grandprixactual (1)
Search
Close this search box.

Tag: ศิลปะ

ZEN MIND การจดจ่อกับสิ่งเดียว 

ZEN MIND การจดจ่อกับสิ่งเดียว  วิถีของพระโพธิสัตว์คือวิถีที่เรียกว่า การจดจ่อกับสิ่งเดียว หรือ ทางรถไฟสายหนึ่งที่ยาวหลายพันไมล์ ทางรถไฟจะเหมือนเดิมเสมอ เมื่อไรที่มันกว้างขึ้นหรือแคบลง หายนะจะต้องเกิดขึ้น ไม่ว่าเธอจะไปไหน ทางรถไฟจะเหมือนเดิม นี่คือวิถีของพระโพธิสัตว์ ดังนั้น แม้พระอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตก พระโพธิสัตว์ก็มีเพียงทางเดียว วิถีของพระองค์คือการแสดงออกถึงธรรมชาติและความจริงแท้ของพระองค์ในทุกชั่วขณะ

เราบอกว่า ทางรถไฟ แต่จริงๆแล้ว ไม่มีหรอก ความจริงแท้นั่นละคือทางรถไฟ ภาพที่เราเห็นจากรถไฟจะเปลี่ยนไป แต่เราจะยังวิ่งอยู่บนทางรถไฟสายเดิมเสมอ ทางนี้ไม่มีจุดเริ่มต้นหรือสิ้นสุด เป็นทางที่ไร้การเริ่มต้น ไร้การสิ้นสุด ไม่มีจุดเริ่มน้น ไม่มีจุดสิ้นสุด ไม่มีสิ่งใดที่จะบรรลุ เพียงแค่วิ่งไปเรื่อยๆ ในทางเดียว นี่คือธรรมชาติของการปฏิบัติเซนของเรา

เมื่อใดที่เธอเกิดความสงสัยใคร่รู้ในทางรถไฟสายนี้ขึ้นมา อันตรายก็อยู่ที่นั้น เธอไม่ควรมองทางรถไฟ เธอจะเกิดอาการวิงเวียนถ้ามอง ของให้เธอเพียงแค่ชื่นชมทัศนียภาพที่เห็นจากรถไฟเท่านั้น นี่คือวิถีของเรา ผู้โดยสารไม่จำเป็นต้องสงสัยใหร่รู้กับทางรถไฟ จะมีคนคอยดูแลเรื่องนี้ให้เอง พระพุทธองค์จะคอยดูแลเอง อย่างไรก็ตาม บางครั้งเราจะพยายามอธิบายถึงทางรถไฟสายนี้ เพราะอะไรก็ตามที่เหมือนเดิมไม่เป้ลี่ยนแปลง มักจะก่อเกิดความสงสัยใคร่รู้ เราจะสงสัยว่า เป็นไปได้อย่างไรที่พระโพธิสัตว์จะเป็นเหมือนเดิมตลอดเวลา อะไรคือความลับของพระองค์ แต่ไม่ความลับใดๆทั้งสิ้น ทุกคนมีธรรมชาติเหมือนกับทางรถไฟทั้งนั้น

เพื่อนรักสองคน โชเกอิและโฮฟูกุ คุยกันถึงวิถีของพระโพธิสัตว์ โชเกอิ บอกว่า แม้หากว่าพรุอรหันต์ ผู้รู้แจ้ง จะมีความปรารถนาที่ชั่วร้าย กระนั้นคำของตถาคต พระพุทธองค์ ก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่ได้เป็นสองอย่าง ฉันจะบอกว่าตถาคตพูด แต่คำพูดของพระองค์ไม่ได้เป็นทวิภาวะ

โฮฟูกุ กล่าวว่า แม้ท่านจะกล่าวเช่นนั้น แต่ความเห็นของท่านก็ไม่ถูกเสียทั้งหมด โชเกอิจึงถามว่า ท่านเข้าใจคำของตถาคตว่าอย่างไรเล่า และฟูกุกล่าวว่า เราถกกันมากพอแล้วมาดื่มชากันเถอะ โฮฟูกุไม่ได้ตอบสหายของเท่าน เพราะการตีความวิถีของเราด้วยคำพูดเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  คาสิโนออนไลน์ได้เงินจริง

Art ศิลปะกับการพัฒนา

Art ศิลปะกับการพัฒนา เมื่อพูดถึงศิลปะที่เป็นศาสตร์หนึ่งของสุนทรียศาสตร์แล้วนั้นเชื่อว่าทุกคนต้องเห็นถึงความสำคัญ แต่ว่าศิลปะนั้นมีความสำคัญขนาดไหนนั้นและเราจะสามารถส่งเสริมศิลปะให้กับเด็กอย่างไรเพื่อจะเป็นการพัฒนาและสนับสนุนในตัวเด็กคนนั้นๆ

ความเข้าใจที่สำคัญเกี่ยวกับศิลปะเราต้องมีความเชื่อว่าศิลปะนั้นเป็นหนึ่งในพัฒนาการของเด็ก เด็กจะต้องได้เรียนรู้และทำกิจกรรมศิลปะประหนึ่งว่าศิลปะนั้นคืออาหารชนิดหนึ่งที่จะต้องทานให้ครบห้าหมู่ ชีวิตเด็กต้องมีกิจกรรมที่เป็นกิจกรรมศิลปะเข้าไปอยู่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตนั่นเอง

เราคงได้ยินกันบ่อยๆในเรื่องสมองซีกซ้ายและสมองซีกขวา ซีกขวานั้นจะเป็นซีกของจินตนการซีกซ้ายจะเป็นเรื่องของความคิดที่เป็นตรรกะอะไรต่างๆ ถ้าเด็กจะพัฒนาอย่างสมบูรณ์ที่จะสามารถได้ใช้พลังสมองทั้งสองข้าง ศิลปะนั้นจำเป็นอย่างแน่นอน

ในระดับเด็กนั้นเอประกวดอะไรเราจะสามารถสู้ได้ไม่ว่าจะเป็นคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ โดยทั่วไปแล้วประเทศเรายังพัฒนาสู้ประเทศทางตะวันตกหรือญี่ปุ่นอะไรไม่ค่อยได้ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะว่าเราไม่ได้สงเสริมทางด้านศิลปะอย่างชัดเจน มีนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังระดับโลกได้พูดถึงจินตนาการและวิทยาศาสตร์ไว้อย่างชัดเจนว่า จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ เพราะเมื่อมีจินตนาการแล้วตัวจินตนาการนั้นสามารถนำไปสู่การค้นหาความรู้อื่นๆได้นั่นเอง ดังนั้นสิ่งที่ส่งเสริมที่ชัดเจนในเรื่องของจินตนาการนั้น ศิลปะจึงเป็นสิ่งที่มีบทบาทสำคัญมากๆ

ในบางครั้งเรามักจะได้ยินว่าศิลปะนั้นไม่มีขอบเขตแต่ในปัจจุบันพ่อแม่บางครั้งมีการสอนให้เด็กๆระบายสีหรือทำเรื่องเกี่ยวกับศิลปะให้อยู่ในขอบเขตเพราะมองว่าเป็นเรื่องความสวยงามทำให้เด็กๆถูกจำกัดในเรื่องของศิลปะนั่นเอง ดังนั้นต้องดูว่าพ่อแม่นั้นรู้จักศิลปะมากพ่อหรือยังถึงได้มีการกำหนดกฎเกณฑ์เด็กเช่นนั้น ต้ องดูว่าศิลปะในความเป็นจรองนั้นเป็นอย่างไรบ้างซึ่งปัจจุบันนี้ศิลปะมีหลากหลายชนิดมาก

หากยกตัวอย่างจากศิลปินระดับโลกเช่นปิกัสโซ่ เคยพูดไว้ว่า ในเด็กทุกคนนั้นมีความศิลปินอยู่ในตัวแต่ความยากคือว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้ศิลปินนั้นยังคงอยู่ในตัวเด็ก โดยความเป็นศิลปะนั้นมีอยู่ในตัวของเด็กทุกคนอยู่แล้วและธรรมชาติในตัวเด็กและการที่ผู้ใหญ่มีความคิดแบบนั้นก็เป็นไปตามทฤษฎีที่ว่า ในเด็กนั้นจะมีความมั่นใจในเรื่องของสิลปะสูงสุดและเมื่อโตขึ้นมานั้นความมั่นใจในเรื่องศิลปะก็จะลดลงจนหมดเพราะเกิดจากการที่ผู้ใหญ่เอากรอบความคิดมาใสในตัวเด็กนั่นเอง

แต่ถ้าเด็กนั้นได้รับการส่งเสริมอย่างถูกวิธีแล้วนั้นได้รับความรู้ที่ถูกต้องในความเป็นจริงกับศิลปะนั้นซึ่งมีหลากหลายรูปแบบให้ตรงตามความต้องการของเด็ก เด็กก็จะมีการพัฒนาขึ้นไปจนสามารถเป็นศิลปินได้ในที่สุด

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย   เว็บบาคาร่าฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

