grandprixactual (1)
Search
Close this search box.

Category: ประวัติและตำนาน

ครูกายแก้ว บรมครูผู้เรืองเวทย์

ครูกายแก้ว บรมครูผู้เรืองเวทย์

ครูกายแก้ว บรมครูผู้เรืองเวทย์ ช่วยประทานพรความสำเร็จให้แก่ผู้ที่แสวงหาความร่ำรวยเป็นอีหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังเป็นที่โด่งดังได้รับความนิยมกราบไหว้บูชาจากชาวฮ่องกงจนถูกเปรียบว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยนอกจากนั้นยังได้รับแรงศรัทธาจากชาวไทยจึงได้จัดสร้างองค์จำลองเพื่อถือครองกันอย่างแพร่หลายในขณะนี้ตามคำบอกเล่าของท่านอาจารย์สุชาติ รัตนสุข

ผู้จัดสร้างองค์ประถมองค์แรกของ ครูกายแก้ว ในประเทศไทยแต่เดิมครูกายแก้วนั้นมากับท่านอาจารย์คนหนึ่งเป็นนักร้องเพลงไทยเดิมของกองดุริยางค์ทหารบกสมัยก่อนที่ได้ครูกายแก้วมาจากพระธุดงค์รูปหนึ่งในจังหวัดลำปางที่ได้เดินธุดงค์ไปทำสมาธิณะปราสาทนครวัดประเทศกัมพูชาและนำครูกายแก้วกลับมาด้วยท่านอาจารย์ถวิลก็ได้มอบครูกายแก้วส่งต่อให้กับอาจารย์สุชาติมาครั้งแรกที่ได้มานั้นองค์ครูกายแก้วไม่ได้เป็นอย่างรูปที่เคารพที่เห็นในปัจจุบัน

แต่จะเป็นองค์นั้งขนาดเล็กหน้าตักกว้างประมาณ2นิ้วต่อมาท่านอาจารย์สุชาติก็ได้เริ่มจัดสร้างองค์ครูกายแก้วขึ้นมาเพื่อเป็นการบูชาครูขึ้นมาโดยอาศัยจินตนาการจากภาพจำที่เคยได้เห็นครูกายแก้วมาประกดกายอยู่ต่อหน้าโดนลักษณะกึ่งมนุษย์กึ่งลิงมีปีกอยู่ด้านหลังสูงจากพื้นประมาณ120เซนติเมตรมีเขี้ยวและเล็บคล้ายกับนกลำตัวตั้งตรงใบหน้าเป็นคนร่างกายสีดำมีดวงตาปนแดงใบหูใหญ่คล้ายค้างคาวเป็นรูปลักษณ์ที่เห็นในปัจจุบัน 

ซึ่งตามกำแพงของนครวัดในบริเวณบายนจะมีประวัติของครุฑคนผู้มีลักษณะกึ่งมนุษณ์กึ่งนกอยู่หรือที่คนไทยรู้จักกันดีว่านกการเวกซึ่งรูปร่างเป็นแบบเดียวกันกับครูกายแก้วนั้นก็คือเป็นครูบาอาจารย์ในด้านศาสตร์ศิลป์เมื่อครั้งโบราณใน สมัยยุคพระเจ้ชัยวรมันที่7ซึ่งโดยอาจารย์สุชาติได้คาดการณ์อายุของครูกายแก้วเอาไว้ว่าไม่หน่าจะต่ำกว่า2000 3000ปีเนื่องจากเชื่อว่าครูกายแก้วนั้นเป็นบรมครูผู้เข้งภาวนาจึงไม่ตายไปจากจิต

และกายร่างใช้ชีวิตอมตะดังอ้างอิงได้จากนิทานต่างๆเช่น การกายร่างเป็นเสือสมิง หรือการแปรงกายของชาลาวันเพื่อให้เห็นถึงอนุภาพของ คาถาอาคม ในสมัยก่อนดังนั้นความขังของพลังของครูกายแก้วจึงได้แก่กล้ามากและจึงเป็นที่เคารพกราบไหว้ของผู้คนจำนวนมากมายที่จะต้องพบเจอกับความสำเร็จในชีวิตการขอพรขององค์ครูกายแก้วนั้นจะต้องทำการบูชาครูด้วยธูป5ดอกพร้อมผลไม้หรือขนมหวานจากนั้นก็ทำการทวายเงินและกล่าวคำทวายความปรารถนาต่อครูกายแก้วผู้ที่จะประสิทธิ์ปราสาทพรให้แก่ผู้ที่มาบูชา

 

