Author's posts

ยืนยิ้มหน้ากระจกเงา หนึ่งในเทคนิคการถ่ายรูปกับกระจกให้น่าสนใจ

ยืนยิ้มหน้ากระจกเงา หนึ่งในเทคนิคการถ่ายรูปกับกระจกให้น่าสนใจ เทคนิคนี้จะคล้ายกับเทคนิคการถ่ายแบบลองเสื้อผ้าหน้ากระจกเลย เพียงแต่ การถ่ายแบบยืนยิ้มนั้นจะง่ายกว่ามากในหลายๆเรื่อง อย่างการถ่ายลองเสื้อต้องถ่ายเต็มตัวถึงจะน่าสนใจ หรือถ้าไม่เต็มตัวก็ต้องมีจุดสนใจบางอย่างเช่นการถ่ายแบบจัดทรงหมวกอะไรทำนองนี้ แล้วก็ทำให้ต้องตากล้องนั้นต้องถ่ายไกลสักหน่อยเพื่อให้กรอบพอดีกับกระจกทั้งตัวนั้น

ซึ่งก็จะทำให้เกิดความยุ่งยากในการจัดฉากต่างๆที่เป็นแบล็กกราวนั้นเอง แต่การถ่ายแบบยืนยิ้มนั้น จะมีความสนใจของภาพที่รอยยิ้มนั้น เพราะฉะนั้นการถ่ายเต็มตัวจะเป็นอะไรที่ลดจุดสนใจที่เป็นรอยยิ้มเกินไป

เพราะฉะนั้นถ่ายเพียงแค่ครึ่งตัวก็พอแล้วล่ะ นั้นทำให้การจัดกรอบภาพนั้นแคบลงเยอะเลย บางครั้งไม่จำเป็นต้องติดแบล็กกราวของห้องด้วยซ้ำไป แล้วนั้นแหละ ง่ายขึ้นเยอะเลย

ก่อนอื่นนั้นเราต้องหากระจกที่บานใหญ่สักหน่อย แต่ไม่จำเป็นต้องเต็มตัวอะไรนะ เราจะใช้ง่ายๆจากกระจกที่เราใช้แต่งตัว หรือกระจกห้องน้ำก็ได้ แต่กระจกบานนั้นก็ต้องดูสิ่งที่มันสะท้อนด้วย ถ้าฉากที่อยู่ตรงข้ามกระจกรก ก็จะทำให้ภาพไม่ส่วยเช่นกัน ต่อมาก็ ตัวแบบมายืนยิ้มได้เลย แต่งตัวสบายๆเหมือนอยู่บ้าน หรือจะเป็นแบบแต่งตัวกำลังออกไปเดทก็ได้นะ

เพราะการยืนยิ้มหน้ากระจกนั้นเราต้องการจะสื่อถึงความสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง เช่นการให้กำลังใจตัวเองที่อยู่บ้านด้วยเหตุอันใดก็ตาม หรือพยายามสร้างความมั่นใจก่อนไปออกเดทกับหนุ่มที่ชอบ หรือจะเป็นการสร้างความมั่นใจก่อนจะไปสำภาษณ์งาน นี่คือสิ่งที่เทคนิคนี้จะบอกในภาพ ต่อมาก็ไม่ยากเท่าไหร่ด้วยการใช้เทคนิคตากล้องเดิมๆ

นั้นคือยืนหลังแบบ เฉียงๆหน่อย แล้วก็จัดกรอบภาพโดยโฟกัสไปที่รอยยิ้มในกระจก แต่จะต้องติดหลังของตัวแบบที่กำลังยืนส่องกระจกด้วยนะ เป็นอะไรที่จะทำให้รอยยิ้มดูหน้าสนใจขึ้นไปอีก ส่วนการจัดกรอบส่วนแบล็กกราวนั้น ไม่ต้องให้ติดมากก็ได้หรือว่า ไม่ต้องติดเลยก็ได้ ขอเพียงให้เห็นแผ่นหลังของตัวแบบ กับรอยยิ้มที่สะท้อนของแบบในกระจกเท่านั้นพอ

ภาพแบบนี้ จะยิ่งดูหน้าสนใจถ้าเกิดว่าตัวแบบกำลังแต่ตัวอยู่บ้านแบบสบายๆ ติดเซ็กซี่นิดๆจะยิ่งยอดไปเลย แบบว่าใส่เสื้อกล้าม โชว์แผ่นหลังอะไรทำนองนี้ ก็เป็นอะไรที่ทำให้ภาพดูมีความน่ามองขึ้นอีกเยอะเลย แต่ว่าต้องระวังเรื่องเซ็กซี่เกินไปด้วยล่ะ เดี๋ยวจะโดนแบน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  ทางเข้า ufabet มือถือ

อาถรรพ์คำสาปของเพชรโอบ

อาถรรพ์คำสาปของเพชรโอบ Hope Diamond

ต้นกำเนิดของเพชรน้ำงามสีน้ำเงินลึกลับนี้ก็ยังคงมีข้อสงสัยกันอยู่มากเพราะว่าไม่มีบันทึกเอาไว้เป็นที่แน่นอนแต่เป็นที่รู้จักกันว่าคนแรกที่ได้ครอบครองคือนักค่าเพชรพลอยผู้ช้ำซอยการเดินทางชาวฝรั่งเศษในสมัยกลางในช่วงคริสตศักราชที่17 ชื่อ jean Baptist Tacernier ระหว่างเดินทางมายังประเทศอินเดีย jean Baptist Tacernierก็ได้พบก้อนหินที่มีค่าที่มองดูภายนอกเหมือนซอฟไฟล์แต่ที่จริงแล้วคือเพชรดิบสีน้ำเงินขนาด1123/16กะรัต

ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในโลกในบรรดาเพชรสีน้ำเงินในอดีตที่เคยพบมาหลังจากที่jean Baptist Tacernierเดินทางกลับไปประเทศฝรั่งเศษเขาก็ได้ขายเพชรเม็ดใหญ่นี้ให้ พระเจ้าหลุยส์ที่ 14และเมื่ออายุได้84ปี jean Baptist Tacernierก็ได้เสียชีวิตอย่างลึกลับที่รัสเซียโดยมีข่าวลือว่าถ้าถูกหมาป่าถูกฉีดร่างจนตายต่อมาพระเจ้าหลุยส์ที่ 14ได้มีรับสั่งให้ทำเพชรใหม่

โดยได้ตัดแบ่งเพชรให้ออกเป็น3ส่วนซึ่งในชิ้นแรกนั้นได้หายสาปสูญไปส่วนอีก2ชิ้น ชิ้นหนึ่งได้รับการให้ทำเป็นรูปหัวใจที่มีขนาด671/8กะรัต และ ใช้เป็นเพชรประดับประจำราชวงศ์ฝรั่งเศษไปอีกนับศตวรรษในชื่อเพชรมงกุฏสีน้ำเงิน หรือ สีน้ำเงินแห่งฝรั่งเศษเวลาผ่านไปความโชคร้ายก็เริ่มเข้ามาครอบงำชีวิตในครอบครัวราชวงศ์โดยพระเจ้าหลุยส์ที่16และพระราชนีในทั้งสองพระองค์ได้ถูกตักพระเศียรจะการประติวัตการนองเลือดฝรั่งเศสในปี1979

และเพชรมรณะเม็ดนี้ก็ได้หายสาปสูญไปในเหตุการณ์วุ่นวายในครั้งนี้ด้วยต่อมาในปี1813 ณ กรุงลอนดอน นายหน้าที่ค้าเพชรก็ได้เพชรเม็ดหนึ่งที่มีขนาด44กะรัตมาไว้ในครอบครองถึงแม้ว่ารูปร่างและลักษณะนั้นมันจะไม่เหมือนเดิมแต่ด้วยความงามที่เป็น1และไม่มี2จึงได้ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นนั้นต่างก็ได้มีความเชื่อกันว่ามันก็คือเพชรน้ำเงินแห่งฝรั่งเศษที่ได้มีการถูกเปลี่ยนให้เป็นรูปร่างไปเพื่อที่จะทำให้สะดวกต่อการที่จะขนย้ายข้ามชาติเป็นไปอย่างลับๆ

จากนั้นยังได้มีหลักฐานจากบางแหล่งว่าพระเจ้าจอร์จที่ 4แห่งราชวงศ์อังกฤษก็ได้เป็นพระองค์หนึ่งงที่ได้เคยเป็นผู้ที่ครอบครองของเพชรที่เป็นอาถรรพ์จากนั้นจึงทำให้ทางราลวงศ์นั้นจำเป็นที่จะต้องขายมันไปเมื่อสินพระชนม์เพื่อจ่ายหนี้ที่มีอยู่จำนวนมหาสารจากนั้นมาเพชรก็ได้ถูกเปลี่ยนมือไปเรื่อยๆจนในปีคริสตศักราช1939เฮรี้ฟิโรพอบเจ้าของมรกดบริษัทการธนาคารก็ได้ซื้อเพชรสีน้ำเงินเพชรนี้เอาไว้เพชรมงกุฏแห่งฝรั่งเศษจึงได้กลายเป็นเพชรประจำตระกุลโฮบและก็ได้ชื่อว่าเพชรโฮบนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาตระกุลโฮบที่เคยร่ำรวยต้องประสบมรสุมชีวิตและลงท้ายด้วยการล้มลลายเนื่องจากถูกคำสาปของเพชร

ชีวิตแสนเศร้าของศิลปินระดับโลก

ชีวิตแสนเศร้าของศิลปินระดับโลก แวนโก๊ะนักวาดภาพที่มีชื่อเสียงระดับโลกแต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังของเขาช่างสุดแสนโศกเศร้าแวนโก๊ะตั้งใจเป็นศิลปินหรือจิตรกรตั้งแต่เด็กมีความสนใจทางด้านนี้แต่ตลอดชีวิตของเขาเขาถ่ายภาพได้เพียงแค่ภาพเดียวแต่หลังจากที่เขาสิ้นลมหายใจไปจากโลกนี้ศิลปะที่เขาสร้างไว้ให้กับเรากลับกลายเป็นสิ่งของมีค่าเป็นอย่างมากมีการประมูลด้วยราคาอย่างสูงที่นักสะสมทุกคนต้องจับตามอง

และออกงานประมูลทุกๆครั้งก็ถึงกับเป็นความฮือฮาของทุกๆคนไม่ใช่แค่ภาพเท่านั้นที่มีราคาเป็นหลักล้านแม้แต่ปืนที่เขาใช้จบชีวิตตัวเองก็ถูกนำมาจัดแสดงในระยะเวลาหลายปีและถูกดูแลอย่างดีด้วยพิพิธภัณฑ์แต่ในภาคหลังก็มีการประเมินราคากันซึ่งหลังจากการประเมินก็ต้องตอบด้วยว่าสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถประเมินค่าได้เพราะมีค่าส่งทางจิตใจแต่ที่สำคัญงานเขาทุกชิ้นมีราคามาก

สำหรับนักสะสมในปัจจุบันก็มีการเก็บบำรุงเป็นอย่างดีเพื่อให้อนุรักษ์ไว้ซึ่งศิลปะมนุษย์เราเป็นสิ่งที่สามารถเรียนรู้พัฒนาส่งต่อองค์ความรู้ต่างๆได้และบรรยายความรู้สึกออกมาเป็นสิ่งต่างๆไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลงการพูดการสื่อสารออกไปการกระทำต่างๆหรือแม้แต่การเขียนหนึ่งในนั้นของการระบายอารมณ์และก็คือการวาดรูปการวาดรูปเป็นทักษะที่ต้องระยะเวลานานแต่ว่าภาพที่เกิดจากการวาดเหมือนจริงอาจจะไม่ใช่ภาพที่สมบูรณ์แบบก็ได้

สิ่งที่มาจากจินตนาการของแวนโก๊ะก็จึงถูกยกย่องให้เป็นศิลปินที่มีความสําคัญระดับโลกชื่อเสียงของเขาแพร่กระจายอย่างรวดเร็วบทเรียนต่างๆของนักศึกษาวิชาศิลปะก็คงไม่พ้นผลงานของเขามาเป็นแบบอย่างในการทำงานมีคนพยายามลอกเลียนแบบผลงานของเขาแต่อย่างที่รู้กันว่าไม่มีใครสามารถลอกเลียนจิตวิญญาณของงานเขาได้ ชีวิตคนเศร้าของเขาเริ่มต้นที่เขาเริ่มจากการวาดรูปด้วยความสนุกสนานและคิดว่าจะหาเลี้ยงชีพด้วยอาชีพศิลปินแต่ชีวิตของเขาก็คือการเพราะว่ารูปภาพของเขาไม่เคยขายได้เลยจนมาเมื่อไม่นานมานี้ตอนที่เขาอายุประมาณวัยกลางคน