การ์ตูนล้อเลียน

การ์ตูนล้อเลียน คืออะไรแล้วทำไมคนถึงสามารถนำบุคคลต่างๆมาล้อเลียนผ่านการ์ตูนได้อย่างสนุกสนานเศร้าเสียงหัวเราะและคอนเทนเนอร์ต่างให้กับโลกในยุคปัจจุบัน มีเพจชื่อดังมากมายที่มีชื่อเสียงมาได้เพราะการทำการ์ตูนล้อเลียนนักการเมืองต่างๆบุคคลในโลกออนไลน์ที่มีชื่อเสียงระดับหนึ่งการทำการ์ตูนล้อเลียนถือว่าเป็นการไม่ผิดกฎหมาย

เพราะไม่ได้ระบุตัวตนบุคคลอย่างชัดเจนมีการนำคาแรคเตอร์ต่างๆมาแปลงเพื่อให้บุคคลเหล่านั้นเข้าใจง่าย อาจจะถามว่าเพจไหนเป็นเพจการเมืองที่ดังที่สุดมีการ์ตูนล้อเลียนมากมายที่โลกออนไลน์ให้ความสนใจจากรัฐบาลก็ให้ความสนใจเองนั่นก็คือเพจไข่แมว ไข่แมวเป็นเพจแนวเสียดสีสังคมการเมืองเรื่องราวต่างๆ

ที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบันผ่านทางการ์ตูนที่มีคาแรคเตอร์ชัดเจนโดยที่ไม่บอกชื่อต่างๆแต่คนก็สามารถตีความได้ไปในทางทิศเดียวกันว่าเป็นคนนั้นคนนี้เพราะในโครงหน้าและหน้าตาต่างๆการกระทำคำพูดบ่งชี้แปลว่าเขาหมายถึงใคร ทั้งๆที่ไม่ได้เอ่ยชื่อหรือแม้แต่เขียนชื่อลงไปในนั้น การออกแบบตัวการ์ตูนเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับใครหลายคนที่เรียนทางด้านนี้มาแต่ส่วนใหญ่ที่ใช้การได้ก็คืออัตราส่วนหนึ่งต่อหนึ่งนั้นคือลำตัวหนึ่งส่วนและหัวมีอัตราส่วนที่เท่ากันยกตัวอย่างเช่นถ้าจะออกแบบใครสักคนที่มีขายแต่เด่นชัดที่เขามีโครงหน้าเป็นรูปสี่เหลี่ยมเราอาจจะลำตัวเขาขึ้นมาขนาด 10 cm แล้วอัตรา 1 ต่อ 1 ก็ต้องวาดหัว 10 เมตร

นี่จะทำให้มีลักษณะที่ออกมาได้ก็คือตัวเล็กและหัวใหญ่เป็นคาแรคเตอร์หน้าอย่างเด่นชัดและองค์ประกอบอื่นๆหากคุณใส่อย่างชัดเจนเช่นดวงตาหาคนนั้นเป็นคนที่ดวงตาเล็กคาแรคเตอร์นี้หน้าเหลี่ยมดวงตาเล็กและจมูกเขาใหญ่ป้าเขาก็ใหญ่เช่นกันหาคนอื่นมาเห็นคาแรคเตอร์ที่เด่นชัดขนาดนี้ก็คงจะบอกได้ว่าเป็นคาแรคเตอร์ของใครนี่คือส่วนหนึ่งที่ทำให้การออกแบบตัวละครมีความสำคัญอย่างมากกับหน้าจริง

ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมาใช้จะทำให้การออกแบบง่ายขึ้นเยอะมีคอร์สสอนนักเรียนมากมายในปัจจุบันที่สอนเกี่ยวกับการออกแบบตัวละครต่างๆไม่ว่าจะเป็นการนำมาใช้ในการทำอนิเมชั่นสื่อการเรียนการสอนต่างๆหรือแม้แต่การทำเกมหนึ่งในนั้นก็คือการเอาไปทำศิลปะเรียนศิลปะล้อเลียนจึงมีผลทางการเมืองอย่างมากเพราะไม่สามารถดำเนินคดีได้โดยตรงเพราะว่าไม่ได้หมายถึงใครคนใดคนหนึ่งแต่อย่างที่ทราบกันว่าคาแรคเตอร์เหล่านี้

บ่งบอกไปที่นักการเมืองต่างๆที่ถูกนำมาล้อเลียนในทุกๆวันในหนังสือพิมพ์ณปัจจุบันก็ยังมีการใช้ภาพล้อเลียนเป็นการ์ตูนเล่าเรื่องราวต่างๆผ่านการเขียนของนักเขียนมากมายและนำมาลงในหนังสือพิมพ์ประเภทต่างๆเพื่อนำไปใช้เช่นเดียวกันเพื่อสื่อสารให้คนรอบข้างรู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นเพื่อให้เข้าใจง่ายอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น