Tag: ทางเข้า ufabet ภาษาไทย

ประวัตินักแต่งเพลงคนแรกของโลก 

     นักแต่งเพลงคนแรก   หากมีการพูดถึงเรื่องของเสียงเพลงเชื่อว่าคนแต่ละคนนั้นมีความชื่นชอบเพลงที่แตกต่างกันออกไปบางคนชอบเพลงแนวคลาสสิคบางคนชอบเพลงแนวร็อคหรือแนวอัลเทอร์เนทีฟนอกจากนี้ปัจจุบันยังมีแนวเพลงต่างๆเกิดขึ้นมาใหม่มากมายหลายแนว 

อย่างไรก็ตามเราจะไม่สามารถตีเพลงฟังได้เลยถ้าเราขาดนักแต่งเพลงซึ่งในปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะเป็นประเทศไทยหรือต่างประเทศก็ตามจะมีนักแต่งเพลงขึ้นมามากมายเต็มไปหมดในแต่ละปีนั้นจะมีนักแต่งเพลงหน้าใหม่ๆและมีการรังสรรค์ผลงานออกมาให้พวกเราได้ฟังเพลงกัน   

        หากใครที่ชื่นชอบผลงานของศิลปินด้านไหนเป็นพิเศษก็อาจจะหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของนักแต่งเพลงว่าใครเป็นคนแต่งเพลงนี้  แต่คุณรู้หรือไม่ว่านักแต่งเพลงคนแรกของโลกนั้นคือใครและใครเป็นคนแรกที่รังสรรค์ผลงานเพลงขึ้นมาให้ในปัจจุบันนี้เราได้มีเพลงฟังกันซึ่งในบทความนี้จะมีการพูดถึงประวัติของนักแต่งเพลงคนแรกให้เราได้ทราบข้อมูลอย่างละเอียดกัน 

        สำหรับนักแต่งเพลงคนแรกของโลกนั้นเขามีชื่อว่า  Hildegrad von Bingen  ซึ่งเชื่อได้เลยว่าหลายคนคงไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของเขามาก่อนเพราะคนรุ่นหลังใหม่ๆหรืออาจจะคนส่วนใหญ่นั้นมักจะคิดว่านักแต่งเพลงในยุคแรกๆนั้นน่าจะเป็นบีโธเฟนหรือไม่ก็ Mozart นั่นเองซึ่งเป็นข้อมูลที่ทุกคนนั้นเข้าใจผิดและเข้าใจคลาดเคลื่อนเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

เพราะคนที่แต่งเพลงคนแรกนั้นไม่ใช่บุคคลในตำนานทั้งสองคนนี้แต่เป็นบุคคลที่อาจจะไม่มีใครนึกถึงได้ว่าเขาจะกลายมาเป็นนักแต่งเพลงคนแรกของโลก

        สำหรับ Hildegrad von Bingen  หนังเป็นชื่อของแม่ชีท่านหนึ่งซึ่งแม่ชีท่านนี้นับถือศาสนาคริสต์อาศัยอยู่ที่เมืองบินเงินของประเทศเยอรมนีโดยแม่ชีท่านนี้มีอายุอยู่ในช่วงประมาณปีคริสต์ศักราช 1981 ถึง 1179   Hildegrad von Bingen   ได้มีการรังสรรค์ผลงานขึ้นมาครั้งแรกเป็นการแต่งเพลงขึ้นมาด้วยตนเองไม่ใช่พัฒนามาจากโครงสร้างแนวเพลงเก่าใดๆทั้งสิ้นซึ่งมีการแต่งทำนองและเนื้อเพลงขึ้นมาใหม่เอง

ทั้งหมดด้วยผลงานที่ Hildegrad von Bingen  ได้มีการทำขึ้นมานั้นมีมากมายหลายเพลงเลยทีเดียวนอกจากนี้เนื้อเพลงแต่ละเพลงนั้นยังมีมากมายหลายประเภทมีการรวบรวมเอาไว้ในหนังสือรวมเพลง Symphony orchestra เวลาชุมนุม

