grandprixactual (1)
Search
Close this search box.

Category: ศิลปะ

โดน ผีอำ บอกใบ้อะไรได้บ้าง

โดน ผีอำ บอกใบ้อะไรได้บ้าง ทุกคนคงเคยสัมผัสกับอาการผีอำ มันจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เรากึ่งหลับกึ่งตื่น บางครั้งกลัวจนอยากจะลุกตื่นจากเตียงแต่ก็ทำไม่ได้เหมือนมีคนมาดึงร่างเราเอาไว้ จะหลับต่อก็ไม่ได้ จะลุกตื่นออกจากเตียงก็ทำไม่ไหว 

แถมยังต้องผวากับเสียงแปลกๆเหมือนมีใครก็ไม่รู้มาซุบซิบข้างหูนัยว่า “จะใบ้หวยอะไรสักอย่าง ” คอหวยอย่างเราก็พลาดไม่ได้ที่จะขอ แต่เดี๋ยวก่อน อาการผีอำ ไม่ใช่ผีหรือสิ่งเหนือธรรมชาติ มันเป็นอาการที่สามารถอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์

ผีอำ หรือ ภาวะ Sleep paralysis เป็นภาวะที่ร่างกายกับสมองทำงานไม่สัมพันธ์กัน เกิดในช่วงที่เรากำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น ตัวเรายังรู้สึกตัวแต่ไม่สามารถที่จะควบคุมร่างกายให้ทำงานตามคำสั่งได้

ส่วนใหญ่อาการจะเหมือนโดนกด ขยับตัวและพูดไม่ได้ มักพบในคนที่นอนหงาย  ทุกคนสามารถเกิดอาการผีอำได้โดยในการเกิดผีอำแต่ละครั้งจะมีสาเหตุต่างๆที่นำทำให้เกิดอาการดังกล่าวได้ดังนี้

เกิดในคนที่นอนไม่เป็นเวลา เช่น วันดีคืนดีดันนอนกลางวัน หรือคนที่เปลี่ยนเวลาทำงานแล้วมานอนในช่วงเช้าแทนเป็นต้น คนแก่มักเตือนเราว่า ห้ามนอนช่วงเวลาโพล้เพล้เดี๋ยวผีจะมาอำ ซึ่งก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ร่างกายเกิดอาการผีอำได้ 

เกิดในคนนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ นอนน้อย หรือ นอนไม่หลับ เช่น สองสามวันนอนที นอนไม่ครบ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน คนเหล่านี้มีโอกาสเกิดอาการผีอำได้สูง จนอาจจะชินไปแล้วก็ได้ 

เกิดกับคนที่ชอบนอนในท่านอนหงาย และคนที่ใช้สารเสพติดเป็นต้น

ดังนั้นจะเห็นว่า ผีอำ ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดและเจ้าอาการนี้ถ้าเกิดขึ้นแล้วมันสามารถบอกสภาวะร่างกายของเราในช่วงนั้นได้เป็นอย่างดี วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดอาการผีอำควรเริ่มจากการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ นอนให้ได้วันละ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ควรเข้านอนให้เป็นเวลาและตื่นนอนให้ตรงเวลาเหมือนกันในทุกๆวัน ลองเปลี่ยนท่านอนจากท่านอนหงายเป็นท่าอื่นดูบ้าง

เลี่ยงการทำกิจกรรมที่ทำให้นอนหลับยากเช่นการออกกำลังกายก่อนนอนหรือดื่มชา กาแฟที่ผสมคาเฟอีน รวมไปถึงหยุดความเครียดที่ทำให้เรากังวลจนนอนไม่หลับ 

โดน ผีอำทั้งทีคอหวยอาจจะหมดหวังกับเลขเด็ด ไม่ว่าจะเป็น 2ตัว 3 ตัวก็คงไม่ได้ แต่สิ่งที่ผีอำบอกใบ้เราได้คือ “ร่างกายกำลังจะฟ้องอะไรสักอย่างที่เราหลงลืมไปในช่วงเวลานั้น”

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  บาคาร่าออนไลน์ มือถือ

ZEN MIND การจดจ่อกับสิ่งเดียว 

ZEN MIND การจดจ่อกับสิ่งเดียว  วิถีของพระโพธิสัตว์คือวิถีที่เรียกว่า การจดจ่อกับสิ่งเดียว หรือ ทางรถไฟสายหนึ่งที่ยาวหลายพันไมล์ ทางรถไฟจะเหมือนเดิมเสมอ เมื่อไรที่มันกว้างขึ้นหรือแคบลง หายนะจะต้องเกิดขึ้น ไม่ว่าเธอจะไปไหน ทางรถไฟจะเหมือนเดิม นี่คือวิถีของพระโพธิสัตว์ ดังนั้น แม้พระอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตก พระโพธิสัตว์ก็มีเพียงทางเดียว วิถีของพระองค์คือการแสดงออกถึงธรรมชาติและความจริงแท้ของพระองค์ในทุกชั่วขณะ

เราบอกว่า ทางรถไฟ แต่จริงๆแล้ว ไม่มีหรอก ความจริงแท้นั่นละคือทางรถไฟ ภาพที่เราเห็นจากรถไฟจะเปลี่ยนไป แต่เราจะยังวิ่งอยู่บนทางรถไฟสายเดิมเสมอ ทางนี้ไม่มีจุดเริ่มต้นหรือสิ้นสุด เป็นทางที่ไร้การเริ่มต้น ไร้การสิ้นสุด ไม่มีจุดเริ่มน้น ไม่มีจุดสิ้นสุด ไม่มีสิ่งใดที่จะบรรลุ เพียงแค่วิ่งไปเรื่อยๆ ในทางเดียว นี่คือธรรมชาติของการปฏิบัติเซนของเรา

