่งนำหมวกของเธอไปใส่ในการถ่ายทำภาพยนตร์ถึง 2 เรื่องด้วยกันหลังจากนั้นคนในวงสังคมไฮโซต่างก็พากันชื่นชอบสินค้าแบรนด์ของเธอมีความรักและผลงานของเธอก็โด่งดังไปทั่วโลกจนทุกวันนี้แบรนด์ชาแนลจึงเป็นอันดับต้นๆของโลกที่มีราคาแพงมากๆ 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย    บาคาร่า w88

ตำนานที่มีความน่ากลัวอย่างมากของประเทศญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่นได้เป็นเมืองที่ได้มีความสวยงามของประเพณีและวัฒนธรรมต่างๆ ซึ่งจะเป็นประเทศที่ได้มีความน่าท่องเที่ยวอย่างมาก แต่ในการที่ได้มีประเพณีที่มีความสวยงามน่าไปท่องเที่ยวนั้นก็ได้มีตำนานที่ได้มีความน่ากลัวเช่นกัน

ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นนั้นก็ได้มีความเชื่อในเรื่องภูตผีปีศาจ และได้มีความเชื่อในตำนานต่างอีกด้วย ซึ่งในตำนานของประเทศญี่ปุ่นั้นก็ได้มีความหลากหลายอย่างมาก และได้มีความประหลาดมากๆอีกด้วย

และนอกจากนี้ไม่เพียงแค่ว่าจะมีการพูดถึงของภูติผีต่างๆเพียงเท่านั้น แต่ยังมีสถานที่ที่ได้มีความน่ากลัวอย่างมากอีกด้วย และในตำนานที่ได้มีความน่ากลัวของประเทศญี่ปุ่นนั้นก็ได้มีตำนานได้หลากหลายเช่น

  1. นูเระ อนนะ หรือผู้หญิงเปียก ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นปีศาจที่สามารถที่จะอยู่ได้ทั้งบนบกและในน้ำ ซึ่งในตำนานได้มีการกล่าวไว้ว่าได้เป็นผู้หญิงที่มีลำตัวนั้นเป็นงู และในความยาวของลำตัวของเธอนั้นก็ได้มีความยาวอย่างมาก ซึ่งได้มีความยาวมากถึง300เมตรเลยทีเดียว ซึ่งได้มีความเชื่อว่านูเระ อนนะ นั้นได้เป็นวิญญาณของหญิงสาวที่ได้มีความแค้นของผู้หญิง ซึ่งได้อยู่ตามน้ำหรือตามชายหาดที่ได้มีความเงียบสงบอย่างมาก และในการที่ใครนั้นได้มีการลงไปเล่นน้ำนั้น จะมีการที่ถูกปีศาจตนนี้ลากลงไปในน้ำอีกด้วย
  2. ฮิโตบาชิระ คือเสามนุษย์เป็นเสาหลักในตำนานของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่ที่ได้มีการใช้การสังเวยผู้คนทั้งเป็นไว้ใต้อาคาร หรือเขื่อนสะพานต่างๆ ซึ่งได้เป็นการที่การที่จะอธิฐานต่อเทพเจ้า เพื่อที่จะทำให้การก่อสร้างนั้นสามารถที่จะทำไปได้อย่างลุล่วง ซึ่งเราจะสามารถที่จะเห็นเสามนุษย์นี้จะสามารถที่จะทำการพบเห็นได้มากในเมืองต่างๆอีกด้วย
  3. โกซู เป็นอีกหนึ่งตำนานที่ได้มีความน่ากลัวอย่างมากของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้เป็นที่รู้จักในนามของหัววัว ซึ่งในตำนานหัววัวนี้ก็คือ มีวันหนึ่งได้มีเด็กและอาจารย์กลุ่มหนึ่งนั้นเกิดการเยื่อขึ้นในระหว่างการที่ทำการเดินทาง ซึ่งครูนั้นก็ได้มีการที่ทำการเล่าเล่าเรื่องสยองขวันหรือหนึ่งให้กลุ่มนักเรียนนั้นฟังในการที่เดินทาง

ซึ่งครูนั้นก็ได้มีการที่เล่าเรื่องของหัววัวนี้ขึ้นมา และเด็กๆนั้นก็ได้มีความสนใจกันอย่างมาก แต่ได้มีความน่ากลัวอย่างมากของเรื่องเล่าที่ครูที่ได้เล่าอยู่ ซึ่งครูนั้นได้เล่าจนเด็กทั่งหลายนั้นได้มีการให้ครูนั้นหยุดเล่าเรื่องนี้

แต่ครูนั้นไม่สามารถที่จะหยุดเล่าเรื่องนี้ได้ และได้มีการที่เล่าต่อไปเรื่อย จนกระทั่งรถได้มีการหยุดบนถนน ซึ่งเด็กและคนขับรถต่างๆนั้นไม่สามารถที่จะทำการเคลื่อนไหวได้ และในเวลาต่อมานั้นก็สามารถที่จะขยับตัวได้ แต่ไม่สามารถที่จะทำการจำเรื่องทั้งหมดนั้นได้ และได้มีการที่ลืมเรื่องที่ได้เล่าไปอีกด้วย