     หลังจากสิ้นสุดผลงานของแม่ชี Hildegrad von Bingen   ก็มีนักแต่งเพลงคนอื่นแต่งเพลงเกิดขึ้นมาเรื่อยๆจนมาถึงในยุคปัจจุบันนี้ซึ่งแนวเพลงแต่ละยุคแต่ละสมัยนั้นก็มีความแตกต่างกันออกไปแต่อย่างไรก็ตามคนที่ชื่นชอบเสียงเพลงนั้นก็จะเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยนแจ่มใสและการฟังเพลงนั้นก็จะทำให้เรานั้นเพลิดเพลินและคลายเครียดได้อย่างมากเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย.    ทางเข้า UFABET ภาษาไทย

ประวัติ มหาตมะคานธี 

     มหาตมะคานธี   เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินชื่อเสียงของ บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์คนหนึ่งของประเทศอินเดีย  หรืออาจจะกล่าวได้ว่าเขาเป็นบุคคลสำคัญของโลกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เนื่องจากบุคคลนี้ได้ทำคุณประโยชน์ให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเป็นอย่างมาก สำหรับชายที่เรากำลังพูดถึงอยู่ในขณะนี้ก็คือ มหาตมะคานธี  

       สำหรับชื่อจริงของเขานั้น เขามีชื่อเต็มว่า  โมฮันทาน การัมจันทร์ คานธี ท่านที่เกิดวันที่ 2 ตุลาคม ปี  ค.ศ. 1869 ที่เมืองโปรพันธะแคว้นคชรัตน์ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอินเดีย    สำหรับ มหาตมะคานธี นั้นท่านนับถือศาสนาฮินดูแต่กำเนิดใช้ชีวิตอยู่ในวรรณะแพศย์ครั้งเมื่อคดีอายุ 18 ปี

มหาตมะคานธี จึงได้เรียนวิชากฎหมายที่ประเทศอังกฤษ  นอกจากนี้ยังได้มีการ ปฏิญาณต่อมารดาว่าเขาจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสุรา และนารี อย่างเด็ดขาด 

        หลังจากการศึกษาต่อไม่นานเขาก็สำเร็จการศึกษา  แล้วหลังจากนั้น คานธี ก็ได้ เดินทางกลับอินเดียซึงตรงกับในปี ค.ศ. 1891 มหาตมะคานธีนั้นถือได้ว่าเป็นบุคคลสำคัญที่ยิ่งใหญ่และมีคุณูปการต่อผู้คนทั้งในอินเดียและระดับโลก  เลยก็ว่าได้ เพราะว่าเส้นทางของเขาเริ่มต้นขึ้นเมื่อคานธีเปิดสำนักทนายความในประเทศอินเดียอยู่เป็นระยะเวลาหนึ่งแต่ไม่ประสบความสำเร็จเขาจึงตัดสินใจทำงานเป็นทนายความให้กับนักธุรกิจชาวอินเดียมุสลิมที่มีบริษัทอยู่ในประเทศแอฟริกาใต้ในปี ค.ศ.  1893 

         การไปทำงานที่แอฟริกาใต้นี้เองที่ทำให้เขาพบว่าชาวอินเดียที่เป็นแรงงานอยู่ประเทศดังกล่าวถูกปฏิบัติอย่างเอาเปรียบอย่างมาก เมื่อรู้ดังนั้น  มหาตมะคานธี  จึงตัดสินใจอยู่ที่แอฟริกาใต้เกินกว่ากำหนดและต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับแรงงานเหล่านั้นโดยใช้วิธีการต่อสู้แบบสัตยาเคราะห์คือวิธีที่ไม่ฝักใฝ่ความรุนแรงไม่ใช้กำลังแต่ใช้พลังธรรมะซึ่งการต่อสู้แบบสัตยาเคราะห์มีองค์ประกอบ 3 ประการคือ สัตย์หมายถึงความจริง

หมายถึงการไม่เบียดเบียนให้เสียเลือดเสียเนื้อและ  การดื้อแพ่งหมายถึงการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างสงบและการไม่ให้ความร่วมมือแก่ทางราชการเช่นการหยุดงานการไม่จ่ายภาษีหลังจากการต่อสู้ด้วยวิธีสัตยาเคราะห์จนประสบความสำเร็จในปี 1915 

      มหาตมะคานธี   ได้เดินทางกลับบ้านเกิดประเทศอินเดียและได้รับความไว้วางใจจากพรรคคองเกรสให้เป็นผู้นำต่อต้านกฎหมายเช่นพระราชบัญญัติ roasted ปี 1919 กฎหมายภาษีเกลือปี 1930 และเขาก็ได้กระทำการยิ่งใหญ่ต่อสู้เรียกร้องด้วยวิธีสัตยาเคราะห์จนทำให้อินเดียได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 1947 ในที่สุด

         มหาตมะคานธี ถึงแก่มรณภาพหลังจากที่อินเดียได้รับเอกราชเพียง 5 เดือนด้วยสาเหตุถูกลอบยิงจากชาวฮินดูหัวรุนแรงเมื่อวันที่ 30 มกราคมปี ค.ศ.1948 โดยคุณอุปการที่มหาตมะคานธีมีต่อประเทศอินเดียเขาจึงได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาแห่งชาติอินเดียและขณะเดียวกันองค์การสหประชาชาติก็กำหนดให้วันเกิดของเขาคือวันที่ 2 ตุลาคมเป็นวันไม่ใช้ความรุนแรงของสากล 

 

สนับสนุนโดย.    ทางเข้า ufabet ภาษาไทย

สิ่งลึกลับ ตํานานอาถรรพณ์ของอียิปต์โบราณ

อารยธรรมอียิปต์โบราณ เป็นหนึ่งในอารยธรรมซึ่งมีความโบราณเก่แก่มาก ตํานานอาถรรพณ์ของอียิปต์ และเยอะมากที่สุดอารยธรรมหนึ่งที่อยู่บนโลกเลย และยังเป็นอารยธรรมที่เกิดเรื่องราวต่างๆเกิดมากมาย แถมยังเป็นที่ตั้งของสิ่งก่อสร้างอย่าง “พีระมิด”

ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกแล้วก็การพัฒนาทางด้านการแพทย์อย่างแนวทางการทำ “มัมมี่” อีกด้วย รวมทั้งเว้นเสียแต่ความใหญ่โตตระการตาที่อุดมไปด้วยความเป็นมาอันล้ำค่าต่างๆจำนวนมากแล้วนั้น อารยธรรมอียิปต์โบราณ ก็ยังจะมีเรื่องราวที่ลึกลับๆที่น่าสนใจที่บางบุคคลบางทีอาจจะยังไม่เคยทราบมาก่อนเลยก็ได้

  1. พระนางคลีโอพัตรา กับรูปโฉมที่แท้จริง

พระนางคลีโอพัตรา (Cleopatra VII) ถือว่าเป็นผู้ดูแลอียิปต์โบราณที่เป็นที่รู้จักสูงที่สุด ซึ่งในความคิดของคนสามัญ เธอเป็นราชินีผู้ทรงเสน่ห์ที่สุด มีรูปโฉมโนมพรรณที่สวย พรั่งพร้อมไปด้วยชั้นเชิงในเชิงพิศวาส สามารถผูกหัวใจชายได้อย่างอยู่มือ

แต่ว่าตามที่เป็นจริงแล้ว ความสวยงามของพระนางคลีโอพัตรามิได้อยู่ที่เนื้อหนังหรือความสวยงามที่บริเวณใบหน้าแล้วก็เรือนกายเลย แต่ว่าอยู่ที่ปัญญารวมทั้งความฉลาดหลักแหลมรู้ทันคนต่างหาก

ซึ่งได้มีหลักฐานชิ้นหนึ่งที่บอกถึงเรื่องจริงประเด็นนี้ ก็คือการศึกษาและทำการค้นพบรูปปั้นชิ้นส่วนพรเศียรของพระนางรวมทั้งเหรียญที่มีภาพหน้าของพระนาง ซึ่งได้เป็นศึกษาและทำการค้นพบของนักโบราณคดีคนหนึ่ง