เมื่อใดที่เธอเกิดความสงสัยใคร่รู้ในทางรถไฟสายนี้ขึ้นมา อันตรายก็อยู่ที่นั้น เธอไม่ควรมองทางรถไฟ เธอจะเกิดอาการวิงเวียนถ้ามอง ของให้เธอเพียงแค่ชื่นชมทัศนียภาพที่เห็นจากรถไฟเท่านั้น นี่คือวิถีของเรา ผู้โดยสารไม่จำเป็นต้องสงสัยใหร่รู้กับทางรถไฟ จะมีคนคอยดูแลเรื่องนี้ให้เอง พระพุทธองค์จะคอยดูแลเอง อย่างไรก็ตาม บางครั้งเราจะพยายามอธิบายถึงทางรถไฟสายนี้ เพราะอะไรก็ตามที่เหมือนเดิมไม่เป้ลี่ยนแปลง มักจะก่อเกิดความสงสัยใคร่รู้ เราจะสงสัยว่า เป็นไปได้อย่างไรที่พระโพธิสัตว์จะเป็นเหมือนเดิมตลอดเวลา อะไรคือความลับของพระองค์ แต่ไม่ความลับใดๆทั้งสิ้น ทุกคนมีธรรมชาติเหมือนกับทางรถไฟทั้งนั้น

เพื่อนรักสองคน โชเกอิและโฮฟูกุ คุยกันถึงวิถีของพระโพธิสัตว์ โชเกอิ บอกว่า แม้หากว่าพรุอรหันต์ ผู้รู้แจ้ง จะมีความปรารถนาที่ชั่วร้าย กระนั้นคำของตถาคต พระพุทธองค์ ก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่ได้เป็นสองอย่าง ฉันจะบอกว่าตถาคตพูด แต่คำพูดของพระองค์ไม่ได้เป็นทวิภาวะ

โฮฟูกุ กล่าวว่า แม้ท่านจะกล่าวเช่นนั้น แต่ความเห็นของท่านก็ไม่ถูกเสียทั้งหมด โชเกอิจึงถามว่า ท่านเข้าใจคำของตถาคตว่าอย่างไรเล่า และฟูกุกล่าวว่า เราถกกันมากพอแล้วมาดื่มชากันเถอะ โฮฟูกุไม่ได้ตอบสหายของเท่าน เพราะการตีความวิถีของเราด้วยคำพูดเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  คาสิโนออนไลน์ได้เงินจริง

ยืนยิ้มหน้ากระจกเงา หนึ่งในเทคนิคการถ่ายรูปกับกระจกให้น่าสนใจ

ยืนยิ้มหน้ากระจกเงา หนึ่งในเทคนิคการถ่ายรูปกับกระจกให้น่าสนใจ เทคนิคนี้จะคล้ายกับเทคนิคการถ่ายแบบลองเสื้อผ้าหน้ากระจกเลย เพียงแต่ การถ่ายแบบยืนยิ้มนั้นจะง่ายกว่ามากในหลายๆเรื่อง อย่างการถ่ายลองเสื้อต้องถ่ายเต็มตัวถึงจะน่าสนใจ หรือถ้าไม่เต็มตัวก็ต้องมีจุดสนใจบางอย่างเช่นการถ่ายแบบจัดทรงหมวกอะไรทำนองนี้ แล้วก็ทำให้ต้องตากล้องนั้นต้องถ่ายไกลสักหน่อยเพื่อให้กรอบพอดีกับกระจกทั้งตัวนั้น

ซึ่งก็จะทำให้เกิดความยุ่งยากในการจัดฉากต่างๆที่เป็นแบล็กกราวนั้นเอง แต่การถ่ายแบบยืนยิ้มนั้น จะมีความสนใจของภาพที่รอยยิ้มนั้น เพราะฉะนั้นการถ่ายเต็มตัวจะเป็นอะไรที่ลดจุดสนใจที่เป็นรอยยิ้มเกินไป

เพราะฉะนั้นถ่ายเพียงแค่ครึ่งตัวก็พอแล้วล่ะ นั้นทำให้การจัดกรอบภาพนั้นแคบลงเยอะเลย บางครั้งไม่จำเป็นต้องติดแบล็กกราวของห้องด้วยซ้ำไป แล้วนั้นแหละ ง่ายขึ้นเยอะเลย

ก่อนอื่นนั้นเราต้องหากระจกที่บานใหญ่สักหน่อย แต่ไม่จำเป็นต้องเต็มตัวอะไรนะ เราจะใช้ง่ายๆจากกระจกที่เราใช้แต่งตัว หรือกระจกห้องน้ำก็ได้ แต่กระจกบานนั้นก็ต้องดูสิ่งที่มันสะท้อนด้วย ถ้าฉากที่อยู่ตรงข้ามกระจกรก ก็จะทำให้ภาพไม่ส่วยเช่นกัน ต่อมาก็ ตัวแบบมายืนยิ้มได้เลย แต่งตัวสบายๆเหมือนอยู่บ้าน หรือจะเป็นแบบแต่งตัวกำลังออกไปเดทก็ได้นะ

เพราะการยืนยิ้มหน้ากระจกนั้นเราต้องการจะสื่อถึงความสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง เช่นการให้กำลังใจตัวเองที่อยู่บ้านด้วยเหตุอันใดก็ตาม หรือพยายามสร้างความมั่นใจก่อนไปออกเดทกับหนุ่มที่ชอบ หรือจะเป็นการสร้างความมั่นใจก่อนจะไปสำภาษณ์งาน นี่คือสิ่งที่เทคนิคนี้จะบอกในภาพ ต่อมาก็ไม่ยากเท่าไหร่ด้วยการใช้เทคนิคตากล้องเดิมๆ

นั้นคือยืนหลังแบบ เฉียงๆหน่อย แล้วก็จัดกรอบภาพโดยโฟกัสไปที่รอยยิ้มในกระจก แต่จะต้องติดหลังของตัวแบบที่กำลังยืนส่องกระจกด้วยนะ เป็นอะไรที่จะทำให้รอยยิ้มดูหน้าสนใจขึ้นไปอีก ส่วนการจัดกรอบส่วนแบล็กกราวนั้น ไม่ต้องให้ติดมากก็ได้หรือว่า ไม่ต้องติดเลยก็ได้ ขอเพียงให้เห็นแผ่นหลังของตัวแบบ กับรอยยิ้มที่สะท้อนของแบบในกระจกเท่านั้นพอ

ภาพแบบนี้ จะยิ่งดูหน้าสนใจถ้าเกิดว่าตัวแบบกำลังแต่ตัวอยู่บ้านแบบสบายๆ ติดเซ็กซี่นิดๆจะยิ่งยอดไปเลย แบบว่าใส่เสื้อกล้าม โชว์แผ่นหลังอะไรทำนองนี้ ก็เป็นอะไรที่ทำให้ภาพดูมีความน่ามองขึ้นอีกเยอะเลย แต่ว่าต้องระวังเรื่องเซ็กซี่เกินไปด้วยล่ะ เดี๋ยวจะโดนแบน

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  ทางเข้า ufabet มือถือ

Art ศิลปะกับการพัฒนา

Art ศิลปะกับการพัฒนา เมื่อพูดถึงศิลปะที่เป็นศาสตร์หนึ่งของสุนทรียศาสตร์แล้วนั้นเชื่อว่าทุกคนต้องเห็นถึงความสำคัญ แต่ว่าศิลปะนั้นมีความสำคัญขนาดไหนนั้นและเราจะสามารถส่งเสริมศิลปะให้กับเด็กอย่างไรเพื่อจะเป็นการพัฒนาและสนับสนุนในตัวเด็กคนนั้นๆ

ความเข้าใจที่สำคัญเกี่ยวกับศิลปะเราต้องมีความเชื่อว่าศิลปะนั้นเป็นหนึ่งในพัฒนาการของเด็ก เด็กจะต้องได้เรียนรู้และทำกิจกรรมศิลปะประหนึ่งว่าศิลปะนั้นคืออาหารชนิดหนึ่งที่จะต้องทานให้ครบห้าหมู่ ชีวิตเด็กต้องมีกิจกรรมที่เป็นกิจกรรมศิลปะเข้าไปอยู่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตนั่นเอง

เราคงได้ยินกันบ่อยๆในเรื่องสมองซีกซ้ายและสมองซีกขวา ซีกขวานั้นจะเป็นซีกของจินตนการซีกซ้ายจะเป็นเรื่องของความคิดที่เป็นตรรกะอะไรต่างๆ ถ้าเด็กจะพัฒนาอย่างสมบูรณ์ที่จะสามารถได้ใช้พลังสมองทั้งสองข้าง ศิลปะนั้นจำเป็นอย่างแน่นอน

ในระดับเด็กนั้นเอประกวดอะไรเราจะสามารถสู้ได้ไม่ว่าจะเป็นคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ โดยทั่วไปแล้วประเทศเรายังพัฒนาสู้ประเทศทางตะวันตกหรือญี่ปุ่นอะไรไม่ค่อยได้ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะว่าเราไม่ได้สงเสริมทางด้านศิลปะอย่างชัดเจน มีนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังระดับโลกได้พูดถึงจินตนาการและวิทยาศาสตร์ไว้อย่างชัดเจนว่า จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ เพราะเมื่อมีจินตนาการแล้วตัวจินตนาการนั้นสามารถนำไปสู่การค้นหาความรู้อื่นๆได้นั่นเอง ดังนั้นสิ่งที่ส่งเสริมที่ชัดเจนในเรื่องของจินตนาการนั้น ศิลปะจึงเป็นสิ่งที่มีบทบาทสำคัญมากๆ

ในบางครั้งเรามักจะได้ยินว่าศิลปะนั้นไม่มีขอบเขตแต่ในปัจจุบันพ่อแม่บางครั้งมีการสอนให้เด็กๆระบายสีหรือทำเรื่องเกี่ยวกับศิลปะให้อยู่ในขอบเขตเพราะมองว่าเป็นเรื่องความสวยงามทำให้เด็กๆถูกจำกัดในเรื่องของศิลปะนั่นเอง ดังนั้นต้องดูว่าพ่อแม่นั้นรู้จักศิลปะมากพ่อหรือยังถึงได้มีการกำหนดกฎเกณฑ์เด็กเช่นนั้น ต้ องดูว่าศิลปะในความเป็นจรองนั้นเป็นอย่างไรบ้างซึ่งปัจจุบันนี้ศิลปะมีหลากหลายชนิดมาก

หากยกตัวอย่างจากศิลปินระดับโลกเช่นปิกัสโซ่ เคยพูดไว้ว่า ในเด็กทุกคนนั้นมีความศิลปินอยู่ในตัวแต่ความยากคือว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ศิลปินนั้นยังคงอยู่ในตัวเด็ก โดยความเป็นศิลปะนั้นมีอยู่ในตัวของเด็กทุกคนอยู่แล้วและธรรมชาติในตัวเด็กและการที่ผู้ใหญ่มีความคิดแบบนั้นก็เป็นไปตามทฤษฎีที่ว่า ในเด็กนั้นจะมีความมั่นใจในเรื่องของสิลปะสูงสุดและเมื่อโตขึ้นมานั้นความมั่นใจในเรื่องศิลปะก็จะลดลงจนหมดเพราะเกิดจากการที่ผู้ใหญ่เอากรอบความคิดมาใสในตัวเด็กนั่นเอง

