เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ชี้ไม่มีใครหยุด ลิเวอร์พูล ได้แล้วหลังโดนทิ้งห่าง 22 แต้ม

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า  ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้คงจบลงแล้ว หลังจากที่ทีมของเขาพลาดท่าบุกไปแพ้ให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 0-2 ส่งผลให้แต้มตามหลัง ลิเวอร์พูล จ่าฝูงถึง 22 คะแนน และย้ำว่าไม่มีทีมไหนที่จะหยุดความร้อนแรงของ ลิเวอร์พูล ได้ในเวลานี้  

 

แม้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเริ่มต้นฤดูกาลด้วยการถูกมองว่าเป็นทีมเต็งแชมป์อีกครั้ง หลังจากคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 ฤดูกาลติดต่อกัน แต่เส้นทางในฤดูกาลนี้กลับไม่เป็นอย่างที่คาดไว้ ความพ่ายแพ้หลายครั้งและฟอร์มการเล่นที่ไม่สม่ำเสมอ

ทำให้ทีมของ เป๊ป ถูก ลิเวอร์พูล ฉีกหนีไปแบบไม่เห็นฝุ่น การแพ้ต่อ สเปอร์ส ครั้งล่าสุดยิ่งตอกย้ำว่าการไล่ตามให้ทันในช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาลคงเป็นไปได้ยาก  

 

นอกจากจะยกย่องฟอร์มการเล่นของ ลิเวอร์พูล แล้ว เป๊ป ยังเน้นย้ำว่าทีมของเขาจะต้องโฟกัสกับการทำผลงานให้ดีที่สุดในทุกเกมที่เหลือ และเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันในรายการอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือ เอฟเอ คัพ ซึ่งยังคงมีโอกาสประสบความสำเร็จอยู่  

 

สิ่งที่ทำให้ความสำเร็จของ ลิเวอร์พูล โดดเด่นในฤดูกาลนี้คือความสม่ำเสมอ พวกเขาเก็บชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง และเสียแต้มไปเพียงไม่กี่นัดเท่านั้น

การเล่นเกมรุกที่ดุดันผสมผสานกับเกมรับที่เหนียวแน่นภายใต้การนำของ เจอร์เก้น คล็อปป์  ทำให้ทีมนี้แทบไร้จุดอ่อน ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้จะยังคงมีสไตล์การเล่นที่เน้นการครองบอลและเกมรุกเช่นเดิม แต่จุดอ่อนในเกมรับ รวมถึงปัญหาอาการบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลักหลายคน เช่น อายเมริค ลาปอร์กต์ และ ลีรอย ซาเน่  ส่งผลกระทบต่อผลงานของทีมอย่างชัดเจน  

 

ความพ่ายแพ้ต่อ สเปอร์ส ไม่ใช่แค่การเสียสามแต้มธรรมดา แต่มันเป็นเหมือนสัญญาณเตือนว่าซีซั่นนี้คงเป็นช่วงเวลาที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ต้องยอมรับความเป็นจริงและมองไปข้างหน้า เป๊ป เน้นว่าการสร้างทีมให้กลับมาแข็งแกร่งในฤดูกาลหน้าคือเป้าหมายสำคัญ โดยเฉพาะการเสริมทัพเพื่อแก้ไขจุดอ่อนในแนวรับที่ทำให้ทีมเสียประตูง่ายเกินไป  

 

แม้จะยอมรับว่าโอกาสป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกในปีนี้คงหมดลงแล้ว แต่แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างยังคงเชื่อมั่นในฝีมือของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ว่าเขาจะพาทีมกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง สำหรับตอนนี้สิ่งสำคัญคือการรักษาความสม่ำเสมอในช่วงที่เหลือของฤดูกาล และพยายามคว้าถ้วยแชมป์จากรายการอื่นให้ได้  

ส่วนทางด้าน ลิเวอร์พูล การนำห่างถึง 22 แต้ม ถือเป็นช่องว่างที่แทบจะรับประกันได้ว่าพวกเขาจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปีได้สำเร็จ หากไม่มีเหตุการณ์พลิกล็อกอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังฟรี