Category: ประวัติและตำนาน

รวบรวมคอลเล็กชันงานศิลปะสมัยศตวรรษที่ 20

งานศิลปะสมัยศตวรรษที่ 20 พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่แห่งใหม่ของเบอร์ลินจะเปิดให้บริการในปี 2019 พิพิธภัณฑ์ Museum der Modern ในกรุงเบอร์ลินจะเปิดให้บริการช้ากว่าที่วางแผนไว้ คู่รักชาวสวิส Herzog & de Meuron กำลังออกแบบพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่นี้ ซึ่งจะรวบรวมคอลเล็กชันงานศิลปะสมัยศตวรรษที่ 20 จำนวนมาก

ในขั้นต้นมีกำหนดจะแล้วเสร็จในปี 2564 แต่ตอนนี้การเริ่มล่าช้าในปี 2562 จะทำให้วันที่แล้วเสร็จกลับมาอีกครั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ค่าก่อสร้างโดยประมาณที่ 200 ล้านยูโร (228 ล้านเหรียญสหรัฐ) อาจเพิ่มขึ้นอีกเนื่องจากราคาที่สูงขึ้นในเมือง

Art Spiegelman คว้าเหรียญรางวัล Edward MacDowell ผู้สร้าง Maus มหากาพย์แห่งพูลิตเซอร์ เป็นนักประพันธ์กราฟิคคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ ซึ่งตั้งแต่ปี 1960 ได้รู้จักบุคคลที่มีส่วนสนับสนุนวัฒนธรรมอเมริกันอย่างเกินขนาด และเขาหวังว่าเขาจะได้รับการยอมรับใน New แฮมป์เชียร์ในวันอาทิตย์จะทำให้นักเขียนการ์ตูนได้รับการยอมรับมากขึ้น ผู้ได้รับรางวัลก่อนหน้านี้ ได้แก่ ชัค โจนส์ อนิเมเตอร์แอนิเมชั่น Georgia O’Keeffe และ Looney Tunes ผู้ซึ่งได้รับรางวัลด้านศิลปะการ์ตูนเช่นกัน 

Bloomberg บริจาคเงิน 43 ล้านเหรียญให้กับศิลปะ องค์กรศิลปะขนาดเล็กและขนาดกลางสี่สิบห้าแห่งในแอตแลนตา รวมถึงพิพิธภัณฑ์ Apex, พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยแห่งจอร์เจีย และ Flux Projects จะได้รับการฝึกอบรมพิเศษด้านการจัดการศิลปะ การระดมทุน และกลยุทธ์ การวางแผนจากมูลนิธิ Bloomberg Philanthropies ผ่านโครงการมูลค่า 43 ล้านดอลลาร์ องค์กรทางวัฒนธรรมมากกว่า 200 แห่งในแอตแลนตา ออสติน บัลติมอร์ เดนเวอร์ นิวออร์ลีนส์ พิตต์สเบิร์ก และดีซี จะได้รับเชิญให้เข้าร่วมในโครงการนี้ 

DOGUMENTA มุ่งหน้าสู่แอลเอ หลังจากประสบความสำเร็จในการแสดงศิลปะสำหรับสุนัขในนิวยอร์กเมื่อปีที่แล้ว สุนัขล่าเนื้อในลอสแองเจลิสได้รับเชิญให้เข้าร่วมงาน FIGat7th ในดาวน์ทาวน์แอลเอในช่วงสองสุดสัปดาห์ในเดือนกันยายน สำหรับการแสดงที่ดูแลโดยนักวิจารณ์ศิลปะ เจสสิก้า ดอว์สัน สุนัขของเธอ ร็อคกี้ และที่ปรึกษาไมก้า สแกนลิน ศิลปินท้องถิ่นรวมถึงมีนา คาลิลี และโจชัว เลวีน จะทำงานเกี่ยวกับข้อกังวล ความสนใจ และโลกทัศน์ของสุนัข 

เพื่องานศิลปะ พบกับภัณฑารักษ์ที่อยู่เบื้องหลังบูมศิลปะสาธารณะของบัฟฟาโล ภัณฑารักษ์คนแรกของหอศิลป์ Albright-Knox, Aaron Ott กล่าวว่าเขามุ่งมั่นที่จะทำให้แน่ใจว่าศิลปะสาธารณะของบัฟฟาโลจะไม่ล่มสลายไม่ได้พยายามที่จะก้าวไปข้างหน้ามากเกินไปก่อนที่จะทำโครงการใหญ่ ความพยายามล่าสุดที่ทะเยอทะยานรวมถึงป้ายโฆษณาและป้ายต่างๆ ของ Stephen Powers ทั่ว Erie County Ott กำลังคิดถึง 100พาวเวอร์สพูดว่าฉันชอบ 101 

ศูนย์วัฒนธรรมปาเลสไตน์ถูกทำลาย ศูนย์วัฒนธรรม Al-Meshal ในฉนวนกาซา ซึ่งรวมถึงห้องสมุด ศูนย์ชุมชน และโรงละครศิลปะ ถูกทำลายโดยกองทัพอิสราเอล กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอลอ้างว่าพวกเขาตั้งเป้าไปที่อาคาร 5 ชั้น โดยเชื่อว่าอาคารนี้เป็นกองบัญชาการของกลุ่มฮามาส องค์กรได้ตอบกลับตั้งแต่นั้นมาโดยบอกว่าสำนักงานใหญ่ที่แท้จริงของพวกเขาตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน  ทวีตเกี่ยวกับศิลปะสองทวีตกลายเป็นไวรัลในสุดสัปดาห์นี้

ทวีตเกี่ยวกับศิลปะหนึ่งรายการและทวีตต่อต้านศิลปะหนึ่งรายการกลายเป็นไวรัลในช่วงสุดสัปดาห์ ในด้านบวก ผู้คนกว่า 13,000 คนได้รับความสุขจากการที่คุณแม่มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สมิธโซเนียน ซึ่งในระหว่างนั้นเธอได้เลียนแบบท่าโพสในงานศิลปะ ในทางกลับกัน ผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสชาวคาทอลิกที่อธิบายตนเองซึ่งกล่าวว่า “ถ้าคุณพยายามขจัดพระเจ้าออกจากงานศิลปะ คุณก็จะเหลือความอัปลักษณ์คล้ายกับบาป” โพสต์ภาพงานศิลปะที่ Moderna Museet ในสตอกโฮล์ม โดยเรียกศิลปะสมัยใหม่ว่าใหญ่ที่สุด ตลกถ้าเคยเห็นน่าเสียดายที่คนมากกว่า 29,000 คนเห็นด้วยกับเธอ

