
หากลูกติดเกมแล้ว ทำอย่างไรดี?
การเล่นเกมเป็นกิจกรรมที่ให้ความสนุกและช่วยพัฒนาทักษะของเด็กและวัยรุ่น เช่น การแก้ปัญหา ความคิดสร้างสรรค์ และการทำงานเป็นทีม แต่เมื่อการเล่นเกมกลายเป็นการติดเกม (Gaming Addiction) ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน พ่อแม่ควรรีบหาวิธีแก้ไขก่อนที่จะเกิดปัญหาร้ายแรง
หากพบว่าลูกติดเกมแล้ว พ่อแม่ควรใช้วิธีการที่มีประสิทธิภาพและไม่ใช้การบังคับหรือดุด่า เพราะอาจทำให้ลูกต่อต้านและยิ่งติดเกมหนักขึ้น เรามาดูแนวทางแก้ไขที่ได้ผลกัน
- เข้าใจและเปิดใจรับฟังลูกก่อน
- อย่าดุด่าหรือลงโทษรุนแรง เพราะอาจทำให้ลูกรู้สึกว่าพ่อแม่ไม่เข้าใจ
- ลองถามลูกว่า ทำไมถึงชอบเล่นเกม? เกมมีอะไรที่ดึงดูดลูก?
- ทำความเข้าใจว่าเกมเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตวัยรุ่น และพ่อแม่ต้องหาทางช่วยให้ลูกเล่นเกมอย่างเหมาะสม
- ตั้งกฎการเล่นเกมที่ชัดเจน
- กำหนดเวลาการเล่น เช่น ไม่เกิน **1-2 ชั่วโมงต่อวัน** หรืออนุญาตให้เล่นเฉพาะวันหยุด
- ห้ามเล่นเกมก่อนทำการบ้านเสร็จ หรือก่อนนอนเพราะอาจรบกวนการพักผ่อน
- หากลูกไม่ปฏิบัติตามกฎ อาจมีบทลงโทษที่เหมาะสม เช่น ลดเวลาการเล่นเกม หรือให้งดเล่นเกมในบางวัน
- กระตุ้นให้ลูกทำกิจกรรมอื่น ๆ
- ส่งเสริมให้ลูกทำกิจกรรมที่สนุกและมีประโยชน์ เช่น กีฬา ดนตรี วาดภาพ หรืออ่านหนังสือ
- หากิจกรรมที่ลูกสนใจแทนการเล่นเกม เช่น การเข้าร่วมชมรมในโรงเรียน
- จัดกิจกรรมครอบครัว เช่น ไปเที่ยว ดูหนัง ทำอาหารร่วมกัน เพื่อให้ลูกใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
- ควบคุมการใช้เงินในเกม
- ตั้งกฎว่าลูกต้องได้รับอนุญาตก่อนเติมเงินในเกม
- อธิบายเรื่องคุณค่าของเงิน และสอนให้ลูกรู้จักการบริหารเงิน
- หากลูกเคยใช้เงินไปกับเกมโดยไม่บอก ควรให้ลูกรับผิดชอบ เช่น ทำงานบ้านเพื่อชดใช้เงินที่ใช้ไป
- ตรวจสอบเนื้อหาและพฤติกรรมในเกม
- ดูว่าเกมที่ลูกเล่นมีเนื้อหาที่เหมาะสมกับวัยหรือไม่
- ตรวจสอบว่าลูกสื่อสารกับใครบ้างในเกม เพื่อป้องกัน Cyberbullying และภัยจากคนแปลกหน้า
- ใช้ฟีเจอร์ Parental Control ในแพลตฟอร์มเกมเพื่อจำกัดการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม
- ค่อย ๆ ลดเวลาเล่นเกมอย่างเป็นระบบ
- อย่าบังคับให้ลูกเลิกเล่นเกมทันที เพราะอาจทำให้เกิดภาวะหงุดหงิดและต่อต้าน
- ค่อย ๆ ลดเวลาการเล่น เช่น จาก **3 ชั่วโมงเหลือ 2 ชั่วโมง แล้วลดลงเรื่อย ๆ**
- สร้างตารางเวลาที่สมดุล เช่น เล่นเกมหลังจากทำกิจกรรมอื่นเสร็จ
- เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็น
- พ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างในการใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม
- หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์หรือแท็บเล็ตตลอดเวลาเมื่ออยู่กับลูก
- หากพ่อแม่ชอบเล่นเกม ก็ควรแสดงให้ลูกเห็นว่าการเล่นเกมอย่างพอดีเป็นสิ่งที่ทำได้
- ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญหากจำเป็น
- หากลูกมีอาการติดเกมรุนแรง เช่น ละเลยการเรียน ขาดความรับผิดชอบ หรือมีพฤติกรรมก้าวร้าว ควรปรึกษานักจิตวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญ
- สถาบันบางแห่งมีโปรแกรมบำบัดสำหรับเด็กที่ติดเกม เช่น การบำบัดพฤติกรรมและการฝึกสมาธิ
ได้รับการสนับสนุนโดย Hoiana