grandprixactual (1)
Search
Close this search box.

Tag: เรื่องที่น่าสนใจ

ตายแล้วไปไหน

ตายแล้วไปไหน สำหรับเรื่องนี้ก็ยังเป็นที่สงสัยของใครหลายๆคนต่างก็พากันสงสัยอยากรู้ว่าเวลาคนเรานั้นตายไปแล้วจะไปไหนซึ่งก็ยังไม่มีข้อที่แท้จริงและวันนี้เราจะมาบอกให้ใครหลายๆคนได้เข้าใจไปตามกัน

เรื่องนี้มีคุณสิริได้เล่าเอาไว้และมีท่านศาสตร์ตราจารย์และคนอื่นๆ

อีกหนึ่งคนได้บันทึกรวบรวมเอาไว้คุณสิริเล่าว่าเวลานั้นอายุได้เพียง19ปีติดตามพี่สาวไปอยู่อำเภอชนบทแห่งหนึ่งทางภาคอีสานวันสำคัญที่ทำให้ท่านได้รับรู้ว่าตายแล้วไปไหนนั้นเริ่มด้วยจากอาการปวดฟันกามเมื่อความปวดเพิ่มขึ้นคุณสิริก็ได้ไปหาหมอฟันอยู่ในตลาดเป็นชาวจีนหมอทำฟันก็จัดแจงถอนฟันกามซี่นั้นออกให้

จากนั้นคุณสิริก็ขึ้นสามล้อกลับบ้านพักถึงบ้านก็น่าจะประมาณ10นาฬิกาอาการปวดฟันกามก็ยังมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นแต่มีความรู้สึดว่าง่วงนอนเป็นอย่างมากก็ได้เข้าไปในห้องนอนตัวเองแล้วก็ได้ล่มตัวลงนอนที่นอนตัวเองจากนั้นได้เกิดความรู้สึดอยู่อย่างหนึ่งมันเหมือนกับมีอะไรบ้างอย่างวิ่งขึ้นมาจากปลายมือปลายเท้าวิ่งตรงเข้ามาตรงที่หัวใจวินาทีนั้นความรู้สึกทั้งหมดก็ได้ดับหายไปไม่มีความรับรู้อะไรอีกทั้งสิ้น

คุณสิริยังไม่รู้ว่าตัวเองนั้นได้ตายไปแล้วภาวะหลังจากที่สิ้นใจนั้นเป็นอะไรที่บอกได้อย่างถูกต้องรู้แต่เพียงว่าตัวเองนอนอยู่แล้วก็มีผู้ชายสองคนมาปลุกให้ตื่นคนหนึ่งยืนอยู่บนศรีษะอีกคนหนึ่งยืนอยู่ปลายเท้าคนที่อยู่บนศรีษะมีครบเพลินทำด้วยทองเหลืองถืออยู่ในมือทั้งสองคนมีผิวกายสีดำคนที่ยืนอยู่ปลายเท้าเป็นคนปลุกคุณสิริให้ตื่น

แล้วก็บอกว่าไปกันเถอะคุณสิริเหมือนกับว่าพึ่งตื่นนอนได้ยินชายผิวดำซึ่งยืนอยู่ด้านปลายเท้าชวนให้ไปก็เกิดสงสัยถามว่าจะไปไหนไปด้วยกันก็แล้วกันคุณสิริก็ลุกขึ้นไปอย่างดีไม่มีความรู้สึดขัดอะไรชายที่อยู่บนศรีษะบอกให้พาสิริไปคนเดียวส่วนเขาจะแยกไปอีกทางคุณสิริจำได้เป็นทางเดินออกจากป่าโป่งก็ได้เดินตามไปจนเห็นภูมิภาคอื่นเป็นหาดทรายมีน้ำสะอาดน่าแอบและก็ได้พบกับกำแพงสูงใหญ่และได้เดินเข้าไปก็พบเห็นดอกบัวขึ้นสวยเต็มไปหมด