 

สนับสนุนโดย.  สล็อตยูฟ่าเว็บตรง

ข่าวอุตสาหกรรมศิลปะ ภาพถ่าย

ข่าวอุตสาหกรรมศิลปะ  Vogue ของ Annie Leibovitz ของ Zelensky จุดประกายการเรียกร้องให้พรรครีพับลิกันยุติความช่วยเหลือยูเครนเรื่องอื่น ๆ นอกจากนี้ แกลเลอรีในนิวยอร์กที่เร่งรีบไปยังLAและพิพิธภัณฑ์สงครามในโปแลนด์ยังถูกคู่รักขี้โมโหรุมเร้า Art Industry News เป็นข้อมูลสรุปรายวันของการพัฒนาที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากโลกศิลปะและตลาดศิลปะ นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้

การไหลเข้าของแกลเลอรีในนิวยอร์กส่งผลต่อฉากในLA อย่างไร แกลเลอรี Eleven New York ได้เปิดขึ้นในLA หรือกำลังจะปิดตัวลงในเร็วๆ นี้ แกลเลอรี Sean Kelly, Marian Goodman Gallery และ Lisson Gallery ร่วมกับ Hole ซึ่งเปิดพื้นที่ขนาดใหญ่ในเดือนเมษายน ดีลเลอร์กล่าวว่าสิ่งที่ดึงดูดใจคือชุมชนศิลปิน

การขยายพื้นที่พิพิธภัณฑ์ และการเข้าถึงนักสะสมในLA หากคุณเป็นศิลปินและกำลังพยายามเข้าถึงโลกทั้งใบด้วยงานศิลปะของคุณ หากไม่ปรากฏให้เห็นในแอลเอ มันจะไม่เกิดขึ้น Marc Glimcher ซีอีโอของ Pace กล่าว (LA TIME)

เดินหน้าตามโครงการศิลปะชายผิวขาวตรงความคิดริเริ่มทั่วประเทศเพื่อให้ทุนแก่งานศิลปะสาธารณะที่สะท้อนถึงคำว่า ชายผิวขาวตรง ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากโปสเตอร์โดยศิลปินนาดินาอาลีซึ่งกล่าวว่า Hey Straight White Men, Pass พลัง Neil O’Brien ส.ส.สายอนุรักษ์นิยมใช้โซเชียลมีเดียเพื่อประณามงานนี้ ฉันเบื่อที่จะจ่ายภาษีสำหรับอึที่แตกแยกและเหยียดเชื้อชาตินี้ หัวหน้ากลุ่ม Artichoke ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังการแสดง ได้ตอบกลับ งานศิลปะของ Nadina Ali… ถามผู้มีอำนาจโดยตรงเพียงแค่แบ่งปัน เป็นเรื่องน่าขันที่มีผู้มีอำนาจสอบสวนคำขอนั้น

สมาคมพิพิธภัณฑ์เรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษลงทุนท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ สมาคมพิพิธภัณฑ์ขอให้รัฐบาลสหราชอาณาจักรมอบ การชำระหนี้ใหม่ให้กับคนงานพิพิธภัณฑ์ ซึ่งสามารถเทียบได้กับอัตราเงินเฟ้อที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในแถลงการณ์ สมาคมกล่าวว่าค่าครองชีพที่สูงขึ้นทำให้เกิด ปัญหาร้ายแรงและกรรมการและหน่วยงานด้านเงินทุนจะต้องหาวิธีที่จะให้ข้อเสนอค่าจ้างจำนวนมาก แรงงานพิพิธภัณฑ์ในปีงบประมาณนี้

Annie Leibovitz Photoshoot ของ Zelensky วาดไฟเรื่องราวปกดิจิทัลพิเศษ ของ Vogue ที่มีรูปถ่ายของประธานาธิบดียูเครนและภรรยาของเขาโดยช่างภาพชื่อดัง Annie Leibovitz กำลังวิจารณ์จากทุกด้าน “แนวคิดเรื่องเขตความขัดแย้งเป็นฉากหลัง เป็นสิ่งที่เลวทราม ศิลปินอดัม บรอมเบิร์ก เขียนในโพสต์อินสตาแกรมแบบไวรัลและกระแทกรูปภาพ

ในขณะเดียวกันภาพของ Leibovitz ได้กลายเป็นอาหารสัตว์สำหรับการอภิปรายทางการเมืองโดยตัวแทนพรรครีพับลิกันของรัฐเท็กซัส Mayra Flores ทวีตว่า Biden ให้เราส่งเงินช่วยเหลือต่างประเทศหลายพันล้านดอลลาร์ไปยังยูเครนต่อไป พวกเขาต้องการมัน ความจริง ครอบครัว Zelensky ทำให้เราได้ถ่ายรูปขึ้นปกนิตยสาร Vogue

มูฟเวอร์ & เชคเกอร์ ผู้คนจำนวนมากกำลังมีเซ็กส์กันที่พิพิธภัณฑ์สงครามโปแลนด์แห่งนี้ ป้อมเกอร์ฮาร์ด อดีตป้อมปราการปรัสเซียในสมัยศตวรรษที่ 19 ในสวีโนจซี ซึ่งอยู่ใกล้กับชายแดนเยอรมนีทางตอนเหนือ เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับคู่รัก ระบบกล้องวงจรปิดคุณภาพ พิพิธภัณฑ์ได้เผยแพร่แถลงการณ์โดยระบุว่าคู่รักหลายคู่ถูกจับได้ว่ากำลังถ่ายทำช่วงซัมเมอร์นี้ทางกล้อง เป็นคำเตือนผู้คนว่าถึงแม้จะมีมุมมืดมากมาย แต่พวกเขากำลังถูกถ่ายทำและกำลังวิงวอนให้คู่รักย้ายไปอยู่ที่อื่น