  1. ความเชื่อเกี่ยวกับความตาย

ชาวอียิปต์โบราณมีความเชื่อที่ว่า เมื่อได้มีคนเสียชีวิต วิญญาณออกจากร่างไปเพียงแค่ชั่วครั้งคราว เพื่อเดินทางไปเจอกับพระผู้เป็นเจ้าในภพหน้า แล้วจะกลับมาในวันข้างหน้า ทั้งนี้ เมื่อวิญญาณกลับมาแล้วหลังจากนั้นก็จะต้องมีร่างกายอยู่

แล้วก็ร่างที่จะอาศัยอยู่ได้ควรจะเป็นร่างกายของตัวเองแค่นั้น รวมทั้งด้วยความเชื่อถือนี้เองก็เลยกระตุ้นให้เกิดแนวทางการดูแลศพ หรือที่พวกเรารู้จักกันอย่างดีกับกระบวนการทำ “มัมมี่” (Mummy) เพื่อภาวะศพยังอยู่ในภาวะที่ดี ไม่เปื่อยยุ่ยนั่นเอง

  1. การปรากฏตัวของเอเลี่ยน

ในทุกวันนี้กระแส “เอเลี่ยน” หรือมนุษย์ดาวอื่น ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่โดยตลอด แม้กระนั้นเราทราบหรือเปล่าว่า การปรากฎตัวของเอเลี่ยนมีให้ดูมาแล้วตั้งแต่ยุคอียิปต์โบราณเลย สิ่งหนึ่งที่การันตีในหัวข้อนี้ ก็มาจากภาพบนฝาด้านในสุสานในเมืองกิซ่า โดยหนึ่งในรูปภาพบนผนังนั้นมีการวาดรูปของเอเลี่ยนผสมปนเปอยู่ด้วย

แต่ว่าอย่างไรก็ตาม ก็จำเป็นต้องใช้วิจารณญาณสำหรับในการตัดสินใจด้วย เพราะว่าครั้งคราวภาพๆนี้ บางทีก็อาจจะเป็นเพียงแต่รูปของข้าวของอื่นๆที่มีความคล้ายกับเอเลี่ยนเพียงแค่นั้น

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  ทางเข้า UFABET ภาษาไทย

เหตุผลที่งานศิลปะมีการเปลี่ยนแปลง 

ศิลปะคือการบ่งบอกถึงเรื่องราวต่างๆไม่ว่าจะเป็นการศึกษายุคสมัยต่างๆโดยแม่ที่เป็นแนวคิดของผู้คน สิ่งที่ในยุคปัจจุบันลงเรืออยู่นั่นคือรูปแบบของการใช้ชีวิตหรือแม้แต่จะเป็นการสืบค้นเรื่องราวต่างๆ

ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งโดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่รูปแบบต่างๆเหล่านั้นหรือช่วงเวลาต่างๆเหล่านั้นได้ทุกคำตอบมากมายหรือแม้จะเป็นการเริ่มงานสร้างสรรค์เกี่ยวกับรูปแบบในการทำงาน

โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่การสร้างสรรค์ต่างๆได้มีรูปแบบต่างๆที่มีการศึกษาเรื่องราวในประวัติศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในการรับรู้เรื่องราวแต่ละเหตุการณ์หรือแม้แต่จะเป็นการพัฒนาโครงสร้างที่ส่งผลให้ในยุคปัจจุบันการเรียนรู้รูปแบบต่างๆ

ในการใช้เครื่องมือต่างๆในการทำงานมีการเปลี่ยนแปลงและมีการพัฒนาอยู่เสมอ อย่างที่รู้กันว่ามนุษย์เป็นสิ่งที่มีการพัฒนาตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นทางด้านความคิดจิตวิญญาณหรือแม้จะเป็นทัศนคติต่างๆที่มีการเปลี่ยนแปลงตามแต่สภาพสังคมหรือแม้แต่จะเป็นการส่งต่อถึงแนวคิดต่างๆ

อย่างไรก็ตามในยุคปัจจุบันต้องยอมรับว่าการพัฒนาการทำงานต่างๆหรือแม้แต่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงของทางด้านงานศิลปะได้มีการเรียนรู้ของงานศิลปะในยุคก่อนไม่ว่าจะเป็นลักษณะในการทำงานโครงสร้างหรือแม้แต่เวลาส่งต่อทางด้านแนวคิดและการพัฒนาการทำงาน การเปลี่ยนแปลงรูปแบบต่างๆเหล่านี้

ส่งผลให้ในยุคปัจจุบันผู้คนต่างๆสามารถเรียนรู้โครงสร้างทางการรับรู้เรื่องราวต่างๆทางการศึกษางานศิลปะอักษร ภาพวาด รวมไปถึงงานวรรณกรรมต่างๆ ที่ถูกสะท้อนดอกไม้เห็นถึงแนวคิดต่างๆของผู้คน ที่มีการเปลี่ยนแปลงในยุคสมัยต่างๆถูกสร้างสรรค์และปรากฏอย่างชัดเจนซึ่งในยุคปัจจุบันเราจึงสามารถค้นหาแนวคิดต่างๆมันขึ้นการเสาะแสวงหา 

รูปแบบการทำงานใหม่ๆหรือว่างานศิลปะต่างๆที่มีการพัฒนาอยู่เสมอนั่นก็เป็นเพราะว่ามนุษย์มีความต้องการในการพัฒนารูปแบบงานในการสร้างสรรค์หรือแม้แต่จะเป็นโครงสร้างต่างๆที่มีการเปลี่ยนแปลงและมีการพัฒนาอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่างานสร้างสรรค์ผลงานต่างๆเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ

แต่มนุษย์มีความตั้งใจในความต้องการในการจดบันทึกเรื่องราวต่างๆแนวคิดหรือแม้จะเป็นทัศนคติต่างๆ สภาพสังคมหรือสิ่งแวดล้อมในการเติบโตขึ้นมาก็ส่งผลต่อผลงานต่างๆเหล่านั้นเช่นเดียวกันในยุคหินเป็นยุคที่มีความเก่าแก่มากที่สุดทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับทางด้านงานศิลปะในยุคปัจจุบันเราจึงสืบค้นว่าในยุคนั้น

ผู้คนมีทั้งด้านความเชื่อ ความกลัวต่อธรรมชาติและสิ่งสะท้อนมาทำงานศิลปะทั้งสิ้น ในยุคปัจจุบันเราจึงเรียนรู้และเปลี่ยนแปลงรูปแบบต่างๆเหล่านี้ให้มีการพัฒนาและมีการปรับเปลี่ยนที่ดีมากยิ่งขึ้นอย่างไรก็ตามโครงสร้างในการทำงานดังกล่าวผู้คนก็มีการพัฒนาเช่นเดียวกันและมีการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงรูปแบบในการทำงานต่างๆ จนมาถึงในยุคปัจจุบันที่รูปแบบต่างๆเหล่านี้มีการพัฒนาให้ดีมากยิ่งขึ้น

 

 

สนับสนุนโดย  ทางเข้า ufabet ภาษาไทย

ตำนาน รัก-ยม

     สำหรับรักกับยมเป็นตุ๊กตาหุ่นพยนต์อีกรูปแบบหนึ่งซึ่งลักษณะของตุ๊กตารักและโยมนั้นจะเป็นตุ๊กตาหุ่นที่สร้างมาเป็นเด็กคู่กันตัวนึงจะชื่อรักและอีกตัวหนึ่งจะชื่อยมซึ่งลักษณะของเด็กทั้งคู่นั้นจะเป็นเด็กในสมัยโบราณที่ไว้ผมทรงจุกและจะมีลักษณะคล้ายๆเหมือนกับเด็กชกมวย สร้างมาจากต้นไม้ 2 ชนิดสำหรับตุ๊กตาที่ชื่อว่ารักนั้นจะสร้างมาจากต้นรักซ้อน

ซึ่งจะต้องส่วนที่เป็นลำต้นหรือส่วนที่เป็นรากที่ตายแล้วมาสร้างเป็นตุ๊กตารักโดยถ้าหากใช้เป็นรากของต้นรักแล้วเราก็จะต้องเป็นกิ่งที่ยื่นไปทางฝั่งทิศตะวันออกด้วย ส่วนตุ๊กตายมนั้นก็ถูกนำมาสร้างจากต้นไม้ที่ชื่อว่าต้นมะยมโดยใช้ส่วนที่เป็นลำต้นหรือส่วนที่เป็นรากเช่นเดียวกัน โดยต้นไม้ที่เป็นต้นมะยมนั้นจะมีสีขาวแต่ถ้าเป็นต้นรักนั้นจะเป็นสีดำ

หลังจากได้ลากไม้ตามที่ต้องการแล้วก็จะถูกนำมาแกะสลักเป็นรูปร่างของเด็กแล้วค่อยทำการไล่บริกรรมคาถาปลุกเสกโดยตุ๊กตาที่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วจะถูกนำไปไว้ในขัน สัมฤทธิ์ซึ่งภายในขันนั้นจะมีน้ำมันหอม หรืออีกชื่อหนึ่งคือน้ำมันจันทร์หลังจากนำผลไปใส่ไว้ในน้ำมันเป็นที่เรียบร้อยแล้วอาจารย์ก็จะทำพิธีปลุกเสกขึ้นมา

ซึ่งการร่ายบริกรรมคาถานั้นจะต้องใช้ระยะเวลานานเนื่องจากว่าผู้ที่ปลุกเสกนั้นจะต้องร่ายคาถาจนกว่าที่จะมองเห็นว่าหุ่นรักยมที่มีการปลุกเสกอยู่นั้นลุกขึ้นมาเต้นรำหรือลุกขึ้นมาเล่นกันถึงจะเป็นอันเสร็จสิ้นวิธีการปลุกเสกนั้นเอง สำหรับการใช้งาน รัก-ยม ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ที่ปลุกเสกนั้นต้องการใช้งานให้รักและยมไปทำหน้าที่อะไร

ส่วนทางด้านการเก็บรักษาตุ๊กตารักยมนั้นมักจะนำไปใส่ขวดที่มีขนาดเล็กโดยภายในขวดนั้นก็จะมีน้ำมันจันทร์หรือน้ำมันหอมตอนที่มีการทำพิธีปลุกเสกใส่เอาไว้แล้วนำตุ๊กตารักยมไปใส่เอาไว้ข้างใน ซึ่งทุกครั้งที่ผู้ที่ปลุกเสกเดินทางไปไหนมาไหนก็มักจะต้องพาตุ๊กตารักและยอมเดินทางไปด้วยและเมื่อกลับถึงบ้านก็จะถูกนำไปวางไว้ในที่ที่เหมาะสมเช่นแถวบริเวณหิ้งพระ

หลังจากนั้นก็จะต้องมีการดูแลด้วยการหาข้าวปลาอาหารมาให้กินซึ่งลักษณะของวิธีการดูแลนั้นก็เหมือนกับการดูแลเด็กที่ต้องหาทั้งอาหารและของเล่นมาให้นั่นเอง ข้อควรระวังอีกอย่างนึงในการดูแลรักยมก็คือน้ำมันที่อยู่ในขวดนั้นถ้าไม่แห้งอย่างเด็ดขาดไม่เช่นนั้นแล้วรักยมอาจจะไม่เชื่อฟังคนที่ดูแลอยู่เพราะฉะนั้นจะต้องมีการเติมน้ำมัน

ภายในขวดนั้นอย่างสม่ำเสมอและต้องดูแลรักยมอย่างดีเหมือนกับดูแลลูกหลานของตนเองที่สำคัญหากใครก็ตามที่อยากจะฟังข้อมูลข่าวสารอยากจะรู้เรื่องอะไรก็สามารถสอบถามรักยมได้ดั่งที่เราจะเห็นได้ตามในละครทีวีหรือแม้แต่ตามสำนักของอาจารย์ที่มีการเล่นวิชาอาคมนั่นเอง

 

 

สนับสนุนโดย  ทางเข้า ufabet ภาษาไทย