 

 

ขอขอบคุณที่ให้การสนับสนุนโดย.    สมัครเว็บ ufabet

ศิลปะบำบัด ของผู้คนในยุคปัจจุบัน

 

ในยุคที่งานศิลปะต่างๆสามารถเข้าถึงจิตใจผู้คนง่ายมากยิ่งขึ้น วงการแพทย์หรือคุณหมออะไรคุณเริ่มมีการใช้งานศิลปะต่างๆเข้ามาบำบัดจิตใจผู้คนให้อารมณ์เย็นขึ้น อารมณ์ดีขึ้น นิ่งมากยิ่งขึ้น หรือแม้เธอชวนการสร้างสมาธิ และการระบายออกมา วิตามินต่างๆที่งานศิลปะต่างๆ

ของผู้คนในยุคปัจจุบันเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ในการพัฒนารูปแบบต่างๆในการทำงานเนื่องจากมนุษย์เป็นที่ทราบกันดีว่ามีวิวัฒนาการอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ในการคิดจิตวิญญาณการพูดหรือการมี มันกำลังพัฒนา

ต้องกล่าวว่าสำหรับบุคคลต่างๆที่ผ่านมาการพัฒนางานและการฝึกอบรมพัฒนาความก้าวหน้าของสถานที่ทำงานซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนหรือโอนย้ายได้ตามสถานการณ์ทางสังคม มันเป็นลักษณะของงานการถ่ายโอนลูกค้าหรือเวลาที่อยู่ข้างๆและการพัฒนางาน

และการเปลี่ยนแปลง การพัฒนาที่ได้รับการถ่ายทอดในรูปแบบอื่น ๆ การเปลี่ยนแปลงและการทำงานของสมองต่างๆที่ได้รับผลเกี่ยวกับงานศิลปะต่างๆที่ในการถ่ายทอดถึงเรื่องราวต่างๆหรือแม้จะเป็นชีวิตประจำวันที่มีความตึงเครียดหรือเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ในอดีตทำให้รูปแบบของสิ่งต่างๆเหล่านี้นำมาสามารถผนวกรวมกันได้ รูปแบบในการทำงานทางสมองต่างๆในการเสี่ยงต่างๆที่มีความผ่อนคลายและรูปแบบทางธรรมชาติที่มีคุณสมบัติที่ดีมากขึ้นนี้สร้างสรรค์ให้เกิดรูปแบบในการทำงานใหม่ๆโดยเฉพาะการบำบัดจิตใจผู้คน

คุณสามารถมองเห็นสิ่งเหล่านี้ได้ง่ายขึ้นในชีวิตประจำวันของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงที่เจริญรุ่งเรืองในสภาพสังคมสะท้อนให้เห็นในความคิดเห็นและความคิดของผู้คนในยุคต่างๆการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างที่มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา

ในยุคปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาของบราวน์ในปัจจุบันช่วยให้ผู้คนมีลักษณะโครงสร้างสำหรับการพัฒนาการขึ้นรูปหรือการทำงานหนักที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เป็นธรรมชาติของคุณสมบัติต่างๆเหล่านี้ มันมากขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

วันนี้คุณสามารถสร้างโครงสร้างการทำงานและการเปลี่ยนแปลงที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้หลากหลาย ขณะนี้บราวน์กำลังเพิ่มการวิจัยเชิงบรรยายเพื่อให้มนุษย์สามารถพัฒนาและเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและเพื่อปรับปรุงโครงสร้างทางความคิดของผู้คน

มีห้องเรียนหลายห้องรวมถึงการเรียนรู้ภายนอกเช่นพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติและแกลเลอรีที่จัดแสดงความคิดของจิตรกร ที่สามารถเข้าถึงง่ายๆว่ายิ่งขึ้นงานศิลปะบำบัดในยุคปัจจุบันจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่การรักษาต่างๆทางสมองหรือคุณค่าต่างๆทางความคิดที่มีการเปลี่ยนแปลงในการพัฒนามากยิ่งขึ้น

นี้ทำให้มีการพัฒนาในรูปแบบหรือความเชื่อต่างๆมากมายการเปลี่ยนแปลงเสียงดังกล่าวนี้เอง ทำให้ผู้คนในยุคใหม่ที่ในการรักษามีการเข้าถึงได้ดีมากยิ่งขึ้นและมีทางเลือกมากยิ่งขึ้นในการเลือกรูปแบบในการรักษาตัวเองเยียวยาจิตใจและรูปแบบทางความคิดต่างๆที่มีการจัดระบบทางความคิดได้ใช้ศิลปะบำบัดเข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเป็นเครื่องมือในการรักษา 

สนับสนุนโดย    เซ็กซี่ บาคาร่า ทดลองเล่น