ขอบคุณสำหรับผู้ให้การสนับสนุนโดย  Gclub ฝากขั้นต่ำ50

สิ่งที่เกี่ยวกับเทพีเสรีภาพ

สิ่งที่เกี่ยวกับเทพีเสรีภาพ เรามาดูเรื่องความรับของเทพีเสรีภาพที่หลายๆคนนั้นยังอาจจะยังไม่รู้จักเกี่ยวกับเทพีเสรีภาพถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งของอนุสรที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกสำหรับใครก้ตามที่ได้ไปท่องเที่ยวที่ประเทศนิวยอร์กจะสามารถเห็นเทพีเสรีภาพแต่ไม่ใช่ทุกคนนั้นที่รู้ว่าเทพีแห่งเสีภาพนั้นมีความลับอยู่ หนึ่งในนั้นเธออาจจะไม่ใช่ผู้หญิงด้วย

ครั้งหนึ่งของเทพีเสรีภาพเคยถูกแยกออกมาเป็นชิ้นๆ

ซึ่งมันยากที่เราจะคิดภาพออกแต่รู้ปั่นอันนี้มาจากฝรั่งเศษเมื่อวันที่17มิถุนายน ปี1885โดยถูกผลิตจากทองแดงมากกว่า300ชิ้นรูปปั่นนั้นได้ถูกแบ่งแยกออกเป็นส่วนๆบรรทุกลงหีบ214ใบเดินทางด้วยเรือฝรั่งเศษอีแซโดยไม่มีแขนข้างที่ถือคบเพลิงที่อันเป็นเอกลักษณ์อยู่ด้วยรูปปั่นได้ถูกตั้งไว้ที่เมรีสีนนานกว่า6ปีเพื่อช่วยหาเงินให้ในการสนับสนุนในการสร้างแท่นและเมื่อเรือบรรทุกมาถึงอเมริกาผู้คนจำนวนประมาณ20,0000คนต่างก็ได้เข้ามาต้อนรับกันซึ่งในพิธีที่ได้ส่งมอบอย่างเป็นทางการได้จัดขึ้นในวันที่ 28ตุลาคม ปี1886โดยมีประธานาธิบดีเป็นประทานพิธี

นี่เป็นหนึ่งในการระดมทุนครั้งแรกในประวัติศาสตร์

โดยครั้งแรกประติมากรชาวฝรั่งเศษเฟรเดริคออกุสต์บาร์โธลดีซึ่งในระดมทุนเงินในประเทศของตัวเองเพื่อที่จะนำมาสร้างรูปปั่นซึ่นี่มันไม่ได้เป็นการสนับสนุนจากทางรัฐบาลท้องถิ่นและเมื่อได้สร้าเสร็จเขาได้เสนอรูปปั่นให้เป็นของขวัญให้กับอเมริกาโดยมีเงื่อนไขว่าพวกเขานั้นจะต้องเป็นคนสร้างแท่นเองซึ่งโดยทางรัฐบาลเองไม่ชอบนโยบายนี้สถานะของรูปปั้นจึงไม่ชัดเจน

อยู่ช่วงหนึ่งจากนั้น โจเซฟ พูลิตเซอร์ นักหนังสือพิมชาวอเมริกันได้เข้ามาเป็นหนึ่งผู้ริเริ่มการระดมทุนครั้งใหญ่ครั้งแรกโดยสัญญาว่าผู้มีส่วนรวมทุกคนจะได้รับเกียรติประกาสชื่อในหนังสือพิมของเขาถึงแม้ว่าการบริจากถึง80%ของการบริจากจะมาจากคนชั้นกลางแต่เขาก็สามารถรวบรวมเงินจากผู้บริจากได้ถึง120,000ราย

เทพีเสรีภาพไม่ได้มีสีเขียวแต่แรก

เดิมที่แล้วเทพีเสรีภาพมีสีเดียวกับเหรียญเพนนีเพราะได้สร้างมาจากทองแดงอ้างอิงมาจากสมาคมประวัติศาสตร์นิวยอร์กที่รูปปั่นเปลี่ยนไปเป็นสีเขียวทั้งหมดเนื่องจากเกิดออกซิเดชั่นในปี1920โดยเปลี่ยนจากสีน้ำตาลกลายมาเป็นสีเขียวทางการจึงตัดสินใจให้ทาสีใหม่ซึ่งเป็นการที่เคลือบผิวซึ่งเรียกว่าพาติน่านี้เอาไว้มาจนถึงปัจจุบันนี้ซึ่งมันเคยได้ถูกให้วางเป็นสประภาคารประเดิมแล้วรูปปั้นได้ถูกตั้งให้เป็นประภาคารให้กับสำหรับเรือที่จะเข้ามาในนิวยอร์กหลังจาก2ปีที่รูปปั่นชิ้นส่วนมาถึงอเมริกามันก็ได้ถูกประกอบให้เป็นรูปปั่นและคบไฟของรูปปั่นและคบไฟของรูปปั่นก็ได้ทำหน้าที่เป็นไฟสันญาณนานถึง16ปี

 

ขอบคุณผู้สนับสนุนโดย  คาสิโนออนไลน์ฝากไม่มีขั้นต่ำ

การถูกค้นพบปราสาทเขาพระวิหาร

การถูกค้นพบปราสาทเขาพระวิหาร ใครที่เป็นคนเจอร่องรอยของปราสาทเขาพระวิหารในปีพ.ศ.2442

การถูกค้นพบปราสาทเขาพระวิหาร ปราสาทเขาพระวิหารได้ถูกค้นพบโดย พระเจ้าน้อยยาเธอกรมหลวงสรรพสิทธิ์ประสงค์ซึ่งเป็นพระอนุชาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระองค์ได้จารึกพระนามไว้ที่บริเวณผาชะง่อนผาเป้ยตาดีว่าร.ส1018สันประสิทธิ์ซึ่งได้ตรงกับปีพุทธศักราช2442หลังจากที่ได้ค้นพบประเทศไทยก็ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ขึ้นไปครอบครองปราสาทเขาพระวิหาร

ซึ่งประเทศไทยครอบครองปราสาทเขาพรวิหารนานกว่า60ปีจนมาถึงในปีพุทธศักราช2493เขมรได้รับเอกราชจากฝรั่งเศษในปีพุทธศักราช2501ประชาชนชาวเขมรได้มีการเรียกร้องขอปราสาทเขาพระวิหารคือจากประเทศไทย 

ซึ่งในทางประเทศไทยได้ประปฏิเสธเขมรจึงได้ตัดความสัมพันธ์กับทางการทูตประเทศไทย ต่อมาเมื่อวันที่6ตุลาคมพุทธศักราช2502เจ้านโรดมสีหนุนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้ยื่นฟ้องต่อศาสโลก ประเทศเนเธอร์แลนด์เพื่อเรียกร้องอธิปไตยบนปราสาทเขาพระวิหารให้เป็นของกัมพูชาและได้มีการตัดสินประชุมกันทั้งหมด738ครั้ง

ซึ่งได้มี15ประเทศที่ได้เข้าร่วมในการตัดสินโดยลักษณะของการลงคะแนนประเทศที่ลงคะแนนให้ปราสาทเขาพระวิหารเป็นของประเทศไทยมีอยู่3ประเทศคือ อาร์เจนติน่า จีน และ ออสเตรีย ประเทศที่ลงคะแนนให้กัมพูชามีอยู่9ประเทศคือ ญี่ปุ่น เปรุ โปแลนด์ ฝรั่งเศส อังกฤษ ปานามา อียิปต์ อิตาลี และ รัสเซีย และงดออกเสียง3ประเทศคือสหรัฐอเมริกา

เม็กซิโก  และ กรีซ ประเทศไทยแพ้ 3 ต่อ 9 เสียงศาสโลกจึงได้ตัดสินเมื่อวันที่15มิถุนายนพุทธศักราช2505นับว่าเป็นการเสียดินแดนไปครั้งที่14เป็นครั้งสุดท้ายของประเทศไทยเมื่อศาสโลกตัดสินและสิ่ง ที่รัฐบาลไทย จะต้องปฏิบัติตามมัดติของศาสโลกมีอยู่ 3 ข้อคือ

( 1 ) ให้ถอนกำลังทหารไทยที่อยู่บนปราสาทเขาพระวิหารที่อยู่ในเขตประเทศไทย

( 2 )ให้รัฐบาลคืนวัตถุโบราณประมาณ50ชิ้นให้แก่รัฐบาลกัมพูชา

( 3 )ให้อธิปไตยเหนือปราสาทเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา

จากนั้นมาปราสาทเขาพระวิหารจึงตกอยู่ภายใต้อธิปไตยของของประเทศกัมพูชา ปราสาทพระวิหารนับตั้งแต่บันไดทางขึ้นเรียกว่าบันไดหน้ามีทั้งหมด162ขั้นผู้สร้างมีเจตนาจะสร้างให้ชันเพื่อให้ผู้ที่จะเข้าไปร่วมประกอบพิธีขึ้นไปแบบหมอบคานบริเวณขั้นบันไดซ้ายและขวาจะมีขั้นบันไดทั้งหมด54ขั้นและราชสีห์54ตัวปัจจุบันเหลือเพียงตัวเดียว

เมื่อพ้นบนไดขั้นที่162จนถึงสพานที่เรียกว่าสะพานนาคราชหรือลานนาคราชขนาดกว้าง7เมตรยาว31เมตร80เซนติเมตรมีจำนวนเศียรนาคราชจำนวนสองตัวหันหน้าไปทางทิศเหนือคล้ายกัลงูจงอางนาคราชสองตัวยังไม่มีรัศมีเป็นศิลปะขอมแบบป่ามวนตามความเชื่อของศาสนาฮินดูสายรุ้งเป็นสพานเชื่อมระหว่างมนุษย์ไปสวรรค์

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  เล่นบาคาร่าให้ได้เงิน