จากนั้นก็มีศาลามีพระนั่งอยู่เหนือธรรมมาสกำลังเทศนาธรรมมีชายหญิงนั่งฟังอยู่ไม่กี่คนส่วนใหญ่จะเป็นคนชราคุณก็หยุดเดินยกมือไหว้รำลึกถือพุทธคุณธรรมคุณสังฆคุณจากนั้นก็ได้เดินผ่านประตูเข้าไปอีกชั้นหนึ่ง

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  เว็บพนันบอลฝากขั้นต่ำ 100

ประโยชน์ของโลกศิลปะ

ประโยชน์ของโลกศิลปะ ศิลปะคืออะไร? สิ่งแรกที่ทุกคนมักจะนึกถึงนั้นก็คือ การวาดรูป ใช่แล้ว

ประโยชน์ของโลกศิลปะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนิยามคำว่าศิลปะ แล้วคุณทราบหรือไม่ว่าศิลปะนั้นได้ถูกแบ่งออกมาหลายประเภท อย่าง จิตรกรรม ปติมากรรม สถาปัตยกรรม วรรณกรรม ดนตรี นาฏกรรม ภาพยนตร์ ภาพถ่าย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นงานในด้านของศิลปะทั้งหมด นิยามของศิลปะคือ การได้แสดงออกอย่างอิสระ

การแสดงทางด้านความคิด จินตนาการ ศิลปะเปรียบเสมือนตัวแทนความรู้สึกของบุคคลผู้นั้นที่มีความต้องการอย่างจะถ่ายทอดความคิด ความรู้สึก ของตนเองออกมาผ่านผลงานศิลปะมากกว่าคำพูด

เพราะฉะนั้นแล้วหากใครต้องการที่จะฝึกความเข้าใจอะไรจากผู้อื่น ลองไปเสพผลงานศิลปะของบุคคลเหล่านั้นดูและลองแปลความหมาย คุณก็กลายเป็นคนสังเกตและเดาความคิดของผู้อื่นได้ แต่เอาล่ะ บทความนี้เราจะมาพูดถึงประโยชน์ของศิลปะที่นอกจากได้ความผ่อนคลายสบายใจแล้วนั้น ศิลปะยังช่วยด้านใดบ้าง

สมอง เมื่อได้ทำงานทางด้านศิลปะบ่อยๆ จะทำให้เรามีพัฒนาการทางสมองที่ดี มีจินตนาการมากขึ้นทุกๆครั้งที่คอยรังสรรค์ผลงาน เราจะมีความคิดริเริ่ม เป็นคนช่างสังเกต รู้จักคิด ไม่ว่าจะทำอะไรจะมีการวางแผนในการทำงาน เป็นคนละเอียดรอบคอบ

ร่างกาย เราจะสามารถใช้การสัมผัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ เรากลายเป็นคนที่รู้จักเลือก รู้จัดการตัดสินใจจากการได้สัมผัส ดูเป็น ฟังเป็น เพื่อให้เราได้หาสิ่งที่ดีที่สุดและมีคุณที่สุดสำหรับตัวเรา ในส่วนของกายนั้นก็คือกล้ามเนื้อ จะการพัฒนาทั้งกล้ามเนื้อมัดใหญ่และมัดเล็กให้เคลื่อนไหวอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงประสาทสัมพันธ์ของระหว่างตากับมือ ที่จะถูกพัฒนาให้มีความคล่องแคล่ว มีความสามารถในการทำงาน

อารมณ์ เราจะสามารถควบคุมอารมณ์จากความคิดเราได้ เมื่อเราตั้งใจทำอะไรสักอย่าง จะมีสมาธิมากขึ้น จดจ่อกับการทำงาน ไม่ลังเล ไม่วอกแวก มีสติไม่เลื่อนลอย มีความอดทน รับผิดชอบต่องานและหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย คุณจะกลายเป็นคนที่มีความคิดบวก สดใจ เบิกบาน