แต่ถ้าเด็กนั้นได้รับการส่งเสริมอย่างถูกวิธีแล้วนั้นได้รับความรู้ที่ถูกต้องในความเป็นจริงกับศิลปะนั้นซึ่งมีหลากหลายรูปแบบให้ตรงตามความต้องการของเด็ก เด็กก็จะมีการพัฒนาขึ้นไปจนสามารถเป็นศิลปินได้ในที่สุด

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย   เว็บบาคาร่าฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

การ์ตูนล้อเลียน

การ์ตูนล้อเลียน คืออะไรแล้วทำไมคนถึงสามารถนำบุคคลต่างๆมาล้อเลียนผ่านการ์ตูนได้อย่างสนุกสนานเศร้าเสียงหัวเราะและคอนเทนเนอร์ต่างให้กับโลกในยุคปัจจุบัน มีเพจชื่อดังมากมายที่มีชื่อเสียงมาได้เพราะการทำการ์ตูนล้อเลียนนักการเมืองต่างๆบุคคลในโลกออนไลน์ที่มีชื่อเสียงระดับหนึ่งการทำการ์ตูนล้อเลียนถือว่าเป็นการไม่ผิดกฎหมาย

เพราะไม่ได้ระบุตัวตนบุคคลอย่างชัดเจนมีการนำคาแรคเตอร์ต่างๆมาแปลงเพื่อให้บุคคลเหล่านั้นเข้าใจง่าย อาจจะถามว่าเพจไหนเป็นเพจการเมืองที่ดังที่สุดมีการ์ตูนล้อเลียนมากมายที่โลกออนไลน์ให้ความสนใจจากรัฐบาลก็ให้ความสนใจเองนั่นก็คือเพจไข่แมว ไข่แมวเป็นเพจแนวเสียดสีสังคมการเมืองเรื่องราวต่างๆ

ที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบันผ่านทางการ์ตูนที่มีคาแรคเตอร์ชัดเจนโดยที่ไม่บอกชื่อต่างๆแต่คนก็สามารถตีความได้ไปในทางทิศเดียวกันว่าเป็นคนนั้นคนนี้เพราะในโครงหน้าและหน้าตาต่างๆการกระทำคำพูดบ่งชี้แปลว่าเขาหมายถึงใคร ทั้งๆที่ไม่ได้เอ่ยชื่อหรือแม้แต่เขียนชื่อลงไปในนั้น การออกแบบตัวการ์ตูนเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับใครหลายคนที่เรียนทางด้านนี้มาแต่ส่วนใหญ่ที่ใช้การได้ก็คืออัตราส่วนหนึ่งต่อหนึ่งนั้นคือลำตัวหนึ่งส่วนและหัวมีอัตราส่วนที่เท่ากันยกตัวอย่างเช่นถ้าจะออกแบบใครสักคนที่มีขายแต่เด่นชัดที่เขามีโครงหน้าเป็นรูปสี่เหลี่ยมเราอาจจะลำตัวเขาขึ้นมาขนาด 10 cm แล้วอัตรา 1 ต่อ 1 ก็ต้องวาดหัว 10 เมตร

นี่จะทำให้มีลักษณะที่ออกมาได้ก็คือตัวเล็กและหัวใหญ่เป็นคาแรคเตอร์หน้าอย่างเด่นชัดและองค์ประกอบอื่นๆหากคุณใส่อย่างชัดเจนเช่นดวงตาหาคนนั้นเป็นคนที่ดวงตาเล็กคาแรคเตอร์นี้หน้าเหลี่ยมดวงตาเล็กและจมูกเขาใหญ่ป้าเขาก็ใหญ่เช่นกันหาคนอื่นมาเห็นคาแรคเตอร์ที่เด่นชัดขนาดนี้ก็คงจะบอกได้ว่าเป็นคาแรคเตอร์ของใครนี่คือส่วนหนึ่งที่ทำให้การออกแบบตัวละครมีความสำคัญอย่างมากกับหน้าจริง

ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมาใช้จะทำให้การออกแบบง่ายขึ้นเยอะมีคอร์สสอนนักเรียนมากมายในปัจจุบันที่สอนเกี่ยวกับการออกแบบตัวละครต่างๆไม่ว่าจะเป็นการนำมาใช้ในการทำอนิเมชั่นสื่อการเรียนการสอนต่างๆหรือแม้แต่การทำเกมหนึ่งในนั้นก็คือการเอาไปทำศิลปะเรียนศิลปะล้อเลียนจึงมีผลทางการเมืองอย่างมากเพราะไม่สามารถดำเนินคดีได้โดยตรงเพราะว่าไม่ได้หมายถึงใครคนใดคนหนึ่งแต่อย่างที่ทราบกันว่าคาแรคเตอร์เหล่านี้

บ่งบอกไปที่นักการเมืองต่างๆที่ถูกนำมาล้อเลียนในทุกๆวันในหนังสือพิมพ์ณปัจจุบันก็ยังมีการใช้ภาพล้อเลียนเป็นการ์ตูนเล่าเรื่องราวต่างๆผ่านการเขียนของนักเขียนมากมายและนำมาลงในหนังสือพิมพ์ประเภทต่างๆเพื่อนำไปใช้เช่นเดียวกันเพื่อสื่อสารให้คนรอบข้างรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเพื่อให้เข้าใจง่ายอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น 

 