 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet เว็บหลัก

ประวัติวัดโลกโมฬี จังหวัดเชียงใหม่ 

         สำหรับในบทความนี้เราจะมาพูดถึงประวัติความเป็นมาของวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งประจำจังหวัดเชียงใหม่  ประวัติวัดโลกโมฬี    ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังเกี่ยวกับเรื่องของความสวยงามและเป็นวัดที่มีอายุเก่าแก่ตั้งแต่สมัยล้านนา   ทุกครั้งที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่จะต้องไม่พลาดไปเยี่ยมชมความงดงามของวัดแห่งนี้กัน ซึ่งวัดที่เรากำลังพูดถึงก็คือวัดโลกโมฬี นั่นเอง 

สำหรับประวัติความเป็นมาของวัดโลกโมฬีแห่งนี้นั้นว่ากันว่าถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ยุคสมัย ปี พ.ศ. 2071 

  ซึ่งตรงกับสมัยการปกครองของพระเมืองเกศเกล้า   เบอร์วัดโลกโมฬีแห่งนี้นั้นมีพื้นที่กว้างใหญ่ภายในวัดนั้นร่มรื่นไปด้วยต้นไม้เป็นจำนวนมากนอกจากนี้ยังมีสิ่งก่อสร้างงดงามเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดซึ่งสิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่ภายในวัดแห่งนี้นั้นจะสร้างมาจากไม้เป็นหลักและมีการแกะสลักลวดลายเอาไว้อย่างสวยงามเลยทีเดียว  

         เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปยังภายในวัดโลกโมฬีแห่งนี้จะเห็นวิหารและเจดีย์ขนาดใหญ่ซึ่งตามประวัติมีการระบุว่าเจดีย์ทรงปราสาทแห่งนี้นั้นได้มีการสร้างเอาไว้มามากกว่า 500 ปีแล้วโดยระบุว่ามีการสร้างขึ้นมาตั้งแต่ช่วงสมัยปลายพุทธศตวรรษที่ 21 เลยทีเดียว และถึงแม้ว่าเจดีย์ทรงปราสาทแห่งนี้จะมีอายุเก่าแก่มาก

แต่ก็ไม่ได้ทรุดโทรมไปตามกาลเวลาเนื่องจากได้รับการบูรณะและพัฒนาอยู่เรื่อยๆจนทำให้ยังคงเห็นสภาพเดิมตั้งแต่สมัยยังคงสร้างมาจนถึงปัจจุบันนี้ในรูปแบบที่ยังคงวิจิตรบรรจงงดงามเหมือนเดิม 

            นอกจากภายในวัดจะมีเจดีย์ทรงปราสาทที่มีความเก่าแก่อายุกว่า 500 ปีแล้วยังมีพระวิหารไม้ซึ่งถือได้ว่าเป็นพระวิหารไม้เก่าแก่ที่มีความงดงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย

โดยบริเวณตัวพระวิหารนั้นจะมีการแกะสลักลวดลายเอาไว้อย่างสวยงามซึ่งลวดลายนั้นจะมีความวิจิตรบรรจงเนื่องจากว่าเป็นลายโบราณสไตล์ล้านนา   

          อย่างไรก็ตามถ้าหากว่าใครเคยเดินทางไปที่วัดโลกโมฬีแห่งนี้จะเห็นได้ว่าความสวยงามนั้นเริ่มตั้งแต่ประตูทางเข้าของวัดเลยทีเดียวเพราะตั้งแต่บริเวณประตูทางเข้านั้นก็ยังมีการสร้างเอาไว้แบบวิจิตรบรรจงมีลักษณะการสร้างแบบโค้งมนโดยการนำ อิฐมาใช้ในการก่อสร้าง

ซึ่งทางช่างได้มีการออกแบบให้ประตูทางเข้าวัดนั้นมีความตรงกับพระวิหารไม้ซึ่งเมื่อนักท่องเที่ยวเดินมาตรงบริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าก็จะเจอกับวิหารไม้โบราณที่มีความงดงามทันที 

           นอกจากนี้ภายในพระวิหารไม้นั้นยังมีพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์เยอะแยะมากมายซึ่งแต่ละองค์นั้นก็มีความเก่าแก่และมีความโบราณเป็นอย่างมาก  สำหรับใครที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องของประวัติวัดเก่าแก่โบราณอีกหนึ่งวัดที่แนะนำอยากจะให้ไปเยี่ยมชมก็คือวัดโลกโมฬีจังหวัดเชียงใหม่นั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.    ufabet เว็บหลัก

วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 

       วัดไชยวัฒนาราม  เชื่อว่าหากพูดถึงวัดไชยวัฒนารามแล้วหลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดีและยังรู้ด้วยว่าและรู้ด้วยว่าวัดนี้นั้นอยู่ในจังหวัดอะไรเนื่องจากว่าเป็นวัดเก่าแก่ที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย 

วัดแห่งนี้เป็นรากฐานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ปัจจุบันนั้นยังสามารถบ่งบอกให้เราเห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของวัดไทยในสมัยอดีตได้เป็นอย่างดี  

       สำหรับประวัติความเป็นมาของวัดไชยวัฒนารามแห่งนี้นั้นว่ากันว่ามีการสร้างขึ้นมาหลายร้อยปีแล้วด้วยปีที่มีการสร้างนั้นสร้างขึ้นในช่วงสมัยปีพ.ศ 2173 สำหรับสถาปัตยกรรมในการก่อสร้างนั้นถ้าหากดูจากวัดวาอารามในสมัยกรุงศรีอยุธยาวัดอื่นๆจะเห็นได้ว่าวัดไชยวัฒนารามนั้นมีการสร้างที่ผิดแปลกแตกต่างจากวัดอื่นๆมากนั่นเองและผู้ที่ให้มีการก่อสร้างวัดไชยวัฒนารามแห่งนี้ว่ากันว่าเป็นการก่อสร้างเพื่ออุทิศราชกุศลให้กับพระมารดาของพระองค์ซึ่งก็คือสมเด็จพระเจ้าปราสาททองนั่นเอง 