เขาขายภาพได้ 1 ภาพเขามีความยินดีอย่างมากที่มีคนชอบผลงานเขาแต่ใครจะรู้ว่าโตมาผลงานชิ้นนั้นของเขามีมูลค่ามากมายต่อมาเขาได้พยายามรังสรรค์รูปภาพออกมาตามจินตนาการของเขาแต่ว่าไม่มีใครซื้อผลงานของเขาเลยแม้แต่ชิ้นเดียวจึงทำให้เขาคิดว่าเขาเป็นคนไร้ฝีมือเราก็ไม่มีทักษะทางด้านนี้เขาต้องสู้กับความหิวโหยจากการขาดอาหาร

เพราะไม่มีเงินและโรคซึมเศร้าที่เขาต้องเผชิญเขาระบายมันออกมาเป็นรูปภาพรูปภาพที่ดังของเขาเป็นรูปภาพที่เห็นเมืองท้องฟ้าและพระจันทร์ที่มีรูปร่างบิดเบี้ยวผิดผิวไปทุกส่วนภายหลังรูปของเขามีความนิยมอย่างมากในปัจจุบันเพราะว่าเขาได้ตัดผมตัวเองออกเพราะจะได้ไม่ได้ยินเสียงต่างๆและเขาก็ยังทำอาชีพนี้ได้มาสุดท้ายชีวิตอาศัยเจ้าของก็จบด้วยการยิงหัวตัวเองด้วยปืนก่อนที่เขาจะจบชีวิตลงและเรื่องเราเขาก็ถูกแล้วต่อมาอีกหลายสิบปี 

 

Art ศิลปะกับการพัฒนา

Art ศิลปะกับการพัฒนา เมื่อพูดถึงศิลปะที่เป็นศาสตร์หนึ่งของสุนทรียศาสตร์แล้วนั้นเชื่อว่าทุกคนต้องเห็นถึงความสำคัญ แต่ว่าศิลปะนั้นมีความสำคัญขนาดไหนนั้นและเราจะสามารถส่งเสริมศิลปะให้กับเด็กอย่างไรเพื่อจะเป็นการพัฒนาและสนับสนุนในตัวเด็กคนนั้นๆ

ความเข้าใจที่สำคัญเกี่ยวกับศิลปะเราต้องมีความเชื่อว่าศิลปะนั้นเป็นหนึ่งในพัฒนาการของเด็ก เด็กจะต้องได้เรียนรู้และทำกิจกรรมศิลปะประหนึ่งว่าศิลปะนั้นคืออาหารชนิดหนึ่งที่จะต้องทานให้ครบห้าหมู่ ชีวิตเด็กต้องมีกิจกรรมที่เป็นกิจกรรมศิลปะเข้าไปอยู่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตนั่นเอง

เราคงได้ยินกันบ่อยๆในเรื่องสมองซีกซ้ายและสมองซีกขวา ซีกขวานั้นจะเป็นซีกของจินตนการซีกซ้ายจะเป็นเรื่องของความคิดที่เป็นตรรกะอะไรต่างๆ ถ้าเด็กจะพัฒนาอย่างสมบูรณ์ที่จะสามารถได้ใช้พลังสมองทั้งสองข้าง ศิลปะนั้นจำเป็นอย่างแน่นอน

ในระดับเด็กนั้นเอประกวดอะไรเราจะสามารถสู้ได้ไม่ว่าจะเป็นคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ โดยทั่วไปแล้วประเทศเรายังพัฒนาสู้ประเทศทางตะวันตกหรือญี่ปุ่นอะไรไม่ค่อยได้ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะว่าเราไม่ได้สงเสริมทางด้านศิลปะอย่างชัดเจน มีนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังระดับโลกได้พูดถึงจินตนาการและวิทยาศาสตร์ไว้อย่างชัดเจนว่า จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ เพราะเมื่อมีจินตนาการแล้วตัวจินตนาการนั้นสามารถนำไปสู่การค้นหาความรู้อื่นๆได้นั่นเอง ดังนั้นสิ่งที่ส่งเสริมที่ชัดเจนในเรื่องของจินตนาการนั้น ศิลปะจึงเป็นสิ่งที่มีบทบาทสำคัญมากๆ

ในบางครั้งเรามักจะได้ยินว่าศิลปะนั้นไม่มีขอบเขตแต่ในปัจจุบันพ่อแม่บางครั้งมีการสอนให้เด็กๆระบายสีหรือทำเรื่องเกี่ยวกับศิลปะให้อยู่ในขอบเขตเพราะมองว่าเป็นเรื่องความสวยงามทำให้เด็กๆถูกจำกัดในเรื่องของศิลปะนั่นเอง ดังนั้นต้องดูว่าพ่อแม่นั้นรู้จักศิลปะมากพ่อหรือยังถึงได้มีการกำหนดกฎเกณฑ์เด็กเช่นนั้น ต้ องดูว่าศิลปะในความเป็นจรองนั้นเป็นอย่างไรบ้างซึ่งปัจจุบันนี้ศิลปะมีหลากหลายชนิดมาก

หากยกตัวอย่างจากศิลปินระดับโลกเช่นปิกัสโซ่ เคยพูดไว้ว่า ในเด็กทุกคนนั้นมีความศิลปินอยู่ในตัวแต่ความยากคือว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ศิลปินนั้นยังคงอยู่ในตัวเด็ก โดยความเป็นศิลปะนั้นมีอยู่ในตัวของเด็กทุกคนอยู่แล้วและธรรมชาติในตัวเด็กและการที่ผู้ใหญ่มีความคิดแบบนั้นก็เป็นไปตามทฤษฎีที่ว่า ในเด็กนั้นจะมีความมั่นใจในเรื่องของสิลปะสูงสุดและเมื่อโตขึ้นมานั้นความมั่นใจในเรื่องศิลปะก็จะลดลงจนหมดเพราะเกิดจากการที่ผู้ใหญ่เอากรอบความคิดมาใสในตัวเด็กนั่นเอง

แต่ถ้าเด็กนั้นได้รับการส่งเสริมอย่างถูกวิธีแล้วนั้นได้รับความรู้ที่ถูกต้องในความเป็นจริงกับศิลปะนั้นซึ่งมีหลากหลายรูปแบบให้ตรงตามความต้องการของเด็ก เด็กก็จะมีการพัฒนาขึ้นไปจนสามารถเป็นศิลปินได้ในที่สุด

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย   เว็บบาคาร่าฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

การ์ตูนล้อเลียน

การ์ตูนล้อเลียน คืออะไรแล้วทำไมคนถึงสามารถนำบุคคลต่างๆมาล้อเลียนผ่านการ์ตูนได้อย่างสนุกสนานเศร้าเสียงหัวเราะและคอนเทนเนอร์ต่างให้กับโลกในยุคปัจจุบัน มีเพจชื่อดังมากมายที่มีชื่อเสียงมาได้เพราะการทำการ์ตูนล้อเลียนนักการเมืองต่างๆบุคคลในโลกออนไลน์ที่มีชื่อเสียงระดับหนึ่งการทำการ์ตูนล้อเลียนถือว่าเป็นการไม่ผิดกฎหมาย

เพราะไม่ได้ระบุตัวตนบุคคลอย่างชัดเจนมีการนำคาแรคเตอร์ต่างๆมาแปลงเพื่อให้บุคคลเหล่านั้นเข้าใจง่าย อาจจะถามว่าเพจไหนเป็นเพจการเมืองที่ดังที่สุดมีการ์ตูนล้อเลียนมากมายที่โลกออนไลน์ให้ความสนใจจากรัฐบาลก็ให้ความสนใจเองนั่นก็คือเพจไข่แมว ไข่แมวเป็นเพจแนวเสียดสีสังคมการเมืองเรื่องราวต่างๆ

ที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบันผ่านทางการ์ตูนที่มีคาแรคเตอร์ชัดเจนโดยที่ไม่บอกชื่อต่างๆแต่คนก็สามารถตีความได้ไปในทางทิศเดียวกันว่าเป็นคนนั้นคนนี้เพราะในโครงหน้าและหน้าตาต่างๆการกระทำคำพูดบ่งชี้แปลว่าเขาหมายถึงใคร ทั้งๆที่ไม่ได้เอ่ยชื่อหรือแม้แต่เขียนชื่อลงไปในนั้น การออกแบบตัวการ์ตูนเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับใครหลายคนที่เรียนทางด้านนี้มาแต่ส่วนใหญ่ที่ใช้การได้ก็คืออัตราส่วนหนึ่งต่อหนึ่งนั้นคือลำตัวหนึ่งส่วนและหัวมีอัตราส่วนที่เท่ากันยกตัวอย่างเช่นถ้าจะออกแบบใครสักคนที่มีขายแต่เด่นชัดที่เขามีโครงหน้าเป็นรูปสี่เหลี่ยมเราอาจจะลำตัวเขาขึ้นมาขนาด 10 cm แล้วอัตรา 1 ต่อ 1 ก็ต้องวาดหัว 10 เมตร

นี่จะทำให้มีลักษณะที่ออกมาได้ก็คือตัวเล็กและหัวใหญ่เป็นคาแรคเตอร์หน้าอย่างเด่นชัดและองค์ประกอบอื่นๆหากคุณใส่อย่างชัดเจนเช่นดวงตาหาคนนั้นเป็นคนที่ดวงตาเล็กคาแรคเตอร์นี้หน้าเหลี่ยมดวงตาเล็กและจมูกเขาใหญ่ป้าเขาก็ใหญ่เช่นกันหาคนอื่นมาเห็นคาแรคเตอร์ที่เด่นชัดขนาดนี้ก็คงจะบอกได้ว่าเป็นคาแรคเตอร์ของใครนี่คือส่วนหนึ่งที่ทำให้การออกแบบตัวละครมีความสำคัญอย่างมากกับหน้าจริง

ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมาใช้จะทำให้การออกแบบง่ายขึ้นเยอะมีคอร์สสอนนักเรียนมากมายในปัจจุบันที่สอนเกี่ยวกับการออกแบบตัวละครต่างๆไม่ว่าจะเป็นการนำมาใช้ในการทำอนิเมชั่นสื่อการเรียนการสอนต่างๆหรือแม้แต่การทำเกมหนึ่งในนั้นก็คือการเอาไปทำศิลปะเรียนศิลปะล้อเลียนจึงมีผลทางการเมืองอย่างมากเพราะไม่สามารถดำเนินคดีได้โดยตรงเพราะว่าไม่ได้หมายถึงใครคนใดคนหนึ่งแต่อย่างที่ทราบกันว่าคาแรคเตอร์เหล่านี้

บ่งบอกไปที่นักการเมืองต่างๆที่ถูกนำมาล้อเลียนในทุกๆวันในหนังสือพิมพ์ณปัจจุบันก็ยังมีการใช้ภาพล้อเลียนเป็นการ์ตูนเล่าเรื่องราวต่างๆผ่านการเขียนของนักเขียนมากมายและนำมาลงในหนังสือพิมพ์ประเภทต่างๆเพื่อนำไปใช้เช่นเดียวกันเพื่อสื่อสารให้คนรอบข้างรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเพื่อให้เข้าใจง่ายอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น 

 

ประวัติ สมบูรณ์สุข นิยมศิริ (เปี๊ยก โปสเตอร์)

ประวัติ สมบูรณ์สุข นิยมศิริ (เปี๊ยก โปสเตอร์)  ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์และละครโทรทัศน์)

 

ประวัติ สมบูรณ์สุข นิยมศิริ (เปี๊ยก โปสเตอร์)

ตำนานนักสร้างภาพยนตร์ของไทยอย่าง นายสมบูรณ์สุข นิยมศิริ หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ “เปี๊ยก โปสเตอร์” เกิดเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2475 พื้นเพเป็นคนจังหวัดเชียงใหม่ และใช้ชีวิตในวัยเด็กอยู่ที่นั่น ต่อมาได้เข้ามาศึกษาต่อในระดับมัธยมที่ โรงเรียนวันราชาธิวาส กรุงเทพ และเรียนต่อระดับปริญญาที่ วิทยาลัยเพาะช่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์

จนสำเร็จการศึกษา หลังจากนั้นก็ได้ใช้วิชาความรู้ที่เรียนมาหาเลี้ยงชีพตัวเองโดยไปเป็นช่างเขียนอยู่ที่ ร้านไพบูลย์การช่าง ในช่วงปี พ.ศ. 2496 รับทำป้ายโฆษณา วาดรูปปกนิตยสาร รวมถึงการเขียนโปสเตอร์หนังให้กับโรงภาพยนตร์

ในสมัยนั้นหากพูดถึงคนที่เป็นผู้บุกเบิกการใช้เทคนิคการเขียนภาพด้วยสีโปสเตอร์ ต่างก็ต้องยกให้ “เปี๊ยก โปสเตอร์” เป็นเบอร์ 1 ของวงการ ผลงานของ “เปี๊ยก โปสเตอร์” ถือเป็นต้นแบบที่มีอิทธิพลต่อนักเขียนรุ่นหลังๆ อีกหลายคน เช่น บรรหาร สิตะพงศ์, ทองดี ภานุมาศ เป็นต้น ในยุคแรกๆ “เปี๊ยก โปสเตอร์” จะเซ็นชื่อในใบปิดทุกเรื่องว่า เปี๊ยก เฉยๆ

แต่ด้วยผลงานที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นที่ยอมรับนับถืออย่างกว้างขวาง จนได้รับฉายา “เปี๊ยก โปสเตอร์” หลังจากนั้นก็จะใช้ชื่อนี้ในการเซ็นในใบปิดแทน

ในปี พ.ศ. 2511 ถือเป็นก้าวสำคัญในชีวิตของ “เปี๊ยก โปสเตอร์” ที่ได้ตัดสินใจทำหนังสือเกี่ยวกับภาพยนตร์ไทยชื่อว่า “ดาราภาพ” ร่วมกับเพื่อนๆ โดยอาศัยประสบการณ์ที่ได้คลุกคลีอยู่ในกองถ่าย อยู่กับผู้กำกับ ดารานักแสดง ต่างๆ หาข้อมูลเพื่อเอามาเขียนคัดเอาท์และใบปิดหนัง ก็นำข้อมูลที่ได้มานั้นมาลงในหนังสือ “ดาราภาพ” ด้วย แถมในหนังสือ “เปี๊ยก โปสเตอร์” ยังได้เขียนคอลัมน์ชื่อ เงาจิตรกร มีเนื้อหาเกี่ยวกับการสอนวาดภาพ

เพื่อให้คนทั่วไปที่สนใจได้ลองศึกษา และฝึกฝน ซึ่งแน่นอนว่าหนังสือเล่มนี้ได้รับเสียงตอบรับและคำชื่นชมเป็นจำนวนมาก มีกลุ่มแฟนๆ ที่คอยให้การสนับสนุน ติดตามผลงานอยู่ไม่น้อย จนในที่สุดแฟนๆ หนังสือและภาพยนตร์มองเห็นในความสามารถ พยายามเรียกร้องให้สร้างภาพยนตร์เองสักเรื่องหนึ่ง มันจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ “เปี๊ยก โปสเตอร์” ได้เดินเข้าสู่เส้นทางการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์

 

 

ขอบคุณผู็ให้การสนับสนุนโดย   วิธีเล่นบาคาร่าให้รวย

ประวัติและผลงานของหลุย ปาสเตอร์ ( Louis Pasteur )

ประวัติและผลงานของหลุย ปาสเตอร์ ( Louis Pasteur )  (คริสต์ศักราช 1822 – 1895) นักเคมีและก็นักจุลชีววิทยาชาวประเทศฝรั่งเศส  เขาถือกำเนิดขึ้นมาเมื่อวันที่ 27 เดือนธันวาคม ปีคริสต์ศักราช 1822 และมีอายุนานจนถึงปี 72 ปีจึงได้เสียชีวิตลง

โดยเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 เดือนกันยายน  ปีคริสต์ศักราช 1895 สำหรับหลุยส์ ปาสเตอร์ นับได้ว่าเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่สามารถช่วยเหลือชีวิตผู้คนได้หลายคนมาก ถือได้ว่ามากที่สุดคนหนึ่งเลยก็วาได้เพราะการคิดค้นของเขาจะเน้นการคิดค้นเกี่ยวกับการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างต่าง รวมถึงโรคพิษสุนัขบ้าและโรคแอนแทรกซ์อีกด้วย

 โดยหลุยส์ ปาสเตอร์  ถือได้ว่าเป็นผู้ครอบครองตำแหน่งเป็นคุณครูในสถานศึกษาหลายที่ เป็นคนที่ศึกษาและทำการค้นพบว่าการบูดเน่าของของกินมีสาเหตุจากสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่เขาเรียกว่าจุลลินทรีย์ ขว้างสเตอร์พบว่าจุลชีพก่อให้เกิดผลกระทบมากไม่น้อยเลยทีเดียวทำให้เขาศึกษาวิจัยเกี่ยวกับจุลอินทรีย์โดยตลอดจนกระทั่งศึกษาและทำการค้นพบกรรมวิธีฆ่าเชื้อโรคจุลชีพได้ด้วยแนวทางพาสเจอร์ไรส์(Pasteurization) การศึกษาและทำการค้นพบนี้ทำให้สาขาวิชาจุลชีววิทยาสะดุดตาล้ำหน้าขึ้นอย่างเร็ว

ถัดมา หลุย ปาสเตอร์ได้ทำการค้นคว้าเกี่ยวกับโรคระบาดที่มีการระบาดในสัตว์ และก็ได้คิดค้นหาวัคซีนคุ้มครองป้องกันโรคที่รุนแรงที่สุดในช่วงเวลานั้นเป็นโรคแอนแทรกซ์ได้เสร็จ และก็ตามด้วยการค้นคว้าวิจัยหาวัคซีนคุ้มครองโรคอหิวาต์ในไก่ แม้กระนั้นการศึกษาค้นพบวัคซีนที่สร้างชื่อให้กับเขาสูงที่สุดเป็นวัคซีนคุ้มครองปกป้องกลัวน้ำซึ่งเป็นโรคที่ทำให้ผู้ตายไปพอเหมาะพอควร แล้วก็จากการเจอวัคซีนนี้ทำให้ศึกษาค้นพบวัคซีนคุ้มครองป้องกันโรคอีกเยอะมาก อย่างเช่น อหิวาต์ วัณโรค

แล้วก็โรคคอตีบ ถือว่าเป็นคุณประโยชน์ต่อแวดวงแพทย์อย่างมากมาย ปีคริสต์ศักราช 1888 ขว้างสเตอร์ได้จัดตั้งสถาบันขว้างสเตอร์ (Pasteur Institute) ขึ้นที่กรุงปารีส แล้วสถาบันขว้างสเตอร์ก็ได้จัดตั้งขึ้นอีกหลายที่ในประเทศต่างๆทั้งโลก รวมทั้งเมืองไทยในชื่อ “สถานที่เสาวภา” เพื่อใช้เป็นสถานที่ทดสอบค้นคว้าเกี่ยวกับวัคซีนคุ้มครองโรคติดต่อจำพวกต่างๆ

ผลงานเด่นเด่นของหลุยส์ ปาสเตอร์ ก็คือ 

– สร้างสรรค์วัคซีนคุ้มครองป้องกันกลัวน้ำ

– ศึกษาค้นพบจุลชีวันเป็นต้นเหตุที่ทำให้มีการเกิดการเน่าเหม็น

– สร้างสรรค์ขั้นตอนการทำพาสพบร์ไรซ์

ซึ่งอาจเปรียบได้เลยว่า หลุยส์ ปาสเตอร์ เป็นบุคคลที่สามารถช่วยชีวิตผู้คนบนโลกนี้ได้เป็นจำนวนมากและถึงแม้เขาจะเสียชีวิตไปแล้วแต่การคิดค้นทางวิทยาศาสตร์ของเขาก็กลายมาเป็นต้นแบบที่มีการผลิตยาเพื่อออกมารักษาโรคอื่นอื่นได้อีกมากเลยทีเดียว จึงถือได้ว่าหลุยส์ ปาสเตอร์ เป็นบุคคลสำคัญของโลกอีกคนหนึ่งที่คนทั้งโลกควรจะรู้จักและควรจารึกคุณงามความดีของท่านเอาไว้

เกมส์คาสิโนออนไลน์ที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่

เกมส์คาสิโนออนไลน์ที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่  สำหรับใครที่กำลังเกิดความสนใจ และกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะลองเล่นเกมส์คาสิโนออนไลน์ดีหรือไม่นั้น เราก็ขอแนะนำว่าอยากจะให้ลองเล่นดูสักครั้งก็ไม่ได้เสียหายอะไรมาก เพราะถ้าไม่ลองดูเราก็จะไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามันเหมาะสมหรือดีอย่างไรในการเล่น เพราะฉะนั้นแล้ววันนี้เราจะมาแนะนำเกมส์คาสิโนออนไลน์ที่น่าสนใจและเหมาะสมกับมือใหม่ที่กำลังสนใจอยากจะเป็นนักเดิมพันมือใหม่อยู่

เกมส์คาสิโนออนไลน์ที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่  ที่เราอยากจะแนะนำวันนี้ประกอบไปด้วย

  1. บาคาร่า

  หนึ่งในเกมส์คาสิโนออนไลน์ที่ผู้คนต่างก็ให้ความนิยมเลือกเล่นกันในลำดับต้นๆก็คือคาบาร่านั่นเอง โดยที่คาบาร่าจะมีรูปแบบหรือลักษณะการเล่นที่คล้ายคลึงกันกับป๊อกเด้งที่เราเคยรู้จักกันนั่นเอง แต่ก็จะมีความแตกต่างกันอยู่บ้างตรงที่เกมส์คาสิโนออนไลน์อย่างบาคาร่านั้นจะให้ผู้เล่นได้ทำการทายระหว่างตัวเจ้ามือและตัวผู้เล่นว่าฝ่ายที่ชนะนั้นจะเป็นใคร โดยบาคาร่าที่พบเห็นส่วนใหญ่ในแต่ละเว็บไซต์นั้นมักจะมีอัตราการเดิมพันขั้นต่ำกันอยู่ที่ 50 บาทไล่ไปจนถึงอัตราที่มากขึ้นเป็น 2500 และในบางครั้งก็อาจจะมีมากขึ้นกว่านี้ด้วย ซึ่งเกมส์คาบาร่าในเว็บคาสิโนออนไลน์นั้นก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเกมส์ที่มีความท้าทายมากพอสมควร ซึ่งก็มีความเหมาะสมเป็นอย่างมากกับใครที่ชอบในการเสี่ยงโชคโดยนอกจากนี้แล้วเกมส์คาบาร่าเองก็ยังมีการแทงในรูปแบบเสมออีกด้วย หลายๆคนที่ได้มาลองทำการเดิมพันในเกมส์คาบาร่าก็มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชอบการเล่น และรูปแบบของเกมส์บาคาร่ากันทั้งนั้น

  1. สล็อต

   สำหรับเกมส์สล็อตในคาสิโนออนไลน์นั้นหลายคนก็ให้คำนิยามว่าเป็นเกมส์ที่สามารถเล่นกันได้ง่าย ยิ่งถ้าเป็นนักเดิมพันที่เป็นมือใหม่กำลังหัดเล่นโดยที่เพิ่งจะได้เริ่มเข้ามาทดลองในการเล่นเกมส์ต่างๆคาสิโนออนไลน์ หรือในหมู่นักเดิมพันที่มีต้นทุนที่ยังน้อยอยู่ รวมไปถึงคนที่มีความรู้ในเรื่องของการพนันน้อยก็สามารถที่จะเข้ามาทำการเดิมพันและลงเล่นกันได้อย่างง่าย และรับรองได้ว่าจะไม่มีทางสับสนในเกมส์อย่างแน่นอน เนื่องจากว่าวิธีการในการเล่นเกมส์สล็อตมีแค่การหยอดเหรียญเพื่อทำการหมุนเพียงเท่านี้ โดยถ้าหากว่าเมื่อหมุนแล้วไปหยุดที่เราได้ลงแทงเอาไว้ตัวเราเองก็จะสามารถที่จะได้เงินรับเงินรางวัลกลับมาอย่างคุ้มเลยก็ว่าได้ ทั้งนี้แล้วเราก็ควรที่จะหาข้อมูลความรู้เบื้องต้นก่อนที่จะลงแทงเอาไว้ก่อนมากๆอย่างในการลงเล่นแต่ละครั้งนั้นก็ไม่ควรที่จะเล่นเพียงแค่ 4 หรือ 5 line แต่ควรที่จะเล่นให้ไปถึง 20 line นั่นก็เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสสู่การที่จะได้มาซึ่งกำไรให้สูงขึ้นนั่นเอง

 

  1. เสือมังกร

    ในบรรดาเกมส์ต่างๆในคาสิโนออนไลน์เกมส์ที่ให้ความรู้สึกว่าเล่นง่ายและเหมาะสมกับนักเดิมพันมือใหม่หลายๆคนนั้นก็คงจะเป็นเกมส์ “เสือมังกร” เพราะเกมส์นี้เป็นเกมส์ที่ค่อนข้างจะสนุกแถมยังได้รู้สึกลุ้น และตื่นเต้นไปกับการเปิดไพ่คนละใบด้วย โดยที่หลักการในเกมส์ก็ไม่ได้มีอะไรมากคือถ้าใครที่มีแต้มอยู่มากกว่าก็จะเป็นฝ่ายที่ชนะไปนั่นเองไม่ซับซ้อนอะไรเลย การเล่นก็คือให้คุณทายผลฝ่ายชนะว่าเป็นใครและเมื่อทายถูกแล้วก็จะได้รับเงินรางวัลที่อาจจะมากถึง 12 เท่ากันเลยก็ว่าได้ ซึ่งเกมส์เสือมังกรนี้เองก็เป็นอีกเกมส์หนึ่งที่เราอยากจะแนะนำมากๆสำหรับใครที่อยากลอง

    เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับเกมส์คาสิโนออนไลน์ ที่เรานำมาเสนอในวันนี้ก็ล้วนแล้วจะเป็นเกมส์ง่ายๆที่เราอยากจะให้ทุกคนที่ลังเลอยู่ได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเพื่อที่จะลองลงเดิมพันกับเกมส์ที่ง่ายๆเหล่านี้ เพราะส่วนใหญ่แล้วกลุ่มของคนที่เซียนในเกมส์ของคาสิโนออนไลน์ส่วนใหญ่ก็มีจุดเริ่มต้นของเส้นทางมาจากเกมส์ต่างๆเหล่านี้เช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าคุณเองก็สามารถที่จะเป็นเช่นนั้นได้เช่นกัน

 

สนับสนุนโดย  สมัคร gclub slot ไม่มีขั้นต่ำ

สัตว์น้ำลึกลับที่เป็นปริศนาที่ยังหาคำตอบไม่ได้

สัตว์น้ำลึกลับที่เป็นปริศนาที่ยังหาคำตอบไม่ได้ ทุกคนอาจจะไม่เคยได้ยินเรื่องราวที่เกี่ยวกับสัตว์ประหลาดที่อยู่ใต้ท้องทะเลที่เหล่านักวิทยาการก็ยังไม่สามารถค้นพบมันได้และก็ยังไม่สามารถเชื่อได้ว่าพวดสัตว์ประหลาดเหล่านี้มันจะมีอยู่จริงจากนั้นก้ได้ทำการสำรวจในที่ต่างๆแต่ก้ไม่พบเห็นอะไรมีแต่เพียงร่องรอยเท่านั้นทำให้เรานั้นได้ค้นหามัน

อสูรกายใต้ทะเลลึก คราเกน (KraKen)

ในอดีคมีเรื่องเหล่าอสูรกายใต้ทะเลลึกจากerik Kudigaen Pontoppiden จากประเทศนอร์เวย์ จากบันทึกได้บอกว่าเจ้าคราเกน เปรียบเหมือนเกาะรอยน้ำขนาดย่อมมันมีความยาวถึงครึ่งไมล์การค้นพบหลังจากนั้นก็มีรายงานขนาดของมันซึ่งก็พบว่ามีขนาดเล็กอย่างต่อเนื่องการเคลื่อนไหวของเจ้าปลาหมึกยักชนิดนี้ซึ่งมันจะพ่นน้ำออกมาเหมือนกับอย่างเครื่องบินเจ๊ทโดยจะใช้น้ำเป็นเชื่อเพลิงและจะเคลื่อนไหวหากินไปเรื่อยๆ

อาหารของพวกปลาหมึกยักก็คือ ปลา ปลาหมึกและที่ขาดไม่ได้นั้นก็คืออาหารจานโปรดอันได้แก่ปลาวาฬสเปิร์มเมื่อมันเห็นปลาวาฬสเปิร์มมันก็จะเข้าจู่โจมทันทีดังนั้นจึงไม่แปลกที่ว่าลักษณะของเรือเดินสมุดก็คล้ายๆกับปลาวาฬสเปิร์มดังนั้นจึงถูกคราเกนเข้าจู่โจมบ่อยครั้งวันที่3พฤษจิกายน คริสตศักราช1878 หรือพุทธศักราช2421 ได้มีการบันทึกถึงของเจ้าปลาหมึกยักที่มีขนาดใหญ่ที่สุด

ซึ่งถูกค้นพบโดยบังเอิญจากชาวประมงสามคนพวกเขาเห็นซากของมันลอยอยู่กลางทะเลจึงจัดการลากซากนี้โดยใช้สมอเรือนั้นแทนเชื่อกและหลังจากการลากทุลักทุเลพวกเขาก็พาซากของมันขึ้นฝั่งจนได้และหลังจากนั้นจากการสำรวจซากพวกเขาก็พบว่ากล้ามเนื้อบางส่วนของเจ้าปลาหมึกยักนี้มีบางส่วนที่มันยังคงเต้นอยู่พวกเขาจึงตั้งใจว่าจะปล่อยมันตายด้วยวิธีการคือปล่อยให้มันนอนตากแดกให้แห้งด้วยความกลัวอันตรายจากมัน

หลังจากนั้นเมื่อพวกเขาแน่ใจแล้วว่ามันตายจึงได้เริ่มมีการวัดขนาดของมันซึ่งมันมีขนาดใหญ่ยาวถึง20ฟุตและมีหนวดยาวถึง35ฟุตโดยในแต่ละหนวดนั้นมีเคียวที่แหลมคมซึ่งขนาดของเคียวแต่ละชิ้นนั้นใหญ่ถึง4นิ้วในปี1966หรือพุทธศักราช2509พนักงานสองคนที่ทำงานอยู่แอฟริกาใต้เหล่าว่าเขาเห็นเจ้าปลาหมึกยักเขาจัดการกับปลาวาฬสเปิร์มโดยใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งซึ่งสุดท้ายแล้วเจ้าปลาหมึกยักก็เป็นฝ่ายชนะความลึกลับของเจ้าปลาหมึกชนิดนี้นั้นทำให้มีการจัดตั้งคณะวิทยาศาสตร์จากกลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากสหรัฐอเมริกา และ นิวซีแลนด์

เพื่อศึกษาเรื่องของเจ้าปลาหมึกยักอย่างจริงจังในเดือนกุมภาพันธ์ปี1999และหลังจากการทำการวิจัยเจ้าปลาหมึกยักเป็นเวลา30วันก็ได้บทสรุปมาว่าพวกมันชอบอาศัยอยู่ในน้ำลึกบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำมากๆและมันชอบไหลไปตามกระแสน้ำ สาเหตุที่ทำให้มันนั้นดุร้ายก็ คือ เมื่อมันไหลไปเจอกับกระแสน้ำอุ่นที่มันจะต้องปรับตัวเองอย่างลวดเร็วและจำเป็นจะต้องลอยอยู่ผิวน้ำเป็นเวลานานทำให้มันนั้นเกิดความเครียดสังเกตได้จากบริเวณที่มีผู่พบเห็นหมึกยักโจมตีมักเป็นบริเวณที่เป็นกระแสน้ำเย็นและกระแสน้ำอุ่นเป็นบริเวณที่หมึกยักนั้นเครียดเพราะมันปรับตัวไม่ทันนั่นเอง

 

ครูกายแก้ว บรมครูผู้เรืองเวทย์

ครูกายแก้ว บรมครูผู้เรืองเวทย์

ครูกายแก้ว บรมครูผู้เรืองเวทย์ ช่วยประทานพรความสำเร็จให้แก่ผู้ที่แสวงหาความร่ำรวยเป็นอีหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังเป็นที่โด่งดังได้รับความนิยมกราบไหว้บูชาจากชาวฮ่องกงจนถูกเปรียบว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยนอกจากนั้นยังได้รับแรงศรัทธาจากชาวไทยจึงได้จัดสร้างองค์จำลองเพื่อถือครองกันอย่างแพร่หลายในขณะนี้ตามคำบอกเล่าของท่านอาจารย์สุชาติ รัตนสุข

ผู้จัดสร้างองค์ประถมองค์แรกของ ครูกายแก้ว ในประเทศไทยแต่เดิมครูกายแก้วนั้นมากับท่านอาจารย์คนหนึ่งเป็นนักร้องเพลงไทยเดิมของกองดุริยางค์ทหารบกสมัยก่อนที่ได้ครูกายแก้วมาจากพระธุดงค์รูปหนึ่งในจังหวัดลำปางที่ได้เดินธุดงค์ไปทำสมาธิณะปราสาทนครวัดประเทศกัมพูชาและนำครูกายแก้วกลับมาด้วยท่านอาจารย์ถวิลก็ได้มอบครูกายแก้วส่งต่อให้กับอาจารย์สุชาติมาครั้งแรกที่ได้มานั้นองค์ครูกายแก้วไม่ได้เป็นอย่างรูปที่เคารพที่เห็นในปัจจุบัน

แต่จะเป็นองค์นั้งขนาดเล็กหน้าตักกว้างประมาณ2นิ้วต่อมาท่านอาจารย์สุชาติก็ได้เริ่มจัดสร้างองค์ครูกายแก้วขึ้นมาเพื่อเป็นการบูชาครูขึ้นมาโดยอาศัยจินตนาการจากภาพจำที่เคยได้เห็นครูกายแก้วมาประกดกายอยู่ต่อหน้าโดนลักษณะกึ่งมนุษย์กึ่งลิงมีปีกอยู่ด้านหลังสูงจากพื้นประมาณ120เซนติเมตรมีเขี้ยวและเล็บคล้ายกับนกลำตัวตั้งตรงใบหน้าเป็นคนร่างกายสีดำมีดวงตาปนแดงใบหูใหญ่คล้ายค้างคาวเป็นรูปลักษณ์ที่เห็นในปัจจุบัน 

ซึ่งตามกำแพงของนครวัดในบริเวณบายนจะมีประวัติของครุฑคนผู้มีลักษณะกึ่งมนุษณ์กึ่งนกอยู่หรือที่คนไทยรู้จักกันดีว่านกการเวกซึ่งรูปร่างเป็นแบบเดียวกันกับครูกายแก้วนั้นก็คือเป็นครูบาอาจารย์ในด้านศาสตร์ศิลป์เมื่อครั้งโบราณใน สมัยยุคพระเจ้ชัยวรมันที่7ซึ่งโดยอาจารย์สุชาติได้คาดการณ์อายุของครูกายแก้วเอาไว้ว่าไม่หน่าจะต่ำกว่า2000 3000ปีเนื่องจากเชื่อว่าครูกายแก้วนั้นเป็นบรมครูผู้เข้งภาวนาจึงไม่ตายไปจากจิต

และกายร่างใช้ชีวิตอมตะดังอ้างอิงได้จากนิทานต่างๆเช่น การกายร่างเป็นเสือสมิง หรือการแปรงกายของชาลาวันเพื่อให้เห็นถึงอนุภาพของ คาถาอาคม ในสมัยก่อนดังนั้นความขังของพลังของครูกายแก้วจึงได้แก่กล้ามากและจึงเป็นที่เคารพกราบไหว้ของผู้คนจำนวนมากมายที่จะต้องพบเจอกับความสำเร็จในชีวิตการขอพรขององค์ครูกายแก้วนั้นจะต้องทำการบูชาครูด้วยธูป5ดอกพร้อมผลไม้หรือขนมหวานจากนั้นก็ทำการทวายเงินและกล่าวคำทวายความปรารถนาต่อครูกายแก้วผู้ที่จะประสิทธิ์ปราสาทพรให้แก่ผู้ที่มาบูชา

 

ขอบคุณสำหรับผู้ให้การสนับสนุนโดย  Gclub ฝากขั้นต่ำ50