ประโยชน์ของโลกศิลปะ

ประโยชน์ของโลกศิลปะ ศิลปะคืออะไร? สิ่งแรกที่ทุกคนมักจะนึกถึงนั้นก็คือ การวาดรูป ใช่แล้ว

ประโยชน์ของโลกศิลปะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนิยามคำว่าศิลปะ แล้วคุณทราบหรือไม่ว่าศิลปะนั้นได้ถูกแบ่งออกมาหลายประเภท อย่าง จิตรกรรม ปติมากรรม สถาปัตยกรรม วรรณกรรม ดนตรี นาฏกรรม ภาพยนตร์ ภาพถ่าย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นงานในด้านของศิลปะทั้งหมด นิยามของศิลปะคือ การได้แสดงออกอย่างอิสระ

การแสดงทางด้านความคิด จินตนาการ ศิลปะเปรียบเสมือนตัวแทนความรู้สึกของบุคคลผู้นั้นที่มีความต้องการอย่างจะถ่ายทอดความคิด ความรู้สึก ของตนเองออกมาผ่านผลงานศิลปะมากกว่าคำพูด

เพราะฉะนั้นแล้วหากใครต้องการที่จะฝึกความเข้าใจอะไรจากผู้อื่น ลองไปเสพผลงานศิลปะของบุคคลเหล่านั้นดูและลองแปลความหมาย คุณก็กลายเป็นคนสังเกตและเดาความคิดของผู้อื่นได้ แต่เอาล่ะ บทความนี้เราจะมาพูดถึงประโยชน์ของศิลปะที่นอกจากได้ความผ่อนคลายสบายใจแล้วนั้น ศิลปะยังช่วยด้านใดบ้าง

สมอง เมื่อได้ทำงานทางด้านศิลปะบ่อยๆ จะทำให้เรามีพัฒนาการทางสมองที่ดี มีจินตนาการมากขึ้นทุกๆครั้งที่คอยรังสรรค์ผลงาน เราจะมีความคิดริเริ่ม เป็นคนช่างสังเกต รู้จักคิด ไม่ว่าจะทำอะไรจะมีการวางแผนในการทำงาน เป็นคนละเอียดรอบคอบ

ร่างกาย เราจะสามารถใช้การสัมผัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ เรากลายเป็นคนที่รู้จักเลือก รู้จัดการตัดสินใจจากการได้สัมผัส ดูเป็น ฟังเป็น เพื่อให้เราได้หาสิ่งที่ดีที่สุดและมีคุณที่สุดสำหรับตัวเรา ในส่วนของกายนั้นก็คือกล้ามเนื้อ จะการพัฒนาทั้งกล้ามเนื้อมัดใหญ่และมัดเล็กให้เคลื่อนไหวอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงประสาทสัมพันธ์ของระหว่างตากับมือ ที่จะถูกพัฒนาให้มีความคล่องแคล่ว มีความสามารถในการทำงาน

อารมณ์ เราจะสามารถควบคุมอารมณ์จากความคิดเราได้ เมื่อเราตั้งใจทำอะไรสักอย่าง จะมีสมาธิมากขึ้น จดจ่อกับการทำงาน ไม่ลังเล ไม่วอกแวก มีสติไม่เลื่อนลอย มีความอดทน รับผิดชอบต่องานและหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย คุณจะกลายเป็นคนที่มีความคิดบวก สดใจ เบิกบาน

สังคม การได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น มีพัฒนาการในการเข้าหาบุคคลอื่นได้อย่างดีเยี่ยม รู้จักการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นอย่างสันติ ไม่เดือดร้อนผู้ใด คุณจะรู้จักการสร้างสัมพันธ์ไมตรีที่ดีต่อคนรอบข้าง เกิดการดูแล การเอาใจใส่ เข้าใจซึ่งกันและกัน 

ปัญญา ทำให้มีความสามารถทางด้านสติปัญญา ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ ได้เรียนรู้ของการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ การใช้หลักการและเหตุผลเป็นตัวสินใจ มีความคิดที่เป็นระบบ รู้จักสรุปความ ค้นหาสิ่งใหม่หรือความรู้ใหม่ให้กับตัวเอง ช่วยพัฒนาในเรื่องของความจำได้อีกด้วย สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดที่จะทำให้คุณรู้จักการการแก้ปัญหาได้ดีที่สุด

ภาษา ศิลปะอย่างที่ได้กล่าวไปคือมีหลากหลายประเภท หากคุณสนใจศิลปะแขนงใดแขนงหนึ่ง ในแขนงนั้นจะนิยามที่แตกต่างกันออกไป และมีศัพท์เฉพาะของศิลปะแขนงนั้น ซึ่งนั้นจะทำให้คุณได้ทราบถึงความหมายของศัพท์แต่ละอย่าง เป็นเปิดโลกที่จะทำให้เราได้เรียนรู้ภาษามากขึ้น

 

 

สนับสนุนโดย วิธีเล่นบาคาร่าให้รวย

ศิลปะของไทยที่เราควรรู้

ศิลปะของไทยที่เราควรรู้ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศิลปะ วัฒนธรรมประเพณีที่หลากหลาย

ศิลปะของไทยที่เราควรรู้ เป็นความพิเศษที่เราสามารถรวบรวมและผสมผสานศิลปะวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว ประเทศไทยเป็นที่ถูกถ่ายทอดและได้รับอิทธิพลทางศิลปะและวัฒนธรรมจากหลายๆที่ เพราะในสมัยก่อน ก่อนที่จะถูกแบ่งแยกออกเป็นประเทศเช่นทุกวันนี้

ดินแดนแห่งนี้พื้นที่ที่เป็นสยามประเทศและมีการสืบค้นได้ตั้งแต่กรุงศรีสมัยอยุธยา แต่ก่อนเป็นพื้นแห่งนี้เป็นพื้นที่ที่มีการซื้อขายและแลกเปลี่ยนสินค้าจากคนหลายๆชาติ ผู้คนที่อพยพเคลื่อนย้ายเข้ามาอาศัย บริเวณแห่ง ก็เป็นคนที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์และสิ่งที่ติดตามมากับผู้คนนั่นก็คือ ศิลปะ วัฒนธรรมและประเพณีต่างๆ ที่หล่อหลอมมาเป็นศิลปะ วัฒนธรรมประเพณีที่มีเอกลักษณ์อย่างไทยในทุกวันนี้

จิตรกรรมฝาผนังถือเป็นศิลปะที่เราสามารถพบได้ตามวัดวาอารามทั่วไปในประเทศไทย

เป็นลวดลายที่ทั้งวิจิตรและงดงาม อีกทั้งศิลปะเหล่านี้ยังเป็นสถานที่ที่บอกเล่าบรรยายถึงเรื่องราวเหตุการณ์สำคัญ วิถีชีวิตของผู้คนและบ้านเมืองในสมัยก่อน หรือแม้แต่เล่าถึงวรรณคดีต่างๆ ผ่านทางภาพวาดบนฝนผนัง ถือว่าเป็นการบอกเล่าเรื่องราวผ่านทางภาพวาดได้อย่างวิจิตรงดงาม

ลวดลายต่างๆที่ปรากฏนอกจาดบนฝาผนังนั้นล้วนมีพื้นฐานมาจากการวาดแบบเดียวกัน

และลวดลายที่แสดงถึงความเป็นไทยได้อย่างมีเอกลักษณ์นั่นก็คือลายกระหนกลายกระหนกซึ่งถือเป็นลายพื้นฐานที่สำคัญมากในงานจิตรกรรมของไทย ลายวาดแบบไทยนั่นมีแรงบันดาลใจส่วนใหญ่มาจากธรรมชาติ ได้แก่ ดอกบัว ดอกมะลิ ดอกชัยพฤกษ์ ใบฝ้ายเทศ ผักกูด ตาอ้อย เถาวัลย์ กาบไผ่ เปลวไฟ ฯลฯ 

ลายกระหนกมีต้นแบบมาจากหางไหลของเปลวไฟซึ่งเป็นลายแม่แบบ มีลายกระหนกที่สำคัญด้วยกันหลายลาย ได้แก่ กระหนกสามตัว กระหนกเปลว กระหนกใบเทศ กระหนกผักกูด กระหนกกอ เป็นต้น และประเภทของลายกระหนกก็ถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภทด้วยกัน

ซึ่งถูกแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ๆได้ดังนี้คือ กระหนกเปลว กระหนกใบเทศ กระหนกผักกูด กระหนกนารี กระหนกหางหงษ์ กระหนกลายนาค กระหนกลายช่อต่างๆ ซึ่งลวดลายกระหนกทั้งหลายเป็นลายสำหรับคนที่กำลังจะฝึกวาดลายไทย ควรที่จะศึกษาและทำเรียนรู้เอาไว้เพื่อที่การพื้นฐานในการวาดภาพและลวดลายอื่นๆอีกต่อไป

 

งานวาดเส้น ลายไทยและจิตรกรรมไทย

นั่นถือว่ามีความเป็นเอกลักษณ์ที่เด่นชัดทางศิลปปปปะที่ถูกสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน เป็นมรดกทางศิลปะที่ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ลวดลายไทยเป็นลวดลายที่เกิดจากสังเกตุความงามที่มาจากธรรมชาติและดัดแปลงมาเป็นลายวาดที่สวยงามได้อย่างลตัว ถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและควรค่าแก่การอนุรักษ์เอาไว้

เพราะลวดลายเหล่านี้เกิดภูมิปัญญาของบรรพชนที่รังสรรค์ผลงานเหล่านี้ไว้อย่างวิจิตรงดงาม อีกทั้งยังถือเป็นศิลปะชั้นสูงที่มักจะถูกวาดขึ้นเพื่อประดับตกแต่ง อยู่ในวัด พระราชวัง ซึ่งเป็นสถานที่ที่คนไทยให้ความเคารพและศรัทธา ดังนั้นศิลปะเหล่านี้จึงถูกยกย่องว่าเป็นศิลปะชั้นสูง ทรงคุณค่าและควรรักษาให้ดำรงอยู่ไว้นานสืบนาน 

 

Kodak Colorplus หนึ่งในฟิล์มที่มือใหม่ควรหามาลอง

Kodak Colorplus หนึ่งในฟิล์มที่มือใหม่ควรหามาลอง ฟิล์มสุดยอดคลาสสิคอีกตัวที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ แล้วก็ยังมีการผลิตอยู่เรื่อยๆ แล้วน่าจะถือว่าเป็นฟิล์มที่ราคาถูกที่สุดในท้องตลอดแล้วล่ะ

ดังนั้นฟิล์มรุ่นนี้ถือว่าเป็นฟิล์มที่เหล่ามือใหม่หัดถ่ายฟิล์มควรหามาลองหามาเล่นด้วย

จะได้ไม่ต้องรู้สึกเสียดายกับการฝึกถ่ายแล้วได้ภาพเสียๆ ซึ่งเป็นฟิล์มที่มีระดับค่าความไวแสงหรือ ISO อยู่ที่ 200 ซี่งเป็นระดับที่มาตรฐานมากๆแล้วก็ยังราคาไม่แพง แล้วจำนวนรูปที่ได้ก็เป็นปกติที่ 36+ รูป เพราะฉนั้นจึงคุ้มค่ากับราคาอย่างมาก