       ความสวยงามและความโดดเด่นของศิลปะการก่อสร้างของวัดไชยวัฒนารามนั้นว่ากันว่าวัดแห่งนี้มีลักษณะรูปแบบของการก่อสร้างคล้ายกับมีการจำลองความสวยงามมาจากปราสาทนครวัดซึ่งเป็นศิลปะการก่อสร้างลักษณะของขอมว่ากันว่าวัดไชยวัฒนารามนั้นได้รับอิทธิพลมาจากการก่อสร้างของเมืองขอมนั่นเอง

โดยสิ่งที่เราเห็นได้ว่าได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะขอมก็เพราะว่าที่วัดแห่งนี้นั้นจะมีการสร้างพระปรางค์ซึ่งมีมากมายหลายพระปรางค์เลยทีเดียวแต่พระปรางค์หลักๆที่เป็นพระประธานนั้นจะเป็นพระปรางค์ขนาดใหญ่

         นอกจากนี้ยังมีการสร้างพระประธานขนาดเล็กล้อมรอบอาคารขนาดใหญ่เอาไว้จะเห็นได้จากบริเวณมุมต่างๆซึ่งปัจจุบันพระบางเหล่านี้ยังคงความสมบูรณ์เอาไว้ทำให้เราได้เห็นเรื่องของลักษณะของศิลปะการก่อสร้างโดยพระปรางค์องค์แรกที่มีการสร้างเอาไว้นั้นจะมีถึง 4 องค์ซึ่งก็สร้างเอาไว้ 4 มุมนั่นเองส่วนพระประธานนั้นถูกสร้างเอาไว้อยู่บริเวณตรงกลาง 

          สำหรับวัดแห่งนี้ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายนั้นใช้เป็นสถานที่สำหรับบำเพ็ญพระราชกุศลข  องพระมหากษัตริย์เนื่องจากว่าเป็นวัดหลวงดังนั้นพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ที่มีชีวิตอยู่ในช่วงปลายกรุงศรีอยุธยาจึงมักจะทำพิธีกรรมต่างๆที่วัดไชยวัฒนารามแห่งนี้นั่นเองอย่างเช่นการพระราชทานเพลิงศพหรือแม้แต่การปฏิสังขรณ์สืบทอดพระราชบัญดังของแต่ละรัชกาล

      ตามหลักฐานโบราณทางประวัติศาสตร์มีการระบุเอาไว้ว่าวัดไชยวัฒนารามแห่งนี้ยังเป็นที่ถวายพระเพลิงของสมเด็จพระเจ้าบรมโกศหลังจากที่พระองค์นั้นได้ทรงสิ้นพระชนม์อีกด้วยนอกจากนี้พระบรมศานุวงศ์ทั้งหลายในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายก็ถูกถวายพระเพลิงที่วัดแห่งนี้ด้วยเช่นเดียวกัน 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet เว็บตรง

วัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่ 

     วัดสวนดอก  เชื่อว่าหลายคนที่เคยเดินทางไปเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่และอาจเคยไปเที่ยวบนถนนสุเทพย่อมรู้จักสถานที่แห่งนี้กันเป็นอย่างดีเพราะสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่โดยสถานที่ดังกล่าวที่เรากำลังจะพูดถึงอยู่ในตอนนี้ก็คือวัดสวนดอกหรืออีกชื่อหนึ่งที่ชาวบ้านมักเรียกขานกันก็คือวัดบุปผารามนั้นเอง

        สำหรับประวัติความเป็นมาของวัดสวนดอกหรือวัดบุปผารามนั้นว่ากันว่าเริ่มแรกเดิมทีณสถานที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นวัดแต่ที่นี่เป็นสวนดอกไม้ซึ่งทางด้านเจ้านายในสมัยราชวงศ์มังรายซึ่งเป็นเจ้านายฝ่ายเหนือได้มีการสร้างเป็นสวนดอกไม้เอาไว้เพื่อเอาไว้ชมสวนเพื่อความเพลิดเพลินจำเริญจำเริญใจอย่างไรก็ตามเมื่อถึงสมัยของกษัตริย์องค์ที่ 6 ของราชวงศ์เม็ง

รายนั่นก็คือพระเจ้ากือนา  พระองค์ได้มีการสั่งให้มีการเปลี่ยนจากสวนดอกไม้แห่งนี้แล้วสร้างเป็นวัดขึ้นมาโดยถูกสร้างเป็นวัดในช่วงประมาณ ปีพ.ศ. 1914 ให้สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ให้พระมหาเถระสมบูรณ์ใช้เป็นที่จำพรรษาโดยระบุว่าวัดแห่งนี้นั้นจะเป็นวัดพระอารามหลวง 

          สำหรับวัดสวนดอกแห่งนี้นั้นเป็นวัดที่มีสิ่งปลูกสร้างมากมายที่มีความเก่าแก่เรียกว่าสถานที่แห่งนี้นั้นเป็นปูชนียวัตถุและปูชนียสถานสถานที่สวยงามและเก่าแก่มากอันดับต้นๆของจังหวัดเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ที่นี่มีทั้งพระมหาเจดีย์ใหญ่ทรงลังการวมถึงพระพุทธรูปหล่อองค์ใหญ่นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปพระเจ้าเก้าตื้อซึ่งสร้างด้วยโลหะหนัก 9 โกรธตำลึงอีกด้วย 

          สิ่งสำคัญที่สุดของวัดสวนดอกแห่งนี้นั่นก็คือที่นี่เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุซึ่งถูกนำมาเก็บไว้ในองค์พระเจดีย์ขนาดใหญ่ซึ่งวัดสวนดอกแห่งนี้ในทุกๆปีชาวบ้านมักจะมารวมตัวกันเพื่อจัดงานบุญต่างๆโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเพณีทำบุญสลากภัตซึ่งถือว่าเป็นประเพณีประจำปีที่ทุกคนนั้นจะต้องมาร่วมทำบุญร่วมกันเป็นงานบุญประจำปี