สังคม การได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่น มีพัฒนาการในการเข้าหาบุคคลอื่นได้อย่างดีเยี่ยม รู้จักการอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นอย่างสันติ ไม่เดือดร้อนผู้ใด คุณจะรู้จักการสร้างสัมพันธ์ไมตรีที่ดีต่อคนรอบข้าง เกิดการดูแล การเอาใจใส่ เข้าใจซึ่งกันและกัน 

ปัญญา ทำให้มีความสามารถทางด้านสติปัญญา ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ ได้เรียนรู้ของการคิด วิเคราะห์ แยกแยะ การใช้หลักการและเหตุผลเป็นตัวสินใจ มีความคิดที่เป็นระบบ รู้จักสรุปความ ค้นหาสิ่งใหม่หรือความรู้ใหม่ให้กับตัวเอง ช่วยพัฒนาในเรื่องของความจำได้อีกด้วย สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดที่จะทำให้คุณรู้จักการการแก้ปัญหาได้ดีที่สุด

ภาษา ศิลปะอย่างที่ได้กล่าวไปคือมีหลากหลายประเภท หากคุณสนใจศิลปะแขนงใดแขนงหนึ่ง ในแขนงนั้นจะนิยามที่แตกต่างกันออกไป และมีศัพท์เฉพาะของศิลปะแขนงนั้น ซึ่งนั้นจะทำให้คุณได้ทราบถึงความหมายของศัพท์แต่ละอย่าง เป็นเปิดโลกที่จะทำให้เราได้เรียนรู้ภาษามากขึ้น

 

 

สนับสนุนโดย วิธีเล่นบาคาร่าให้รวย

ศิลปะของไทยที่เราควรรู้

ศิลปะของไทยที่เราควรรู้ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศิลปะ วัฒนธรรมประเพณีที่หลากหลาย

ศิลปะของไทยที่เราควรรู้ เป็นความพิเศษที่เราสามารถรวบรวมและผสมผสานศิลปะวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว ประเทศไทยเป็นที่ถูกถ่ายทอดและได้รับอิทธิพลทางศิลปะและวัฒนธรรมจากหลายๆที่ เพราะในสมัยก่อน ก่อนที่จะถูกแบ่งแยกออกเป็นประเทศเช่นทุกวันนี้

ดินแดนแห่งนี้พื้นที่ที่เป็นสยามประเทศและมีการสืบค้นได้ตั้งแต่กรุงศรีสมัยอยุธยา แต่ก่อนเป็นพื้นแห่งนี้เป็นพื้นที่ที่มีการซื้อขายและแลกเปลี่ยนสินค้าจากคนหลายๆชาติ ผู้คนที่อพยพเคลื่อนย้ายเข้ามาอาศัย บริเวณแห่ง ก็เป็นคนที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์และสิ่งที่ติดตามมากับผู้คนนั่นก็คือ ศิลปะ วัฒนธรรมและประเพณีต่างๆ ที่หล่อหลอมมาเป็นศิลปะ วัฒนธรรมประเพณีที่มีเอกลักษณ์อย่างไทยในทุกวันนี้

จิตรกรรมฝาผนังถือเป็นศิลปะที่เราสามารถพบได้ตามวัดวาอารามทั่วไปในประเทศไทย

เป็นลวดลายที่ทั้งวิจิตรและงดงาม อีกทั้งศิลปะเหล่านี้ยังเป็นสถานที่ที่บอกเล่าบรรยายถึงเรื่องราวเหตุการณ์สำคัญ วิถีชีวิตของผู้คนและบ้านเมืองในสมัยก่อน หรือแม้แต่เล่าถึงวรรณคดีต่างๆ ผ่านทางภาพวาดบนฝนผนัง ถือว่าเป็นการบอกเล่าเรื่องราวผ่านทางภาพวาดได้อย่างวิจิตรงดงาม

ลวดลายต่างๆที่ปรากฏนอกจาดบนฝาผนังนั้นล้วนมีพื้นฐานมาจากการวาดแบบเดียวกัน

และลวดลายที่แสดงถึงความเป็นไทยได้อย่างมีเอกลักษณ์นั่นก็คือลายกระหนกลายกระหนกซึ่งถือเป็นลายพื้นฐานที่สำคัญมากในงานจิตรกรรมของไทย ลายวาดแบบไทยนั่นมีแรงบันดาลใจส่วนใหญ่มาจากธรรมชาติ ได้แก่ ดอกบัว ดอกมะลิ ดอกชัยพฤกษ์ ใบฝ้ายเทศ ผักกูด ตาอ้อย เถาวัลย์ กาบไผ่ เปลวไฟ ฯลฯ 

ลายกระหนกมีต้นแบบมาจากหางไหลของเปลวไฟซึ่งเป็นลายแม่แบบ มีลายกระหนกที่สำคัญด้วยกันหลายลาย ได้แก่ กระหนกสามตัว กระหนกเปลว กระหนกใบเทศ กระหนกผักกูด กระหนกกอ เป็นต้น และประเภทของลายกระหนกก็ถูกแบ่งออกเป็นหลายประเภทด้วยกัน

ซึ่งถูกแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ๆได้ดังนี้คือ กระหนกเปลว กระหนกใบเทศ กระหนกผักกูด กระหนกนารี กระหนกหางหงษ์ กระหนกลายนาค กระหนกลายช่อต่างๆ ซึ่งลวดลายกระหนกทั้งหลายเป็นลายสำหรับคนที่กำลังจะฝึกวาดลายไทย ควรที่จะศึกษาและทำเรียนรู้เอาไว้เพื่อที่การพื้นฐานในการวาดภาพและลวดลายอื่นๆอีกต่อไป

 

งานวาดเส้น ลายไทยและจิตรกรรมไทย

นั่นถือว่ามีความเป็นเอกลักษณ์ที่เด่นชัดทางศิลปปปปะที่ถูกสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน เป็นมรดกทางศิลปะที่ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น ลวดลายไทยเป็นลวดลายที่เกิดจากสังเกตุความงามที่มาจากธรรมชาติและดัดแปลงมาเป็นลายวาดที่สวยงามได้อย่างลตัว ถือเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและควรค่าแก่การอนุรักษ์เอาไว้

เพราะลวดลายเหล่านี้เกิดภูมิปัญญาของบรรพชนที่รังสรรค์ผลงานเหล่านี้ไว้อย่างวิจิตรงดงาม อีกทั้งยังถือเป็นศิลปะชั้นสูงที่มักจะถูกวาดขึ้นเพื่อประดับตกแต่ง อยู่ในวัด พระราชวัง ซึ่งเป็นสถานที่ที่คนไทยให้ความเคารพและศรัทธา ดังนั้นศิลปะเหล่านี้จึงถูกยกย่องว่าเป็นศิลปะชั้นสูง ทรงคุณค่าและควรรักษาให้ดำรงอยู่ไว้นานสืบนาน 

 

Kodak Colorplus หนึ่งในฟิล์มที่มือใหม่ควรหามาลอง

Kodak Colorplus หนึ่งในฟิล์มที่มือใหม่ควรหามาลอง ฟิล์มสุดยอดคลาสสิคอีกตัวที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ แล้วก็ยังมีการผลิตอยู่เรื่อยๆ แล้วน่าจะถือว่าเป็นฟิล์มที่ราคาถูกที่สุดในท้องตลอดแล้วล่ะ

ดังนั้นฟิล์มรุ่นนี้ถือว่าเป็นฟิล์มที่เหล่ามือใหม่หัดถ่ายฟิล์มควรหามาลองหามาเล่นด้วย

จะได้ไม่ต้องรู้สึกเสียดายกับการฝึกถ่ายแล้วได้ภาพเสียๆ ซึ่งเป็นฟิล์มที่มีระดับค่าความไวแสงหรือ ISO อยู่ที่ 200 ซี่งเป็นระดับที่มาตรฐานมากๆแล้วก็ยังราคาไม่แพง แล้วจำนวนรูปที่ได้ก็เป็นปกติที่ 36+ รูป เพราะฉนั้นจึงคุ้มค่ากับราคาอย่างมาก

อย่างที่เรารู้กันว่าฟิล์มที่มีค่าความไวแสงที่เป็นมาตรฐานที่ 200 นี้ก็ควรจะใช้ถ่ายกับสภาพแสงที่พอเหมาะพอเจาะ อย่างเอาไปถ่ายที่มืดเกินไป เพราะว่าภาพจะเสียอย่างแน่นอน

ถ้าจะใช้ถ่ายจริงๆก็ควรจะใช้ขาตั้งกล้อง หรือไม่ก็ติดแฟลชไปเลย เอกลักษณ์ของฟิล์มตัวนี้คือภาพที่ได้จะออกติดโทนเหลืองนิดหน่อยนั้นทำให้เป็นสิ่งที่เหล่านักเล่นฟิล์มจดจำสีตามกล่องของมันที่เป็นสีเหลือง

ซึ่งใครที่ไม่ชอบภาพติดเหลืองก็จะไม่ชอบไปเลย แต่อย่างผมนี่ชอบมากๆ

แล้วเมื่อมันเป็นฟิล์มที่ราคาถูก เพราะฉนั้นเรื่องเกรนแล้วก็รายละเอียดนั้นก็จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าอยู่ในขั้นรับได้ ฟิล์มนี้ถ้าจะให้เทียบแล้วละก็ต้องบอกเลยว่าเป็นฟิล์มสามัญประจำบ้านเลยก็ว่าได้ ถ้าออกไปถ่ายเล่นโดยไม่เป็นการเป็นงานแล้วก็ หยิบตัวนี้ไปได้เลยไม่ผิดหวังแน่นอน

ถ้าจะให้บอกว่าฟิล์มนี้คุ้มค่าแค่ไหน ก็ต้องขึ้นอยู่ว่าได้ฟิล์มนี้มาในราคาเท่าไหร่ ซึ่งผมได้มีโอกาสเริ่มเล่นฟิล์มตัวนี้ตอนที่ราคาเพียง 90 บาท แต่ตอนนี้ก็ขึ้นเอาๆไปเกือบเท่าตัวแล้ว ผมก็คิดว่าผมคงจะเลิกใช้มันแล้วไปใช้ตัวที่มีรายละเอียดที่ดีกว่าแต่ราคายังไม่ขึ้นนัก ฟิล์มนี้ไม่ต้องไปคิดมากว่าควรเอาไปถ่ายกับอะไร มันคือฟิล์มราคาประหยัดที่จะเอาไปถ่ายกับอะไรก็ได้ ไม่ต้องซีเรียสมาก

 

สนับสนุนข้อความโดย แทงมวยสด

ลักษณะงานศิลปะของไทย

ลักษณะงานศิลปะของไทย มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจน

ลักษณะงานศิลปะของไทย หรือแม้อาจจะมีความคล้ายคลึงกันมากแค่ไหนก็จะมีจุดโดดเด่นออกมา ที่จะสามารถชี้ได้ว่างานแบบไหนเป็นลักษณะใด และที่ว่างานบางประเภทที่มีความเหมือนกันนั้นเพราะศิลปะคือวัฒนธรรมที่ถูกเผยแพร่ไปยังหลายๆที่ เช่นเดียวกันกับศิลปะของไทย

ที่ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศอื่นๆ แต่ก็ได้นำมาประยุกต์ พัฒนารูปแบบ ให้เป็นเอกลักษณ์ของศิลปะแบบไทยที่สร้างความแตกต่างจากของต่างชาติอย่างประเทศในแถบตะวันตกอย่างสิ้นเชิง แต่จะมีอะไรบ้างที่มีข้อแตกต่าง? ไปดูกัน

1.ไม่เน้นสร้างให้เหมือนจริงจากธรรมชาติ

เพราะศิลปะทางตะวันตกรังสรรค์โดยธรรมชาตินิยม หรือ ศิลปะเสมือนจริง ซึ่งมีความแตกต่างจากของไทยตรงที่ของไทยเรานั้นจะเป็นการดัดแปลงจากธรรมชาติไปตามคตินิยม

จัดเป็นศิลปะที่มีอุดมคติ หรือ ศิลปะประเพณี ชิ้นงานจะถูกรังสรรค์ขึ้นจากการใช้ปรัชญา อย่างเช่น ความเชื่อที่ต่อการมีอยู่จริงของสวรรค์และนรก ทำให้ต้องกำหนดแบบแผนขึ้นที่ว่าแบบครู อย่างเช่น เทพ เทวดา มนุษย์ สัตว์ รวมถึงธรรมชาติก็จะเป็นแบบที่สามารถกำหนดขึ้นมาเองได้

2.แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ

ธรรมชาติไม่ศิลปะ แต่เป็นสิ่งกระตุ้น เป็นแรงบันดาลใจ ที่ทำให้พึ่งพอใจในความสวยงามที่ถูกสร้างขึ้นโดยไม่มีใครควบคุม การมองความสวยของธรรมชาติ จะถูกถ่ายออกมาได้หลากหลายรูปแบบ หากสังเกตเห็นลวดลาดการวาดการแกะสลักของไทยนั้นส่วนใหญ่ก็ได้แนวคิดมาจากธรรมชาติอย่าง ดอกไม้ ต้นไม้ สัตว์

รวมไปถึงสัตว์ในวรรณคดีจะเห็นได้ว่าสัตว์แต่ละชนิดมีความสัตว์ที่เราเห็นได้ทั่วไปแต่ถูกผสมผสานไปด้วยจินตนาการที่หลากหลายจึงทำให้กลายเป็นเอกลักษณ์ศิลปะของไทย

3.อิทธิพลจากความเชื่อทางศาสนาและไสยศาสตร์

ในความเชื่อทางศาสนา คนไทยส่วนใหญ่เดิมทีนับถือศาสนาพุทธ นิกายหินยานเป็นหลักและผสมผสานกับความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ ศูนย์กลางของสังคมไทยแต่โบราณคือ วัด เป็นสถานที่ที่รวบรวมศิลปะของไทยไว้ทุกแขนงอย่าง

ผังของศาสนสถาน การสร้างพระพุทธรูป ฯลฯ อีกแนวความเชื่อของยุคสมัยก่อนคือ ไสยศาสตร์ ความเชื่อนี้ถูกสร้างขึ้นก่อนจะที่เปลี่ยนไปนับถือศาสนาพุทธ เป็นความเชื่อในสิ่งลี่ลับ เหนือธรรมชาติอย่าง ภูต ผี ปีศาจ วิญญาณ ที่ให้ทั้งคุณและโทษ มีสร้างพิธีกรรมขึ้นมาให้ดูน่าเชื่อถือ และเอาสิ่งชนะเหล่านั้นเช่น การสักยันต์ เป็นต้น

ศิลปะของไทยนั้นมีความสวยงาม ที่ให้ความรู้สึกถึงความอ่อนช้อย นุ่มนวม ประณีต

ซึ่งลักษณะเหล่านี้เป็นเอกลักษณ์ของศิลปะแบบไทยที่เป็นชาติเสรี รักอิสระ แสดงให้เห็นถึงอุปนิสัยของคนไทยที่รังสรรค์ชิ้นงานขึ้น ศิลปะของไทยจึงมีการวางแบบแผนวิธีทำและลักษณะต่างๆ ให้เป็นแบบแผนที่ชัดเจนและแน่นอนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

 

ขอบคุณที่มาของบทความ แทงบอลไม่มีขั้นต่ำ