อย่างที่เรารู้กันว่าฟิล์มที่มีค่าความไวแสงที่เป็นมาตรฐานที่ 200 นี้ก็ควรจะใช้ถ่ายกับสภาพแสงที่พอเหมาะพอเจาะ อย่างเอาไปถ่ายที่มืดเกินไป เพราะว่าภาพจะเสียอย่างแน่นอน

ถ้าจะใช้ถ่ายจริงๆก็ควรจะใช้ขาตั้งกล้อง หรือไม่ก็ติดแฟลชไปเลย เอกลักษณ์ของฟิล์มตัวนี้คือภาพที่ได้จะออกติดโทนเหลืองนิดหน่อยนั้นทำให้เป็นสิ่งที่เหล่านักเล่นฟิล์มจดจำสีตามกล่องของมันที่เป็นสีเหลือง

ซึ่งใครที่ไม่ชอบภาพติดเหลืองก็จะไม่ชอบไปเลย แต่อย่างผมนี่ชอบมากๆ

แล้วเมื่อมันเป็นฟิล์มที่ราคาถูก เพราะฉนั้นเรื่องเกรนแล้วก็รายละเอียดนั้นก็จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าอยู่ในขั้นรับได้ ฟิล์มนี้ถ้าจะให้เทียบแล้วละก็ต้องบอกเลยว่าเป็นฟิล์มสามัญประจำบ้านเลยก็ว่าได้ ถ้าออกไปถ่ายเล่นโดยไม่เป็นการเป็นงานแล้วก็ หยิบตัวนี้ไปได้เลยไม่ผิดหวังแน่นอน

ถ้าจะให้บอกว่าฟิล์มนี้คุ้มค่าแค่ไหน ก็ต้องขึ้นอยู่ว่าได้ฟิล์มนี้มาในราคาเท่าไหร่ ซึ่งผมได้มีโอกาสเริ่มเล่นฟิล์มตัวนี้ตอนที่ราคาเพียง 90 บาท แต่ตอนนี้ก็ขึ้นเอาๆไปเกือบเท่าตัวแล้ว ผมก็คิดว่าผมคงจะเลิกใช้มันแล้วไปใช้ตัวที่มีรายละเอียดที่ดีกว่าแต่ราคายังไม่ขึ้นนัก ฟิล์มนี้ไม่ต้องไปคิดมากว่าควรเอาไปถ่ายกับอะไร มันคือฟิล์มราคาประหยัดที่จะเอาไปถ่ายกับอะไรก็ได้ ไม่ต้องซีเรียสมาก

 

สนับสนุนข้อความโดย แทงมวยสด

ลักษณะงานศิลปะของไทย

ลักษณะงานศิลปะของไทย มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจน

ลักษณะงานศิลปะของไทย หรือแม้อาจจะมีความคล้ายคลึงกันมากแค่ไหนก็จะมีจุดโดดเด่นออกมา ที่จะสามารถชี้ได้ว่างานแบบไหนเป็นลักษณะใด และที่ว่างานบางประเภทที่มีความเหมือนกันนั้นเพราะศิลปะคือวัฒนธรรมที่ถูกเผยแพร่ไปยังหลายๆที่ เช่นเดียวกันกับศิลปะของไทย

ที่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศอื่นๆ แต่ก็ได้นำมาประยุกต์ พัฒนารูปแบบ ให้เป็นเอกลักษณ์ของศิลปะแบบไทยที่สร้างความแตกต่างจากของต่างชาติอย่างประเทศในแถบตะวันตกอย่างสิ้นเชิง แต่จะมีอะไรบ้างที่มีข้อแตกต่าง? ไปดูกัน

1.ไม่เน้นสร้างให้เหมือนจริงจากธรรมชาติ

เพราะศิลปะทางตะวันตกรังสรรค์โดยธรรมชาตินิยม หรือ ศิลปะเสมือนจริง ซึ่งมีความแตกต่างจากของไทยตรงที่ของไทยเรานั้นจะเป็นการดัดแปลงจากธรรมชาติไปตามคตินิยม

จัดเป็นศิลปะที่มีอุดมคติ หรือ ศิลปะประเพณี ชิ้นงานจะถูกรังสรรค์ขึ้นจากการใช้ปรัชญา อย่างเช่น ความเชื่อที่ต่อการมีอยู่จริงของสวรรค์และนรก ทำให้ต้องกำหนดแบบแผนขึ้นที่ว่าแบบครู อย่างเช่น เทพ เทวดา มนุษย์ สัตว์ รวมถึงธรรมชาติก็จะเป็นแบบที่สามารถกำหนดขึ้นมาเองได้

2.แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ

ธรรมชาติไม่ศิลปะ แต่เป็นสิ่งกระตุ้น เป็นแรงบันดาลใจ ที่ทำให้พึ่งพอใจในความสวยงามที่ถูกสร้างขึ้นโดยไม่มีใครควบคุม การมองความสวยของธรรมชาติ จะถูกถ่ายออกมาได้หลากหลายรูปแบบ หากสังเกตเห็นลวดลาดการวาดการแกะสลักของไทยนั้นส่วนใหญ่ก็ได้แนวคิดมาจากธรรมชาติอย่าง ดอกไม้ ต้นไม้ สัตว์

รวมไปถึงสัตว์ในวรรณคดีจะเห็นได้ว่าสัตว์แต่ละชนิดมีความสัตว์ที่เราเห็นได้ทั่วไปแต่ถูกผสมผสานไปด้วยจินตนาการที่หลากหลายจึงทำให้กลายเป็นเอกลักษณ์ศิลปะของไทย