        โดยจะมีการจัดขึ้นวันขึ้น 8 ค่ำเดือน 11 หรือชาวจังหวัดเชียงใหม่เรียกว่าเดือนเกี่ยวเหนือนั่นเอง  นอกจากนี้ยังมีการจัดงานเทศกาลประเพณีต่างๆอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นงานออกพรรษาหรือประเพณีเข้าพรรษาหรือฟังเทศน์มหาชาติรวมถึงประเพณีตั้งธรรมหลวงนอกจากนี้ในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ของทุกๆปีชาวบ้านมาจะรวมตัวกันมาทำบุญประเพณีสรงน้ำพระบรมธาตุอีกด้วย 

          สำหรับลักษณะการออกแบบพระเจดีย์หรือแม้แต่วิหารต่างๆนั้นจะมีศิลปะแบบล้านนาโดยเฉพาะซึ่งมีความสวยงามและมีความเก่าแก่ประณีตเป็นอย่างมากเลยทีเดียว  

       สำหรับใครที่ชื่นชอบปูชนียสถานที่มีความเก่าแก่และมีความสวยงามอยากจะศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของวัดวาอารามต่างๆแนะนำว่าที่วัดบุปผารามแห่งนี้คุณจะได้รับความรู้และประโยชน์มากมายเลยทีเดียวสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ตั้งแต่ 09:00 น ถึง 21:00 น ของทุกวัน 

 

สนับสนุนโดย.      ufabet เว็บแม่

พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ  วัดเขาทำเทียม   จังหวัดสุพรรณบุรี 

           พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ    สำหรับในบทความนี้เราจะพาไปรู้จักประวัติความเป็นมาของวัดแห่งหนึ่งซึ่งถือได้ว่าเป็นวัดที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรีเลยก็ว่าได้โดยวัดแห่งนี้นั้นเชื่อว่าเมื่อมีการพูดถึงชื่อวัดร้างทุกคนต้องรู้จักกันเป็นอย่างดีเนื่องจากไฮไลท์ของวัดแห่งนี้ที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้วัดแห่งนี้

ให้กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปได้นั่นก็คือพระพุทธรูปหลวงพ่ออู่ทองหรือที่เรารู้จักกันดีในนามของพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ ซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและถือว่าเป็นสุดยอดความยิ่งใหญ่ของพระพุทธรูปเลยก็ว่าได้ 

         สำหรับวัดที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่นี้ก็คือวัดเขาทำเทียมซึ่งวัดแห่งนี้นั้นเป็นสถานที่ที่มีการสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่นั่นก็คือพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือที่ชาวบ้านมักเรียกกันติดปากว่าหลวงพ่ออู่ทองนั่นเองซึ่งพระพุทธรูปแห่งนี้นั้นมีความสูงกว่า 180 เมตรในขณะที่ฐานของพระพุทธรูปนั้นมีความกว้างถึง 88 เมตรด้วยกัน

และถ้าหากว่าไปวัดบริเวณด้านหน้าตักของพระพุทธรูปก็จะเห็นได้ว่าพระพุทธรูปองค์นี้นั้นมีกี่หน้าตักกว้างถึง 65 เมตรเลยทีเดียวที่สำคัญขนาดพื้นที่ของวัดแห่งนี้นั้นมีขนาดพื้นที่ประมาณถึง 100 ไร่และที่เป็นไฮไลท์หรือเป็นจุดเด่นที่ทำให้คนมีการพูดถึงวัดเขาทำเทียมกันมากนั่นก็คือพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ ที่มีการสร้างเอาไว้ตรงบริเวณหน้าผาด้วยหน้าผาดังกล่าวนั้นมีการตั้งชื่อว่าผามังกรบิน 

            อย่างไรก็ตามประวัติความเป็นมาระบุว่าวัดเขาทำเทียมแห่งนี้แต่เดิมไม่ได้เป็นวัดมาก่อนซึ่งที่นี่นั้นเคยเป็นเหมืองหินเก่ามาก่อนมีการสัมปทานเหมืองหินซึ่งทางจังหวัดนั้นได้มีการอนุญาตให้มีการทำเหมืองหินตรงบริเวณดังกล่าวอย่างไรก็ตามเมื่อหมดสัมปทานแล้วพื้นที่นี้ก็ได้มีกรมป่าไม้เข้ามาดูแลรับผิดชอบหลังจากนั้นจึงได้มีการสร้างวัดเขาทำเทียมขึ้นมา

            อย่างไรก็ตามเนื่องจากจังหวัดสุพรรณบุรีนั้นได้ชื่อว่าเป็นเมืองอู่ทองอยู่แล้วดังนั้นบริเวณที่สร้างวัดเขาทำเทียมจึงต้องการที่จะให้มีการระลึกถึงเกี่ยวกับเมืองอู่ทองเป็นหลักจึงได้มีการนำข้อมูลเกี่ยวกับประวัติทางโบราณคดีในยุคของพระเจ้าอโศกมหาราชที่ได้มีการสนใจเกี่ยวกับเรื่องของพระพุทธศาสนามาสร้างเป็นวัดแห่งนี้ซึ่งจะเห็นได้ว่าภายในวัดนอกจากจะมีพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ ยังมีธรรมจักรเป็นยอดเขาอโศกรวมถึงยังมีสิ่งก่อสร้างเยอะแยะมากมายที่น่าสนใจซึ่งสิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่นั้นจะเป็นสิ่งก่อสร้างทางโบราณคดีเกี่ยวกับเรื่องของพระพุทธศาสนาเป็นหลักนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย.  ufabet auto

ประวัตินักแต่งเพลงคนแรกของโลก 

     นักแต่งเพลงคนแรก   หากมีการพูดถึงเรื่องของเสียงเพลงเชื่อว่าคนแต่ละคนนั้นมีความชื่นชอบเพลงที่แตกต่างกันออกไปบางคนชอบเพลงแนวคลาสสิคบางคนชอบเพลงแนวร็อคหรือแนวอัลเทอร์เนทีฟนอกจากนี้ปัจจุบันยังมีแนวเพลงต่างๆเกิดขึ้นมาใหม่มากมายหลายแนว 

อย่างไรก็ตามเราจะไม่สามารถตีเพลงฟังได้เลยถ้าเราขาดนักแต่งเพลงซึ่งในปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทยหรือต่างประเทศก็ตามจะมีนักแต่งเพลงขึ้นมามากมายเต็มไปหมดในแต่ละปีนั้นจะมีนักแต่งเพลงหน้าใหม่ๆและมีการรังสรรค์ผลงานออกมาให้พวกเราได้ฟังเพลงกัน   

        หากใครที่ชื่นชอบผลงานของศิลปินด้านไหนเป็นพิเศษก็อาจจะหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของนักแต่งเพลงว่าใครเป็นคนแต่งเพลงนี้  แต่คุณรู้หรือไม่ว่านักแต่งเพลงคนแรกของโลกนั้นคือใครและใครเป็นคนแรกที่รังสรรค์ผลงานเพลงขึ้นมาให้ในปัจจุบันนี้เราได้มีเพลงฟังกันซึ่งในบทความนี้จะมีการพูดถึงประวัติของนักแต่งเพลงคนแรกให้เราได้ทราบข้อมูลอย่างละเอียดกัน 

        สำหรับนักแต่งเพลงคนแรกของโลกนั้นเขามีชื่อว่า  Hildegrad von Bingen  ซึ่งเชื่อได้เลยว่าหลายคนคงไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของเขามาก่อนเพราะคนรุ่นหลังใหม่ๆหรืออาจจะคนส่วนใหญ่นั้นมักจะคิดว่านักแต่งเพลงในยุคแรกๆนั้นน่าจะเป็นบีโธเฟนหรือไม่ก็ Mozart นั่นเองซึ่งเป็นข้อมูลที่ทุกคนนั้นเข้าใจผิดและเข้าใจคลาดเคลื่อนเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

เพราะคนที่แต่งเพลงคนแรกนั้นไม่ใช่บุคคลในตำนานทั้งสองคนนี้แต่เป็นบุคคลที่อาจจะไม่มีใครนึกถึงได้ว่าเขาจะกลายมาเป็นนักแต่งเพลงคนแรกของโลก

        สำหรับ Hildegrad von Bingen  หนังเป็นชื่อของแม่ชีท่านหนึ่งซึ่งแม่ชีท่านนี้นับถือศาสนาคริสต์อาศัยอยู่ที่เมืองบินเงินของประเทศเยอรมนีโดยแม่ชีท่านนี้มีอายุอยู่ในช่วงประมาณปีคริสต์ศักราช 1981 ถึง 1179   Hildegrad von Bingen   ได้มีการรังสรรค์ผลงานขึ้นมาครั้งแรกเป็นการแต่งเพลงขึ้นมาด้วยตนเองไม่ใช่พัฒนามาจากโครงสร้างแนวเพลงเก่าใดๆทั้งสิ้นซึ่งมีการแต่งทำนองและเนื้อเพลงขึ้นมาใหม่เอง

ทั้งหมดด้วยผลงานที่ Hildegrad von Bingen  ได้มีการทำขึ้นมานั้นมีมากมายหลายเพลงเลยทีเดียวนอกจากนี้เนื้อเพลงแต่ละเพลงนั้นยังมีมากมายหลายประเภทมีการรวบรวมเอาไว้ในหนังสือรวมเพลง Symphony orchestra เวลาชุมนุม

     หลังจากสิ้นสุดผลงานของแม่ชี Hildegrad von Bingen   ก็มีนักแต่งเพลงคนอื่นแต่งเพลงเกิดขึ้นมาเรื่อยๆจนมาถึงในยุคปัจจุบันนี้ซึ่งแนวเพลงแต่ละยุคแต่ละสมัยนั้นก็มีความแตกต่างกันออกไปแต่อย่างไรก็ตามคนที่ชื่นชอบเสียงเพลงนั้นก็จะเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยนแจ่มใสและการฟังเพลงนั้นก็จะทำให้เรานั้นเพลิดเพลินและคลายเครียดได้อย่างมากเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย.    ทางเข้า UFABET ภาษาไทย

ประวัติ มหาตมะคานธี 

     มหาตมะคานธี   เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงของ บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์คนหนึ่งของประเทศอินเดีย  หรืออาจจะกล่าวได้ว่าเขาเป็นบุคคลสำคัญของโลกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เนื่องจากบุคคลนี้ได้ทำคุณประโยชน์ให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเป็นอย่างมาก สำหรับชายที่เรากำลังพูดถึงอยู่ในขณะนี้ก็คือ มหาตมะคานธี  

       สำหรับชื่อจริงของเขานั้น เขามีชื่อเต็มว่า  โมฮันทาน การัมจันทร์ คานธี ท่านที่เกิดวันที่ 2 ตุลาคม ปี  ค.ศ. 1869 ที่เมืองโปรพันธะแคว้นคชรัตน์ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย    สำหรับ มหาตมะคานธี นั้นท่านนับถือศาสนาฮินดูแต่กำเนิดใช้ชีวิตอยู่ในวรรณะแพศย์ครั้งเมื่อคดีอายุ 18 ปี

มหาตมะคานธี จึงได้เรียนวิชากฎหมายที่ประเทศอังกฤษ  นอกจากนี้ยังได้มีการ ปฏิญาณต่อมารดาว่าเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสุรา และนารี อย่างเด็ดขาด 

        หลังจากการศึกษาต่อไม่นานเขาก็สำเร็จการศึกษา  แล้วหลังจากนั้น คานธี ก็ได้ เดินทางกลับอินเดียซึงตรงกับในปี ค.ศ. 1891 มหาตมะคานธีนั้นถือได้ว่าเป็นบุคคลสำคัญที่ยิ่งใหญ่และมีคุณูปการต่อผู้คนทั้งในอินเดียและระดับโลก  เลยก็ว่าได้ เพราะว่าเส้นทางของเขาเริ่มต้นขึ้นเมื่อคานธีเปิดสำนักทนายความในประเทศอินเดียอยู่เป็นระยะเวลาหนึ่งแต่ไม่ประสบความสำเร็จเขาจึงตัดสินใจทำงานเป็นทนายความให้กับนักธุรกิจชาวอินเดียมุสลิมที่มีบริษัทอยู่ในประเทศแอฟริกาใต้ในปี ค.ศ.  1893 

         การไปทำงานที่แอฟริกาใต้นี้เองที่ทำให้เขาพบว่าชาวอินเดียที่เป็นแรงงานอยู่ประเทศดังกล่าวถูกปฏิบัติอย่างเอาเปรียบอย่างมาก เมื่อรู้ดังนั้น  มหาตมะคานธี  จึงตัดสินใจอยู่ที่แอฟริกาใต้เกินกว่ากำหนดและต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับแรงงานเหล่านั้นโดยใช้วิธีการต่อสู้แบบสัตยาเคราะห์คือวิธีที่ไม่ฝักใฝ่ความรุนแรงไม่ใช้กำลังแต่ใช้พลังธรรมะซึ่งการต่อสู้แบบสัตยาเคราะห์มีองค์ประกอบ 3 ประการคือ สัตย์หมายถึงความจริง

หมายถึงการไม่เบียดเบียนให้เสียเลือดเสียเนื้อและ  การดื้อแพ่งหมายถึงการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างสงบและการไม่ให้ความร่วมมือแก่ทางราชการเช่นการหยุดงานการไม่จ่ายภาษีหลังจากการต่อสู้ด้วยวิธีสัตยาเคราะห์จนประสบความสำเร็จในปี 1915 

      มหาตมะคานธี   ได้เดินทางกลับบ้านเกิดประเทศอินเดียและได้รับความไว้วางใจจากพรรคคองเกรสให้เป็นผู้นำต่อต้านกฎหมายเช่นพระราชบัญญัติ roasted ปี 1919 กฎหมายภาษีเกลือปี 1930 และเขาก็ได้กระทำการยิ่งใหญ่ต่อสู้เรียกร้องด้วยวิธีสัตยาเคราะห์จนทำให้อินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 1947 ในที่สุด

         มหาตมะคานธี ถึงแก่มรณภาพหลังจากที่อินเดียได้รับเอกราชเพียง 5 เดือนด้วยสาเหตุถูกลอบยิงจากชาวฮินดูหัวรุนแรงเมื่อวันที่ 30 มกราคมปี ค.ศ.1948 โดยคุณอุปการที่มหาตมะคานธีมีต่อประเทศอินเดียเขาจึงได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาแห่งชาติอินเดียและขณะเดียวกันองค์การสหประชาชาติก็กำหนดให้วันเกิดของเขาคือวันที่ 2 ตุลาคมเป็นวันไม่ใช้ความรุนแรงของสากล 

 

สนับสนุนโดย.    ทางเข้า ufabet ภาษาไทย

สิ่งของที่เป็นมงคลของจีน ในเทศกาลตรุษจีน 

  

  สีแดงสี

     สิ่งของที่เป็นมงคลของจีน   สำหรับประเทศจีนหรือในช่วงเทศกาลวันตรุษจีนนั้นสีแดงคือสีแห่งมหามงคลสีแดงนั้นอยู่ในวัฒนธรรมของชาวจีนมายาวนานเป็นสีแห่งสิริมงคลอย่างแท้จริงเพื่อเป็นการพิสูจน์ความจริงในข้อนี้  UFABET เว็บหลัก   มาดูกันครับว่าชาวจีนใช้สีแดงทำอะไรกันบ้างไม่ว่าจะเป็นกระดานหุ้นก็ใช้สีแดงเป็นสัญลักษณ์ในการบอกว่าหุ้นขึ้นและใช้สีเขียวในการบอกว่าหุ้นตก

อย่างเช่นคำกล่าวภาษาจีนว่า ไท่หงผันแปลว่าเปิดกระดานแดงที่หมายถึงหุ้นดีดตัวสูงขึ้นตั้งแต่เปิดตลาด หรือคำว่า หง- เหริน ที่แปลว่าคนแดงก็ถูกนำมาใช้กับคำว่าคนดัง หรือคำว่า หง- อวิ้น  ที่ถ้าแปลตรงตรงก็แปลว่าโชค

        สีแดงนั้นก็ถูกนำมาใช้เรียกแทนคำว่าดวงดีหรือไม่แต่คำว่ารายชื่อเกียรติยศก็คือคำว่าคงต่างกันเองหรือไม่ว่าจะเป็นวัดวาอารามพระราชวังพระตำหนักหรือสิ่งปลูกสร้างสมัยก่อนของชาวจีนวัสดุส่วนใหญ่องค์ประกอบก็มักจะเลือกใช้สีแดงนอกจากนี้ที่ได้ยังถูกใช้ในพิธีมงคลต่างๆไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงานการเปิดร้านใหม่ขึ้นบ้านใหม่

หรือวันขึ้นปีใหม่อย่างวันตรุษจีนเป็นต้นจึงถือได้ว่าสีแดงนั้นขึ้นสีที่มีพลังอำนาจที่ให้แสงสว่างขับไล่สิ่งอัปมงคลภูตผีปีศาจทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของธาตุไฟในเบญจธาตุของจีนและธาตุไฟในแผนภูมิผู้ป่วยที่หมายถึงแสงสว่างความอบอุ่นพละกำลังและความรุ่งโรจน์อีกด้วย

    เลข 8

        เลขแห่งความร่ำรวยเลข 8 ตามความเชื่อของชาวจีนมีความหมายถึงความร่ำรวยมั่งคั่งทวีคูณก็มีลักษณะเป็นวงกลม 2 อันซ้อนกันเหมือนการทำซ้ำหรือ Double ในขณะที่หากคลิกหมุนเลข 8 ในอีกมุมเลขนี้เป็นสัญลักษณ์อินฟินิตี้ซึ่งแปลว่าไม่มีที่สิ้นสุดด้วยเหตุนี้จึงจะอยู่บนเครื่องรางนำโชคมากมายชาวจีนเชื่อว่าการเก็บสิ่งของที่มีเลข 8 ไว้ในบ้านจะนำมา

ซึ่งโชคลาภและช่วยปัดเป่าวิญญาณชั่วร้ายได้หรือไม่จีนการมีห้องชุดบนชั้น 8 ถือว่าเป็นเรื่องที่มงคลอย่างยิ่งก็หมายถึงมีสวรรค์แต่ชั้นหรือความสำเร็จ 8 ชั้น

        ในประเทศจีน สิงคโปร์และไต้หวัน หากมีลูกที่เกิดในวันที่ 8 ของเดือนไม่มาเขาจะเป็นลำดับที่เท่าไหร่ของครอบครัว ก็จะถูกเรียกว่าลูก 8 หรือลูกชายแตก เพราะเป็นความภูมิใจและเป็นสิริมงคลวันที่ 8 เดือน 8 ปี 2008 ปีที่จีนเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกซึ่งมีพิธีเปิดในเวลา 8 นาที 8 วินาทีห ลังจากเวลา 20:30 เข็มนาฬิกาของเวลา 20:00 น

ก็ชี้ไปที่เลข 8 หลังจากนั้นก็มีหนุ่มสาวจองคิวแต่งงานกันในวันนี้ด้วยความเชื่อในเลข 8 อันทรงพลังและไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะครับว่าประเทศที่ส่วนใหญ่มีชาวจีนอาศัยอยู่และใช้ภาษาจีนว่าจะเป็นจีนไต้หวันฮ่องกงมาเก๊านั้นก็เป็นพื้นที่ที่ใช้เขตเวลา GMT +8 เหมือนกันอีด้วย 

ข้อมูลเกี่ยวกับเจดีย์กระเบื้องเคลือบเมืองนานกิงและหอเอนเมืองปิซ่า 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง

        สำหรับเจดีย์กระเบื้องเคลือบเมืองนานกิงนั้นนับได้ว่าเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจของโลกยุคกลางเพียงแห่งเดียวที่ถูกทำลายไปจนหมดสิ้นแล้วโดยมีหลักฐานยืนยันเกี่ยวกับเรื่องของการถูกทำลายว่าเกิดในช่วงเหตุการณ์กบฏไท่ผิงในราวคริสต์ศตวรรษที่ 1907

ดีที่เราเห็นกันในปัจจุบันนั้นเป็นหอที่ถูกสร้างขึ้นใหม่แทนที่ของเดิมโดยถูกสร้างขึ้นมาในช่วงปีคริสตศักราช 2010

         สำหรับเจดีย์กระเบื้องเคลือบเมืองนานกิงนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 15 ในสมัยราชวงศ์หมิงลักษณะของตัวเจดีย์นั้นจะเป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมมีทั้งหมด 9 ชั้นด้วยกัน

โดยเจดีย์ทั้งเก้าชั้นนี้นับรวมความสูงรวมกันแล้วจะสูงอยู่ที่ประมาณ 79 เมตรซึ่งตัวเจดีย์นั้นจะถูกสร้างด้วยอิฐและกระเบื้องเคลือบชายคาของเจดีย์นั้นจะมีการแขวนกระดิ่งเล็กๆเอาไว้โดยรอบของตัวเจดีย์ซึ่งถ้าหากนับจำนวนกระดิ่งแล้วก็มีทั้งหมด 80 ลูกด้วยกัน  

         สำหรับเจดีย์กระเบื้องเคลือบนี้มีความงดงามเป็นอย่างมากตัวองค์เจดีย์นั้นก่ออิฐประดับด้วยกระเบื้องเคลือบยอดแหลมเป็นทรงกลมต่อขึ้นไปเคลือบทอง

  

         หอเอนเมืองปิซ่า   

          สำหรับ หอเอนเมืองปิซ่า    สถานที่แห่งนี้นั้นปัจจุบันคือสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากโดยสถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นบริเวณจัตุรัสดูโอโมแห่งปิซาแห่งนี้สร้างด้วยหินอ่อนซึ่งมีความสูงทั้งหมด 8 ชั้นด้วยกันโดยน้ำหนักของหอเอนเมืองปิซานี้มีน้ำหนักรวมกันแล้วประมาณ 1,500 ตันเลยทีเดียว

ว่ากันว่าหอเอนนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ 1173 ซึ่งตามความต้องการในการก่อสร้างหอเอนนี้ในครั้งแรกไม่ได้มีการสร้างเพื่อให้มีการเอนเอียงเหมือนกับในปัจจุบันที่เราเห็นกันอยู่ 

      ตอนที่ก่อสร้างนั้น ต้องการสร้างให้เป็นหอที่มีความสูงเอาไว้ใช้สอยแต่เมื่อมีการก่อสร้างถึงชั้นที่ 3 เท่านั้นปรากฏว่าหอนี้มีการเอียงเพราะว่าฐานใดฐานด้านหนึ่งนั้นมีการยึดตัวจึงทำให้หอมเพียงและสถาปนิกก็พยายามที่จะมีการสร้างต่อไปโดยพยายามสร้างให้หอเอนกับไปอีกด้านหนึ่งเพื่อเป็นการถ่วงสมดุลกันอย่างไรก็ตามในขณะที่มีการก่อสร้างอยู่นั้นก็เกิดมีสงครามเกิดขึ้นทำให้ก่อสร้างนั้นต้องหยุดชะงักลงไป

           จนเมื่อสงครามสิ้นสุดลงจึงได้มีการกลับมาสร้างใหม่อีกครั้งหนึ่งทำให้ระยะเวลาการสอนสร้างนั้นเป็นค่อนข้างนานโดยรวมแล้วของเอ็งเมืองปิซานี้สร้างเสร็จเมื่อประมาณปีค.ศ 1372 ซึ่งถ้านับระยะเวลารวมในการก่อสร้างทั้งหมดนั้นจะเห็นได้ว่าใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างนานถึง 177 ปีเลยทีเดียว โดยมีการนับรวมส่วนของการสร้างหอระฆังเข้าไปด้วย 

 

สนับสนุนโดย.  สล็อต ufabet เว็บตรง