3.อิทธิพลจากความเชื่อทางศาสนาและไสยศาสตร์

ในความเชื่อทางศาสนา คนไทยส่วนใหญ่เดิมทีนับถือศาสนาพุทธ นิกายหินยานเป็นหลักและผสมผสานกับความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ ศูนย์กลางของสังคมไทยแต่โบราณคือ วัด เป็นสถานที่ที่รวบรวมศิลปะของไทยไว้ทุกแขนงอย่าง

ผังของศาสนสถาน การสร้างพระพุทธรูป ฯลฯ อีกแนวความเชื่อของยุคสมัยก่อนคือ ไสยศาสตร์ ความเชื่อนี้ถูกสร้างขึ้นก่อนจะที่เปลี่ยนไปนับถือศาสนาพุทธ เป็นความเชื่อในสิ่งลี่ลับ เหนือธรรมชาติอย่าง ภูต ผี ปีศาจ วิญญาณ ที่ให้ทั้งคุณและโทษ มีสร้างพิธีกรรมขึ้นมาให้ดูน่าเชื่อถือ และเอาสิ่งชนะเหล่านั้นเช่น การสักยันต์ เป็นต้น

ศิลปะของไทยนั้นมีความสวยงาม ที่ให้ความรู้สึกถึงความอ่อนช้อย นุ่มนวม ประณีต

ซึ่งลักษณะเหล่านี้เป็นเอกลักษณ์ของศิลปะแบบไทยที่เป็นชาติเสรี รักอิสระ แสดงให้เห็นถึงอุปนิสัยของคนไทยที่รังสรรค์ชิ้นงานขึ้น ศิลปะของไทยจึงมีการวางแบบแผนวิธีทำและลักษณะต่างๆ ให้เป็นแบบแผนที่ชัดเจนและแน่นอนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

 

ขอบคุณที่มาของบทความ แทงบอลไม่มีขั้นต่ำ

ตัวอักษร หนึ่งในองค์ประกอบพื้นฐานของการออกแบบ

ตัวอักษร หนึ่งในองค์ประกอบพื้นฐานของการออกแบบ เรื่องนี้วงการการออกแบบของประเทศเราเพิ่งให้ความสำคัญอย่างแพร่หลาย

ตัวอักษร หนึ่งในองค์ประกอบพื้นฐานของการออกแบบ ไม่นานมากนักลองนึกภาพสมัยก่อนที่ไม่ว่าจะธุรกิจใดหรือร้านค้าหรือว่าอะไรก็ตาม ไม่ค่อยได้คิดเรื่องการใช้ตัวอักษรมากนัก

ก็จะใช้อักษรแบบไม่ค่อยเข้ากับธุรกิจของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ แต่นั้นก็อาจไม่ได้มีผลกระทบมากนัก เพราะการแข่งขันไม่ได้สูงเท่าสมัยนี้ เพราะอย่างนั้นภาพลักษณ์ของแบรนด์สมัยก่อนก็ยังไม่ค่อยมีผลเท่ากับสมัยนี้

 

สมัยนี้นั้นการแข่งขันของธุรกิจแต่ละประเภทสูงมากๆ ผู้บริโภคหลายๆคนตัดสินใจจากการเห็นครั้งแรกว่าสะดุดตาพอให้เข้าไปดูไหม แล้วเมื่อเกินสิ่งนี้ขึ้นการตลาดสมัยใหม่ก็ได้ให้ความสำคัญกับคำว่า First Impression นั้นเอง

จึงต้องทำภาพลักษณ์ให้ดูสวยงามสะดุดตา แล้วก็นำเสนอถึงตัวตนธุรกิจให้ได้มากที่สุด แล้วเรื่องตัวอักษรนี้ก็เป็นหนึ่งในเรื่องนี้อย่างมากเรื่องหนึ่ง

การตัดสินใจใช้ตัวอักษรนั้น

ส่วนมากแล้วนักออกแบบจะต้องคำนึงถึงความเหมาะสมกับธุรกิจของตัวเองให้ได้ ถ้าเป็นสินค้าแบบไทยๆ แล้วต้องการแสดงถึงความเป็นไทย ก็ต้องใช้ฟ้อนที่ดูไทยๆแล้วนำเสนอความเป็นไทยได้ดีนั้นเอง

หรือต้องการทำร้านกาแฟสไตล์ loft ก็ต้องใช้ตัวอักษรที่ดูเรียบง่าย ไม่เยอะจนเกินไป ไม่มีหัวเลยก็ดีเป็นทางทีดี เป็นต้น

 

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

ตัวอังษรนั้นสมัยนี้ถึงกับเป็นสาขาวิชาเรียนของการออกแบบเลยด้วยซ้ำไป เพราะมันเป็นเรื่องสำคัญทางการตลาดมากจริงๆ

การที่จะจ้างนักออกแบบมาออกแบบตัวอักษรก็ใช้เงินมากโขเลยทีเดียว แต่ในยุคนี้ที่มีคนสร้างแบบตัวอักษรออกมาอย่างมากมาย ไม่ต้องคิดเองให้เสียเงินเสียทองมากมาย

แต่เหล่านักออกแบบก็ต้องค้นคว้าพอสมควรในการนำแบบตัวอักษรที่มีมากมายในอินเตอร์เน็ต

 

ทั้งแบบฟรีแล้วก็เสียเงิน ว่าให้ตรงกับภาพลักษณ์ของธุรกิจนั้นๆ ต่อให้เป็นงานออกแบบเชิงนิตรสารก็ต้องเลือกตัวอักษรในแต่ละส่วนของหนังสือหนึ่งเลมให้ดีเช่นกัน เพื่อเป็นการสร้างความน่าอ่านให้กับผู้อ่านอีกด้วย ตัวอักษรนั้นช่างสำคัญมากนักในยุคนี้ ดังนั้นนักออกแบบก็ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด